Economic development is conducive t

Economic development is conducive to democratisation but is not sufficient for its achievement. For while economic growth provides people with the spare time and resources to partake in politics and also creates the demand for it, it does not automatically ensure democratisation takes place. North East Asia shows that political and economic elites must also support democratisation and this support depends much on its timing. Nevertheless South Korean, Taiwanese and Japanese democracy has all followed periods of strong economic growth.

The very poor simply do not possess the resources required to take part in a democracy let alone the amount required to successfully pressure a ruling regime to democratise. When your first priority is mere survival it can be difficult to find the time for much else. Spare time brings the opportunity to take part in demonstrations and other political activity or even just keeping up with the day's political events. Uneducated and illiterate peasants have throughout history been able to mobilise and form political movements to further their causes. Localised and easily isolated these movements have however almost always lacked the national scale to achieve their goals.

National movements require modern communication technologies and an educated populace both of which are products only of economic development. Education however exemplifies how loose this relationship can be. Almost all of the North East Asian nations invested heavily in both their own education systems and in sending their students to study in western countries. Yet these educated citizens concerned themselves largely with achieving economic prosperity and not with increasing their political freedoms.

Economic growth leads to a more complex and multi-connected economy. This kind of economy breaks down class barriers by necessitating a country's people to interact more often and in more diverse ways. To support and inform economic decision makers a relatively free mass media needs to develop. This mass media can just as easily spread implicit and explicit pro-democracy messages. An implicit message could simply be reporting on a foreign democratic election. Mass media were however rarely used for explicit independent political reporting preferring to restrict their independence to economic reporting. Thus an educated and linked populace does not automatically bring about democratisation but is an important precondition.

Economic development also changes the social composition of a nation, rapidly expanding the middle class. On the eve of Taiwan's democratisation its middle class had expanded to a third of the total adult population. While arguably the middle class benefits most from economic development and thus has the largest vested interest in its continuation this does not automatically translate into support for democracy. If given the choice between continued economic growth under a mild authoritarian regime and a democratic regime which could not so easily deliver continued growth most would have little hesitation in choosing the former. It is inconclusive that conditions for economic growth are more favourably under an authoritarian regime however as corruption and wasted resources can potentially be lowered by a transparent and accountable democratic regime.

Without exception economic growth has drawn the nations of North East Asia into the world economy. This has exposed them to western ideas of democracy and to western influence. As they have all pursued paths of export led industrialisation no country was in a position to ignore western sensibilities and influence. Whether this influence came in the form of economic sanctions against China after Tiananmen Square or as a condition for economic aid its effect was and is significant. South Korea and Taiwan both made the choice to democratise partly to build distinct national identities and partly to earn the sympathy and thus continuing protection of the world. This protection has been as much economic as military with both nations closely linked to the world economy. The collapse of communism in Eastern Europe and Russia decreased the ideological threat South Korea and Taiwan faced and thus allowed pro-democracy forces to shape post-authoritarian politics in these nations. International factors play an important role in prodding a nation towards democratisation.

