Exposure and starvation can occasio

Exposure and starvation can occasionally kill scarlet tanagers, especially when exceptionally cold or wet weather hits eastern North America. They often die from collisions with man-made objects including TV and radio towers, buildings and cars.[14] Beyond failure due to brown-headed cowbirds (Molothrus ater) (see below), predation is the primary direct cause of nesting failures. In one study, 69-78% of nests were predated.[15] Recorded nest predators are primarily avian like blue jays (Cyanocitta cristata), common grackles (Quiscalus quiscula) and American crows (Corvus brachyrhynchos), although others like squirrels, chipmunks, raccoons (Procyon lotor) and snakes probably take a heavy toll as well as an occasional unlucky fledgling as do cats (Felis catus). Raptorial birds hunt and kill many scarlet tanagers from fledgling throughout their adult lives, including all three North American Accipiter species, Merlins (Falco columbarius), eastern screech owls (Megascops asio), barred owls (Strix varia), long-eared owls (Asio otus) and short-eared owls (Asio flammeus).[4][16][17]

These birds do best in the forest interior, where they are less exposed to predators and brood parasitism by the brown-headed cowbird. The cowbird lays its eggs in most any other passerines nest and the young often outcompete the young of the host bird and may cause failure and starvation. Some birds have evolved strategies to deal with cowbird parasitism, but the scarlet tanager, being a bird that evolved to breed in forest interior and not previously exposed to this, are helpless victims to brood parasitism. Where forest fragmentation occurs, which is quite widespread, the scarlet tanager suffers high rates of predation and brood parasitism in small forest plots and are often absent completely from plots less than a minimum size. Their nests are typically built on horizontal tree branches. Specifically their numbers are declining in some areas due to habitat fragmentation, but on a global scale tanagers are a plentiful species. Thus, the IUCN classifies the scarlet tanager as being of least concern.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เปิดรับแสงและความอดอยากสามารถบางครั้งฆ่าสีแดง tanagers โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเย็นล้ำ หรือสภาพอากาศที่เปียกนิยมตะวันออกอเมริกาเหนือ พวกเขามักจะตายไม่เกิดการชนกับวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้นรวมถึงทีวีและวิทยุทาวเวอร์ อาคาร และรถยนต์ [14] ความล้มเหลวอื่น ๆ เนื่องจาก cowbirds หัวสีน้ำตาล (Molothrus รีเอเทอร์) (ดูด้านล่าง), predation เป็นสาเหตุโดยตรงหลักของวิวสามารถความล้มเหลว ในการศึกษาหนึ่ง มี predated 69-78% ของรัง [15] ล่ารังบันทึกมีหลักนกบลูเจย์ (Cyanocitta cristata), ทั่วไป grackles (Quiscalus quiscula) และอเมริกันตรง (นกกา brachyrhynchos), แม้ว่าผู้อื่นเหมือนกระรอก chipmunks แรคคูน (Procyon lotor) และงูคงจะโทรหนักเป็นการ fledgling ไปเป็นครั้งคราวเป็นทำแมว (ความ) Raptorial นกล่า และฆ่า tanagers สีแดงจำนวนมากจาก fledgling ตลอดชีวิตผู้ใหญ่ รวมทั้งหมดสาม Accipiter แถบอเมริกาเหนือพันธุ์ Merlins (Falco columbarius), นกฮูก screech ตะวันออก (Megascops asio), นกฮูก barred (สตริกซ์ varia), หูยาวนกฮูก (Asio otus) และหูสั้นนกฮูก (Asio flammeus) [4] [16] [17]ภายในป่า