monounsaturated and polyunsaturated

monounsaturated and polyunsaturated fats which help to lower
the amount of LDL cholesterol (Fereira, Margano, De Queiroz, &
Mantovani, 2000; National Research Council, 1989).
The total trans fatty acids were lower in the RBHB added meatballs
than the control samples. The highest amount of total trans
fatty acids was found in the control sample (3.2%) and the lowest
in 6% added RBHB meatball samples (2.7%). Yılmaz and Dag˘lıog˘lu
(2003) found that the addition of oat bran meatballs had lower
concentrations of total trans fatty acids than the control samples.
The adverse effects of the trans fatty acids on the ratio of total cholesterol
to high density lipoprotein cholesterol are twice that of
saturated fatty acids (Fritsche & Steinhart, 1997; Litin & Sacks,
1993). Some epidemiological studies have also found a positive
association between levels of trans fatty acid intake and the risk
of cardiovascular disease. To promote cardiovascular health, diets
should provide a very low intake of trans fatty acids (hydrogenated
oils and fats). In practice, this implies an intake of less than 1% of
daily energy intake (WHO, 2003).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แมคและไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งช่วยลดปริมาณของ LDL คอเลสเตอร (Fereira, Margano, De Queiroz, &Mantovani, 2000 กรรมการวิจัยแห่งชาติ 1989)กรดไขมันทรานส์รวมลงใน RBHB การเพิ่มลูกชิ้นกว่าตัวควบคุมอย่าง จำนวนสูงสุดของธุรกรรมรวมกรดไขมันที่พบ ในตัวอย่างควบคุม (3.2%) และต่ำที่สุดใน 6% เพิ่มตัวอย่างลูกชิ้น RBHB (2.7%) Yılmaz และ Dag˘lıog˘lu(2003) พบว่า การเพิ่มข้าวโอ๊ตรำลูกชิ้นมีต่ำความเข้มข้นของกรดไขมันทรานส์รวมกว่าตัวอย่างควบคุมผลกระทบของกรดทรานส์ไขมันในอัตราส่วนของไขมันทั้งหมดคอเลสเตอรไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นสูงสองครั้งที่กรดไขมันอิ่มตัว (Fritsche และ Steinhart, 1997 Litin และกระสอบ1993) . บางการศึกษาทางระบาดวิทยายังพบบวกความสัมพันธ์ระหว่างความเสี่ยงและระดับของการบริโภคกรดไขมันทรานส์โรคหลอดเลือดหัวใจ เพื่อส่งเสริมสุขภาพหัวใจ อาหารควรให้ปริมาณต่ำมากของกรดไขมันทรานส์ (สังเคราะห์น้ำมันและไขมัน) ในทางปฏิบัติ นี้หมายถึงการบริโภคน้อยกว่า 1% ของบริโภคพลังงานประจำวัน (WHO, 2003)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งช่วยลด
ปริมาณของคอเลสเตอรอล (Fereira, Margano เดอ Queiroz &
Mantovani 2000; สภาวิจัยแห่งชาติ, 1989).
กรดไขมันทรานส์รวมลดลงใน RBHB เพิ่มลูกชิ้น
กว่าตัวอย่างควบคุม จำนวนเงินสูงสุดของทรานส์รวม
กรดไขมันที่พบในตัวอย่างการควบคุม (3.2%) และต่ำสุด
ในรอบ 6% เพิ่ม RBHB ตัวอย่างลูกชิ้น (2.7%) YılmazและDag˘lıog˘lu
(2003) พบว่าการเพิ่มขึ้นของข้าวโอ๊ตลูกชิ้นรำข้าวมีค่า
ความเข้มข้นของกรดไขมันทรานส์รวมกว่าตัวอย่างควบคุม.
ผลกระทบของกรดไขมันทรานส์กับอัตราส่วนของคอเลสเตอรอลรวมที่
มีความหนาแน่นสูงคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีน เป็นสองเท่าของ
กรดไขมันอิ่มตัว (Fritsche & Steinhart, 1997; & Litin กระสอบ
1993) บางการศึกษาทางระบาดวิทยายังได้พบบวก
ความสัมพันธ์ระหว่างระดับของการบริโภคกรดไขมันทรานส์และความเสี่ยง
ของโรคหัวใจและหลอดเลือด เพื่อส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดอาหาร
ควรจัดให้มีการบริโภคที่ต่ำมากของกรดไขมันทรานส์ (เติมไฮโดรเจน
น้ำมันและไขมัน) ในทางปฏิบัตินี้หมายถึงการหดตัวของน้อยกว่า 1% ของ
ปริมาณพลังงานในชีวิตประจำวัน (WHO, 2003)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และไม่อิ่มตัวไขมันไม่อิ่มตัว ที่ช่วยลดปริมาณของคอเลสเตอรอล LDL ( fereira margano , , เคยรอซ , และเดรีย มานโตวานี่ , 2000 ; สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ , 1989 )ทรานส์กรดไขมันทั้งหมดลดลงใน rbhb เพิ่มลูกชิ้นกว่าตัวอย่างควบคุม ปริมาณสูงสุดของ trans ทั้งหมดกรดไขมันที่พบในตัวอย่างควบคุม ( 3.2% ) และถูกที่สุด6% เพิ่มตัวอย่างลูกชิ้น rbhb ( 2.7% ) และ Y ı lmaz วันที่˘ผมıและ˘ลู่( 2546 ) พบว่า นอกจากรำข้าวโอ๊ตลูกชิ้นได้กว่าความเข้มข้นของกรดไขมันทั้งหมดกว่าตัวอย่างควบคุมผลกระทบของกรดไขมันทรานส์ในอัตราส่วนของคอเลสเตอรอลรวมคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูงเป็นสองเท่าของกรดไขมันไม่อิ่มตัว ( fritsche & สไตน์ฮาร์ต , 1997 ; litin & กระสอบ1993 ) บางการศึกษาระบาดวิทยาพบบวกความสัมพันธ์ระหว่างระดับของการบริโภคกรดไขมันทรานส์และความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด , อาหารควรมีปริมาณที่ต่ำมากของกรดไขมันทรานส์ ( ไฮโดรเจนน้ำมันและไขมัน ) ในการปฏิบัตินี้ หมายถึงการบริโภคที่น้อยกว่า 1% ของการบริโภคพลังงานในชีวิตประจำวัน ( 2003 )