Social mobilisation theory conceptualises this process. It states that economic development increases the desire and capability of people to participate in decision making and that this facilitates a democratic transition. This process occurs because people's orientation towards political objects is changed as their interaction with the state in the economic sphere increases. Once the state is humanised and people realise its economic policy can be influenced it is a small step to believing that it can be influenced politically. Once begun democratisation tends to develop a momentum all of its own.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อต่อการ democratisation แต่ไม่เพียงพอสำหรับความสำเร็จของ สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจให้คน มีเวลาว่างและทรัพยากรเพื่อเข้าร่วมในการเมือง และยัง สร้างความต้องการนั้น มันไม่โดยอัตโนมัติให้เกิด democratisation เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือแสดงให้เห็นว่าการเมือง และเศรษฐกิจที่ร่ำรวยยังต้องรองรับ democratisation และสนับสนุนนี้มากขึ้นอยู่กับระยะเวลาของ อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ ไต้หวันและญี่ปุ่นประชาธิปไตยได้เวลาไปมาแล้วทั้งหมดของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งดีมากก็ยังไม่มีทรัพยากรที่จำเป็นในการมีส่วนร่วมในประชาธิปไตยประสายอดต้องสำเร็จความดันระบอบปกครองเพื่อ democratise เมื่อของคุณอันดับแรกคือการ อยู่รอดเพียง มันอาจยากที่จะค้นหานานมากอื่น เวลาว่างนำโอกาสในการมีส่วนร่วมในการสาธิต และกิจกรรมทางการเมืองอื่น ๆ หรือแม้แต่เพียงเก็บค่า ด้วยวันที่ของเหตุการณ์ทางการเมือง ชาวนาตามีตามา และ illiterate ตลอดได้ย้ำ และการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อเพิ่มเติมสาเหตุของพวกเขา ไหน และแยกได้เคลื่อนไหวได้แต่มักขาดระดับชาติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของพวกเขาเคลื่อนไหวแห่งชาติต้องการเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยและประชาชนการศึกษาทั้งที่เป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะของการพัฒนาเศรษฐกิจ ศึกษาอย่างไรก็ตาม exemplifies ว่าหลวมความสัมพันธ์นี้ได้ ประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเกือบทั้งหมดลงทุนอย่างมากทั้งระบบการศึกษาของตนเอง และ ในการส่งนักศึกษาไปศึกษาในประเทศตะวันตก ยัง พลเมืองเหล่านี้ศึกษาเกี่ยวข้องตัวเองส่วนใหญ่ กับการบรรลุเป้าหมายความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และไม่ มีการเพิ่มขึ้นของเสรีภาพทางการเมืองเติบโตทางเศรษฐกิจนำไปสู่เศรษฐกิจซับซ้อน และเชื่อมต่อหลาย เศรษฐกิจชนิดนี้แบ่งลงอุปสรรคคลาส โดย necessitating คนของประเทศในการโต้ตอบมากขึ้น และ ในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อสนับสนุน และแจ้งให้ผู้ตัดสินใจทางเศรษฐกิจสื่อมวลชนค่อนข้างฟรีต้องพัฒนา สื่อมวลชนนี้เพียงได้อย่างง่ายดายสามารถแพร่กระจายข้อความประชาธิปไตยนัย และชัดเจน เพียงแค่มีการข้อความนัยในการเลือกตั้งประชาธิปไตยต่างประเทศ สื่อมวลชนได้แต่ไม่ค่อยใช้สำหรับชัดเจนอิสระทางการเมืองการพลุกพล่านจำกัดอิสรภาพของพวกเขารายงานเศรษฐกิจ ดังนั้นประชาชนการศึกษา และเชื่อมโยงโดยอัตโนมัตินำเกี่ยวกับ democratisation แต่เป็นเงื่อนไขที่สำคัญพัฒนาเศรษฐกิจจะเปลี่ยนองค์ประกอบทางสังคมของชาติ ชนชั้นกลางที่กำลังขยายอย่างรวดเร็ว ในวัน democratisation ของไต้หวัน ของชั้นกลางได้ขยายไปหนึ่งในสามของประชากรผู้ใหญ่ ว่าชั้นกลางประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และมีชอบธรรมที่ใหญ่ที่สุดในความต่อเนื่องดังนั้น นี้ไม่โดยอัตโนมัติแปลสนับสนุนประชาธิปไตย ถ้าให้เลือกระหว่าง ต่อเศรษฐกิจภายใต้ระบอบประเทศไม่รุนแรงและระบอบประชาธิปไตยที่ไม่สามารถดังได้นำส่งเติบโตอย่างต่อเนื่องส่วนใหญ่จะมีลังเลเล็กน้อยในการเลือกเดิม Inconclusive ว่า สภาพเศรษฐกิจจะขึ้น favourably ภายใต้ระบอบการปกครองประเทศอย่างไรก็ตามเป็นความเสียหายและสิ้นเปลืองทรัพยากรสามารถอาจสามารถลดลงตามระบอบประชาธิปไตยโปร่งใส และรับผิดชอบได้โดย เศรษฐกิจมีลากประเทศของเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่เศรษฐกิจโลก นี้ได้สัมผัสกับพวกเขา เพื่อประชาธิปไตยคิดตะวันตก และอิทธิพลตะวันตก เท่าที่ทราบเส้นทาง pursued