ที่พวกเขามีน้อยสัมผัสกับล่าและ brood parasitism โดย cowbird หัวสีน้ำตาลนกเหล่านี้ทำดีที่สุด Cowbird วางของไข่ในรัง passerines อื่นใดมากที่สุด และเด็ก ๆ มักจะ outcompete สาวของนกโฮสต์ และอาจทำให้เกิดความล้มเหลวและความอดอยาก นกบางอย่างมีพัฒนากลยุทธ์การจัดการกับ cowbird parasitism แต่ tanager สีแดง เป็นนกที่พัฒนาขุนในภายในป่า และไม่เคย สัมผัสกับ เป็นเหยื่อกำพร้าเพื่อ brood parasitism ซึ่งการกระจายตัวของป่าเกิดขึ้น ซึ่งเป็นที่ค่อนข้างแพร่หลาย tanager สีแดง suffers parasitism predation และคอกในผืนป่าขนาดเล็กและมีมักขาดอย่างสมบูรณ์จากผืนน้อยกว่าขนาดต่ำอัตราสูง รังของมันโดยทั่วไปอยู่ในสาขาแนวต้นไม้ โดยเฉพาะจำนวนที่ลดลงในบางพื้นที่เนื่องจากการกระจายตัวของการอยู่อาศัย แต่ในระดับสากล tanagers พันธุ์อุดมสมบูรณ์ ดังนั้น เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติการประมวล tanager สีแดงเป็นความกังวลน้อยที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเปิดรับข่าวสารและความอดอยากในบางครั้งสามารถฆ่า tanagers สีแดงเข้มเป็นพิเศษโดยเฉพาะเมื่อสภาพอากาศหนาวเย็นหรือเปียกฮิตภาคตะวันออกของทวีปอเมริกา พวกเขามักจะเสียชีวิตจากการชนกับวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้นรวมทั้งอาคารโทรทัศน์และวิทยุอาคารและรถยนต์. [14] นอกเหนือจากความล้มเหลวเนื่องจากการ cowbirds สีน้ำตาลหัว (Molothrus ผสม) (ดูด้านล่าง) ปล้นสะดมเป็นสาเหตุโดยตรงหลักของความล้มเหลวที่ทำรัง ในการศึกษา 69-78% ของรังฟิก. [15] บันทึกล่ารังส่วนใหญ่จะมีนกเช่นนกสีฟ้า (Cyanocitta cristata) grackles ทั่วไป (Quiscalus quiscula) และกาอเมริกัน (Corvus brachyrhynchos) แม้ว่าคนอื่น ๆ เช่นกระรอกกระแต แรคคูน (อค lotor) และงูอาจจะใช้เวลาอย่างหนักเช่นเดียวกับนกโชคร้ายเป็นครั้งคราวเช่นเดียวกับแมว (แมว catus) นก raptorial ล่าและฆ่า tanagers สีแดงจำนวนมากจากประสบการณ์ตลอดชีวิตผู้ใหญ่ของพวกเขารวมทั้งสามอเมริกาเหนือสายพันธุ์พิเตอร์, เมอร์ลิน (Falco columbarius) นกฮูกกรีดตะวันออก (Megascops ASIO) นกฮูกห้าม (ทริคซ์ Varia) นกฮูกยาวหู (Asio otus) และนกฮูกหูสั้น (Asio flammeus). [4] [16] [17] นกเหล่านี้ทำดีที่สุดในการตกแต่งภายในป่าที่พวกเขากำลังเผชิญน้อยกว่าในการล่าและลูกเบียนโดยเบิร์ดสีน้ำตาลหัว เบิร์ดวางไข่ในส่วนอื่น ๆ passerines รังและเยาวชนมักจะ outcompete หนุ่มนกโฮสต์และอาจก่อให้เกิดความล้มเหลวและความอดอยาก นกบางตัวมีการพัฒนากลยุทธ์ในการจัดการกับปรสิตเบิร์ด แต่ Tanager สีแดงเป็นนกที่พัฒนาสายพันธุ์ในการตกแต่งภายในป่าและไม่ให้สัมผัสก่อนหน้านี้เป็นเหยื่อกำพร้าเพื่อลูกเบียน ในกรณีที่การกระจายตัวของป่าที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นที่แพร่หลายค่อนข้าง Tanager สีแดงทนทุกข์ทรมานอัตราที่สูงของการปล้นสะดมและลูกเบียนในแปลงป่าขนาดเล็กและมักจะหายไปอย่างสมบูรณ์จากแปลงน้อยกว่าขนาดต่ำสุด รังของพวกเขาที่ถูกสร้างขึ้นโดยทั่วไปบนกิ่งไม้ในแนวนอน โดยเฉพาะตัวเลขของพวกเขาจะลดลงในบางพื้นที่เนื่องจากการกระจายตัวของที่อยู่อาศัย แต่ใน tanagers ระดับโลกเป็นสายพันธุ์ที่อุดมสมบูรณ์ ดังนั้น IUCN จัด Tanager สีแดงเป็นความกังวลน้อย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พฤติกรรมการเปิดรับ และการอดอาหารสามารถบางครั้งฆ่าสีแดง tanagers โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออากาศหนาวหรือเปียกโคตรฮิตตะวันออกอเมริกาเหนือ พวกเขามักจะตายจากการชนกับวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้น ได้แก่ อาคาร ทีวี และ วิทยุ อาคาร และรถยนต์ [ 14 ] นอกเหนือจากความล้มเหลวเนื่องจากสีน้ำตาลหัว cowbirds ( molothrus ater ) ( ดูด้านล่าง ) การเป็นสาเหตุหลักของความล้มเหลวโดยรัง ในการศึกษาหนึ่ง