The audio-lingual method, Army Meth

The audio-lingual method, Army Method, or New Key,[1] is a style of teaching used in teaching foreign languages. It is based on behaviorist theory,[citation needed] which professes that certain traits of living things, and in this case humans, could be trained through a system of reinforcement. The correct use of a trait would receive positive feedback while incorrect use of that trait would receive negative feedback.[citation needed]

This approach to language learning was similar to another, earlier method called the direct method.[citation needed] Like the direct method, the audio-lingual method advised that students should be taught a language directly, without using the students' native language to explain new words or grammar in the target language. However, unlike the direct method, the audio-lingual method did not focus on teaching vocabulary. Rather, the teacher drilled students in the use of grammar.

Applied to language instruction, and often within the context of the language lab, it means that the instructor would present the correct model of a sentence and the students would have to repeat it. The teacher would then continue by presenting new words for the students to sample in the same structure. In audio-lingualism, there is no explicit grammar instruction: everything is simply memorized in form.

The idea is for the students to practice the particular construct until they can use it spontaneously. The lessons are built on static drills in which the students have little or no control on their own output; the teacher is expecting a particular response and not providing the desired response will result in a student receiving negative feedback. This type of activity, for the foundation of language learning, is in direct opposition with communicative language teaching.

Charles C. Fries, the director of the English Language Institute at the University of Michigan, the first of its kind in the United States, believed that learning structure, or grammar was the starting point for the student. In other words, it was the students' job to recite the basic sentence patterns and grammatical structures. The students were given only “enough vocabulary to make such drills possible.” (Richards, J.C. et-al. 1986). Fries later included principles for behavioural psychology, as developed by B.F. Skinner, into this method.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธี audio-lingual วิธีการกองทัพบก หรือคีย์ใหม่, [1] เป็นรูปแบบการสอนที่ใช้ในการสอนภาษาต่างประเทศ มันอิง behaviorist ทฤษฎี, [อ้างจำเป็น] ที่สารภาพแน่ที่ลักษณะบางอย่างของสิ่งมีชีวิต และในกรณีนี้ มนุษย์ อาจได้รับการอบรมผ่านระบบของการเสริมแรง การใช้ลักษณะถูกต้องจะได้รับตอบในขณะที่ใช้ลักษณะที่ไม่ถูกต้องจะได้รับคำติชมเป็นลบ [อ้างจำเป็น]รู้ภาษาก็คล้ายกับวิธีอื่น ก่อนหน้านี้เรียกว่าวิธีการโดยตรง [อ้างจำเป็น] เช่นวิธีการโดยตรง วิธีการ audio-lingual แนะนำว่า นักเรียนควรได้รับการสอนภาษาโดยตรง โดยไม่ต้องใช้ภาษาท้องถิ่นของนักเรียนเพื่ออธิบายคำศัพท์หรือไวยากรณ์ในภาษาเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม ซึ่งแตกต่างจากวิธีการโดยตรง วิธีการ audio-lingual ได้ไม่เน้นสอนคำศัพท์ ค่อนข้าง ครูเจาะนักเรียนในการใช้ไวยากรณ์ใช้ การเรียนภาษา และมักจะอยู่ ในบริบทของห้องปฏิบัติการภาษา มันหมายความ ว่า ผู้สอนจะนำเสนอแบบที่ถูกต้องของประโยค และนักเรียนจะต้องทำซ้ำได้ ครูจะทำต่อไป โดยนำคำศัพท์ใหม่สำหรับนักเรียนอย่างในโครงสร้างเดียวกัน ใน audio-lingualism มีไม่สอนไวยากรณ์ชัดเจน: ทุกอย่างเป็นเพียงแค่จำในฟอร์มความคิดคือให้นักเรียนฝึกสร้างเฉพาะจนกว่าจะสามารถใช้ได้ทันที สร้างบทเรียนบนคงฝึกซ้อมซึ่งนักเรียนมีน้อย หรือไม่มีการควบคุมผลของตนเอง ครูถูกคาดหวังว่าการตอบสนองเฉพาะ และไม่ให้การตอบสนองที่ต้องการจะส่งผลให้นักเรียนได้รับคำติชมเป็นลบ กิจกรรม มูลนิธิการเรียนรู้ภาษา ชนิดนี้อยู่ในฝ่ายค้านที่ตรงกับภาษาสื่อสารCharles C. ฟรายส์ ผู้อำนวยการ สถาบันภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน ครั้งแรกในไทย เชื่อว่า การเรียนรู้โครงสร้าง หรือไวยากรณ์เป็นจุดเริ่มต้นของนักเรียน ในคำอื่น ๆ มันเป็นงานของนักเรียนที่อ่านรูปประโยคพื้นฐานและโครงสร้างไวยากรณ์ นักเรียนที่ได้รับเท่านั้น "พอคำศัพท์การฝึกซ้อมดังกล่าวทำ" (ริชาร์ด J.C. et al. 1986) มันฝรั่งทอดในภายหลังรวมหลักจิตวิทยาพฤติกรรม พัฒนา โดยสกินเนอร์ B.F. วิธีนี้เป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีเสียงภาษาวิธีกองทัพหรือคีย์ใหม่ [1] เป็นรูปแบบของการเรียนการสอนที่ใช้ในการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ มันขึ้นอยู่กับทฤษฎี behaviorist [ต้องการอ้างอิง] ซึ่งสารภาพว่าลักษณะบางอย่างของสิ่งมีชีวิตและในกรณีมนุษย์นี้อาจได้รับการอบรมผ่านระบบเสริมแรง การใช้งานที่ถูกต้องของลักษณะจะได้รับการตอบรับที่ดีในขณะที่การใช้งานไม่ถูกต้องของลักษณะที่จะได้รับความคิดเห็นเชิงลบ. [อ้างจำเป็น] วิธีการนี้ในการเรียนรู้ภาษาที่มีความคล้ายคลึงกับอีกวิธีการก่อนหน้านี้เรียกว่าวิธีการที่ตรง. [อ้างจำเป็น] เช่นเดียวกับวิธีการที่ตรง วิธีเสียงภาษาทราบว่านักเรียนควรจะสอนภาษาโดยตรงโดยไม่ต้องใช้ภาษาพื้นเมืองของนักเรียนที่จะอธิบายคำศัพท์ใหม่หรือไวยากรณ์ในภาษาเป้าหมาย แต่แตกต่างจากวิธีการที่ตรงวิธีเสียงภาษาไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การสอนคำศัพท์ แต่ครูเจาะนักเรียนในการใช้ไวยากรณ์. นำไปใช้กับการเรียนการสอนภาษาและบ่อยครั้งในบริบทของห้องปฏิบัติการทางภาษาก็หมายความว่าผู้สอนจะนำเสนอรูปแบบที่ถูกต้องของประโยคและนักเรียนจะต้องทำซ้ำได้ ครูก็จะดำเนินการต่อไปโดยนำเสนอคำศัพท์ใหม่สำหรับนักเรียนที่จะลิ้มลองในโครงสร้างเดียวกัน ในเสียง lingualism ไม่มีการเรียนการสอนไวยากรณ์อย่างชัดเจน: ทุกอย่างเป็นเพียงแค่จำในรูปแบบ. ความคิดคือสำหรับนักเรียนที่จะปฏิบัติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างจนกว่าพวกเขาจะสามารถใช้งานได้ตามธรรมชาติ บทเรียนที่สร้างขึ้นบนการฝึกซ้อมแบบคงที่ในการที่นักเรียนมีการควบคุมน้อยหรือไม่มีเลยในการส่งออกของตัวเอง ครูคาดหวังว่าการตอบสนองโดยเฉพาะและไม่ได้ให้การตอบสนองที่ต้องการจะส่งผลให้นักเรียนได้รับการลบความคิดเห็น ประเภทของกิจกรรมนี้เป็นรากฐานของการเรียนรู้ภาษาที่อยู่ในความขัดแย้งโดยตรงกับการเรียนการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร. ชาร์ลส์ Fries, ผู้อำนวยการสถาบันภาษาอังกฤษมหาวิทยาลัยมิชิแกนเป็นครั้งแรกของชนิดในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเชื่อกันว่า โครงสร้างการเรียนรู้ที่หรือไวยากรณ์เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับนักเรียน ในคำอื่น ๆ มันเป็นงานของนักเรียนในการอ่านรูปประโยคพื้นฐานและโครงสร้างไวยากรณ์ นักเรียนที่ได้รับเท่านั้น "คำศัพท์พอที่จะทำให้การฝึกซ้อมดังกล่าวเป็นไปได้." (ริชาร์ดเจซี et-al. 1986) ทอดต่อมารวมหลักการจิตวิทยาพฤติกรรมเช่นการพัฒนาโดย BF หนังลงไปในวิธีการนี้