ทั้งหมดของ industrialisation นำส่งออก ประเทศไม่อยู่ในตำแหน่งเพื่อละเว้น sensibilities ตะวันตกและอิทธิพล ว่า อิทธิพลนี้มาในรูปแบบของการลงโทษทางเศรษฐกิจจีน หลังซซี หรือ เป็นเงื่อนไขสำหรับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจของผลได้ และมีความสำคัญ เกาหลีใต้และไต้หวันทั้งสองได้เลือก democratise บางส่วน เพื่อสร้างเอกลักษณ์แห่งชาติทั้งหมด และบางส่วน จะได้รับการเห็นใจและดัง ต่อเนื่องป้องกันของโลก การป้องกันนี้ได้มากที่สุดเศรษฐกิจเป็นทหารกับประเทศทั้งสองอย่างใกล้ชิดเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก การล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกและรัสเซียลดอุดมการณ์คุกคามเกาหลีใต้และไต้หวันต้องเผชิญ และจึง อนุญาตให้กองกำลังประชาธิปไตยการเมืองประเทศหลังรูปร่างในประเทศเหล่านี้ ปัจจัยระหว่างประเทศมีบทบาทสำคัญในประเทศต่อ democratisation proddingทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงสังคม conceptualises กระบวนการนี้ ระบุว่า พัฒนาเศรษฐกิจเพิ่มความปรารถนาและความสามารถของผู้เข้าร่วมในการตัดสินใจ และที่ นี้ช่วยเปลี่ยนประชาธิปไตย กระบวนการนี้เกิดขึ้นเนื่องจากแนวของบุคคลมีต่อวัตถุทางการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงเป็นการโต้ตอบกับสถานะในเพิ่มเขตเศรษฐกิจ Humanised รัฐ และประชาชนตระหนักถึง นโยบายทางเศรษฐกิจอาจมีผลมาเป็นขั้นตอนเล็ก ๆ จะเชื่อว่า มันสามารถมีอิทธิพลทางการเมืองได้ เมื่อ democratisation เริ่มมีแนวโน้มพัฒนาเป็นโมเมนตัมทั้งหมดของตัวเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการเป็นประชาธิปไตย แต่ไม่เพียงพอสำหรับความสำเร็จของ สำหรับในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจให้คนที่มีเวลาว่างและทรัพยากรที่จะมีส่วนร่วมในทางการเมืองและยังสร้างความต้องการมันก็ไม่ได้โดยอัตโนมัติให้แน่ใจว่าประชาธิปไตยจะเกิดขึ้น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเอเชียแสดงให้เห็นว่าชนชั้นทางการเมืองและเศรษฐกิจยังต้องสนับสนุนประชาธิปไตยและการสนับสนุนนี้ขึ้นอยู่มากในระยะเวลาของมัน อย่างไรก็ตามเกาหลีใต้ประชาธิปไตยไต้หวันและญี่ปุ่นมีระยะเวลาปฏิบัติตามทุกการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง. น่าสงสารมากก็ไม่ได้มีทรัพยากรที่จำเป็นในการมีส่วนร่วมในการปกครองระบอบประชาธิปไตยให้อยู่คนเดียวจำนวนเงินที่ต้องประสบความสำเร็จในการปกครองระบอบการปกครองกดดันเพื่อประชาธิปไตย เมื่อจัดลำดับความสำคัญแรกของคุณคือการอยู่รอดเพียงมันอาจเป็นเรื่องยากที่จะหาเวลาสำหรับมากอื่น เวลาว่างที่จะนำโอกาสที่จะมีส่วนร่วมในการสาธิตและกิจกรรมทางการเมืองอื่น ๆ หรือแม้เพียงแค่การรักษาขึ้นกับเหตุการณ์ทางการเมืองของวัน ชาวนาได้รับการศึกษาและการศึกษาได้ตลอดประวัติศาสตร์ได้สามารถที่จะระดมและรูปแบบการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อต่อสาเหตุของพวกเขา เฉพาะท้องถิ่นได้อย่างง่ายดายและแยกการเคลื่อนไหวเหล่านี้ได้ แต่มักจะขาดระดับชาติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของพวกเขา. การเคลื่อนไหวแห่งชาติจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยและประชาชนได้รับการศึกษาทั้งสองซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เดียวของการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การศึกษา แต่เป็นตัวอย่างวิธีหลวมความสัมพันธ์นี้สามารถ เกือบทั้งหมดของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือลงทุนอย่างมากในระบบการศึกษาทั้งของตัวเองและในการส่งนักเรียนของพวกเขาเพื่อการศึกษาในประเทศตะวันตก แต่ประชาชนได้รับการศึกษาเหล่านี้เกี่ยวข้องกับตัวเองส่วนใหญ่บรรลุความเจริญทางเศรษฐกิจและไม่ได้มีการเพิ่มเสรีภาพทางการเมืองของพวกเขา. เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจนำไปสู่เศรษฐกิจที่ซับซ้อนมากขึ้นและหลายเชื่อมต่อ ชนิดของเศรษฐกิจซึ่งจะเป็นการแบ่งลงอุปสรรคชั้นโดยทั้งนี้คนของประเทศที่จะมีปฏิสัมพันธ์บ่อยขึ้นและในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อสนับสนุนและแจ้งให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจทางเศรษฐกิจสื่อมวลชนอิสระต้องการในการพัฒนา สื่อนี้ได้อย่างง่ายดายเพียงแพร่กระจายข้อความนัยอย่างชัดเจนและประชาธิปไตย ข้อความนัยก็อาจจะมีการรายงานเกี่ยวกับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยต่างประเทศ สื่อมวลชนถูก แต่ไม่ค่อยได้ใช้สำหรับการรายงานทางการเมืองอย่างชัดเจนอิสระเลือกที่จะ จำกัด การเป็นอิสระของพวกเขากับการรายงานทางเศรษฐกิจ ดังนั้นการศึกษาและการเชื่อมโยงประชาชนไม่ได้โดยอัตโนมัตินำมาเกี่ยวกับประชาธิปไตย แต่เป็นเงื่อนไขที่สำคัญ. การพัฒนาทางเศรษฐกิจยังมีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบทางสังคมของประเทศที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วของชนชั้นกลาง ในวันประชาธิปไตยของไต้หวันชั้นกลางของมันได้ขยายไปในสามของประชากรผู้ใหญ่ทั้งหมด ในขณะที่เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อชนชั้นกลางมากที่สุดจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจและทำให้มีส่วนได้เสียที่ใหญ่ที่สุดในความต่อเนื่องของการนี้ไม่ได้โดยอัตโนมัติแปลเป็นสนับสนุนประชาธิปไตย หากได้รับเลือกระหว่างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องภายใต้ระบอบการปกครองเผด็จการอ่อนและระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ไม่สามารถส่งมอบได้อย่างง่ายดายเติบโตอย่างต่อเนื่องส่วนใหญ่จะมีความลังเลเล็กน้อยในการเลือกอดีต มันเป็นที่สรุปไม่ได้ว่าเงื่อนไขสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดีมีมากขึ้นภายใต้ระบอบการปกครองเผด็จการ แต่เป็นทรัพยากรการทุจริตและการสูญเสียที่อาจจะลดลงโดยระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่โปร่งใสและมีความรับผิดชอบ. โดยไม่มีข้อยกเว้นการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ดึงประเทศของทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าสู่เศรษฐกิจโลก นี้พวกเขาได้สัมผัสกับความคิดตะวันตกของประชาธิปไตยและอิทธิพลตะวันตก ขณะที่พวกเขาได้ไล่ตามเส้นทางทั้งหมดของการส่งออกอุตสาหกรรมนำประเทศไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะไม่สนใจความรู้สึกอ่อนไหวตะวันตกและอิทธิพล ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลนี้มาในรูปแบบของการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับจีนหลังจาก Tiananmen Square หรือเป็นเงื่อนไขในการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจส่งผลกระทบและเป็นอย่างมีนัยสำคัญ เกาหลีใต้และไต้หวันทั้งที่ทำทางเลือกที่จะเป็นประชาธิปไตยส่วนหนึ่งในการสร้างอัตลักษณ์ของชาติที่แตกต่างกันและอีกส่วนหนึ่งที่จะได้รับความเห็นอกเห็นใจและการป้องกันจึงอย่างต่อเนื่องของโลก การป้องกันนี้ได้รับเป็นอย่างมากทางเศรษฐกิจเป็นทหารกับทั้งสองประเทศมีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับเศรษฐกิจโลก การล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกและรัสเซียลดลงอุดมการณ์ภัยคุกคามเกาหลีใต้และไต้หวันต้องเผชิญและได้รับอนุญาตจึงกองกำลังประชาธิปไตยเพื่อรูปร่างการเมืองโพสต์เผด็จการในประเทศเหล่านี้ ปัจจัยต่างประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการ prodding ประเทศไปสู่ประชาธิปไตย. ทฤษฎีการระดมสังคม conceptualises กระบวนการนี้ มันระบุว่าการพัฒนาทางเศรษฐกิจเพิ่มความต้องการและความสามารถของคนที่จะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและว่าเรื่องนี้อำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงระบอบประชาธิปไตย กระบวนการนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการวางแนวทางของผู้คนที่มีต่อวัตถุที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในขณะที่การมีปฏิสัมพันธ์กับรัฐในการเพิ่มขึ้นของทรงกลมทางเศรษฐกิจ เมื่อรัฐเป็นของมนุษย์และผู้คนตระหนักถึงนโยบายทางเศรษฐกิจที่จะมีผลกระทบมันเป็นขั้นตอนเล็ก ๆ ที่จะเชื่อว่ามันจะมีผลกระทบทางการเมือง เมื่อประชาธิปไตยเริ่มมีแนวโน้มที่จะพัฒนาโมเมนตัมทั้งหมดของตัวเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การพัฒนาเศรษฐกิจที่เอื้อต่อความเป็นประชาธิปไตย แต่ไม่เพียงพอสำหรับความสำเร็จของ ในขณะที่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้คนที่มีเวลาและทรัพยากรที่จะมีส่วนร่วมในการเมือง และยังสร้างความต้องการมันก็ไม่ได้โดยอัตโนมัติตรวจสอบความเป็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือเอเชียพบว่า ชนชั้นนำทางการเมืองและเศรษฐกิจจะต้องสนับสนุนความเป็นประชาธิปไตยและการสนับสนุนนี้ขึ้นอยู่มากในเวลา อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ประชาธิปไตยมีทั้งหมดตามช่วงเวลาของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง .

สงสารมากเพียงไม่มีทรัพยากรที่ต้องมีส่วนร่วมในประชาธิปไตยให้คนเดียวเงินที่ต้องประสบความกดดันระบอบปกครองเพื่อ democratise . เมื่อแรกของคุณคือการมีชีวิตอยู่มันสามารถยากที่จะหาเวลาสำหรับสิ่งอื่นๆเวลานำโอกาสที่จะมีส่วนร่วมในการสาธิตและกิจกรรมทางการเมือง หรือแม้แต่เพียงการรักษาขึ้นกับวันเหตุการณ์การเมือง . การศึกษาและจากนั้นชาวบ้านได้ตลอดประวัติศาสตร์สามารถระดมและรูปแบบการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อสาเหตุของพวกเขาภาษาท้องถิ่นและแยกได้ง่าย การเคลื่อนไหวเหล่านี้ แต่มักจะขาดระดับประเทศเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของพวกเขา .

แห่งชาติการเคลื่อนไหวต้องใช้เทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่ และการศึกษาของประชาชนทั้งสองซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของการพัฒนาเศรษฐกิจ . การศึกษา แต่เป็นตัวอย่างวิธีการหลวมความสัมพันธ์นี้ได้เกือบทั้งหมดของประเทศทางเอเชียตะวันออกลงทุนมากทั้งในระบบการศึกษา และตนเองในการส่งนักเรียนไปศึกษาในประเทศตะวันตก แต่เหล่านี้การศึกษาเป็นห่วงประชาชนตัวเองไป ด้วยการบรรลุความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและเพิ่มเสรีภาพทางการเมืองของพวกเขา การเติบโตทางเศรษฐกิจ

นักที่จะซับซ้อนมากขึ้นและหลายเชื่อมต่อระบบเศรษฐกิจภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ทำลายลงอุปสรรคโดยให้ค่าระดับประชาชนของประเทศที่จะโต้ตอบมากขึ้นและหลากหลายมากขึ้นทาง เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจและการตัดสินใจเป็นสื่อที่ค่อนข้างฟรีความต้องการที่จะพัฒนา สื่อมวลนี้สามารถได้อย่างง่ายดายเพียงกระจายความนัยชัดเจน Pro ประชาธิปไตยข้อความ ข้อความโดยปริยาย เพียงแต่อาจมีการรายงานในต่างประเทศประชาธิปไตยเลือกตั้งสื่อแต่ไม่ค่อยใช้อิสระทางการเมืองอย่างชัดเจน เลือกที่จะ จำกัด การรายงานตนเองเพื่อรายงานเศรษฐกิจ ดังนั้นการศึกษาและเชื่อมโยงกับประชาชนไม่ได้โดยอัตโนมัติสร้างความเป็นประชาธิปไตย แต่เป็นเงื่อนไขสำคัญ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ

ยังเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบทางสังคมของประเทศขยายตัวอย่างรวดเร็วชนชั้นกลางในวันของไต้หวันของมีความเป็นประชาธิปไตยชั้นกลางขยายตัว ที่สามของประชากรผู้ใหญ่ทั้งหมด ในขณะที่เนื้อหาชนชั้นกลางได้ประโยชน์จากการพัฒนาเศรษฐกิจ และดังนั้นจึง มีได้เสียที่ใหญ่ที่สุดในการต่อเนื่องนี้ไม่ได้โดยอัตโนมัติแปลลงในการสนับสนุนประชาธิปไตยหากให้เลือกระหว่างต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจภายใต้ระบบเผด็จการแบบอ่อนและระบอบการปกครองประชาธิปไตยซึ่งอาจไม่ใช่ง่ายๆให้เติบโตอย่างต่อเนื่องส่วนใหญ่จะมีน้อยลังเลในการเลือกอดีตมันไม่ชัดเจนว่าเงื่อนไขสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมีมากขึ้น ดังนั้นภายใต้ระบอบอำนาจนิยม แต่การทุจริตและเสียทรัพยากรอาจจะลดลงโดยโปร่งใส และระบอบการปกครองประชาธิปไตยได้

ไม่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจข้อยกเว้นได้ดึงประเทศของเอเชียตะวันออกในเศรษฐกิจโลกนี้ได้เปิดเผยความคิดตะวันตกของประชาธิปไตยและอิทธิพลตะวันตก พวกเขาได้ติดตามเส้นทางของการส่งออก LED อุตสาหกรรมประเทศไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะละเว้น sensibilities ตะวันตกและอิทธิพล ว่า อิทธิพลนี้จะมาในรูปแบบของการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อประเทศจีนหลังจากที่ Tiananmen Square หรือเป็นเงื่อนไขสำหรับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและผลของมันเป็นสำคัญเกาหลีใต้ และไต้หวัน ต่างก็เลือกที่จะ democratise บางส่วนเพื่อสร้างเอกลักษณ์ประจำชาติที่แตกต่างกันและบางส่วนจะได้รับความเห็นใจและจึงป้องกันอย่างต่อเนื่องของโลก การป้องกันนี้ได้รับเป็นทางเศรษฐกิจมากเป็นทหารทั้งประเทศที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับเศรษฐกิจโลกการล่มสลายของคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกและรัสเซียลดลงอุดมการณ์คุกคามเกาหลีใต้และไต้หวันต้องเผชิญ และดังนั้นจึง อนุญาตให้กองกำลังประชาธิปไตย Pro รูปร่างโพสต์การเมืองเผด็จการในประเทศเหล่านี้ ปัจจัยต่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย .

สังคมทฤษฎีการ conceptualises กระบวนการนี้มันระบุว่า การพัฒนาเศรษฐกิจเพิ่มความปรารถนาและความสามารถในการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตัดสินใจ และนั่นทำให้การเปลี่ยนเป็นประชาธิปไตย กระบวนการนี้เกิดขึ้นเพราะการต่อวัตถุทางการเมืองเปลี่ยนเป็นปฏิสัมพันธ์กับรัฐในการเพิ่มขึ้นทรงกลมทางเศรษฐกิจเมื่อรัฐเป็น humanised และผู้คนตระหนักถึงนโยบายเศรษฐกิจที่สามารถมีอิทธิพลต่อมันเป็นขั้นตอนขนาดเล็กที่เชื่อว่ามันสามารถมีอิทธิพลทางการเมือง เมื่อเริ่มมีความเป็นประชาธิปไตยจึงพัฒนาโมเมนตัมทั้งหมดของตัวเอง