เรื่องราวของนักคิดที่ถูกกล่าวหาว่าเ

เรื่องราวของนักคิดที่ถูกกล่าวหาว่าเพ้อเจ้อมีให้เห็นในทุกยุคทุกสมัย ไม่เว้นกระทั่งปัจจุบัน
แค่คิดต่างก็เท่านั้น
ความคิดที่แตกต่างแม้ว่าจะได้รับการยอมรับในกลุ่มคนเล็กๆว่าเป็นแนวคิดสร้างสรรค์ หากว่าแนวความคิดนั้นสร้างสรรค์จริง แต่ก็มีอีกหลายรูปแบบที่เป็นความคิดเชิงก่อการ ซึ่งอาจจะยังไม่เกิดขึ้นอย่างง่ายๆ จะต้องใช้ความพยามอย่างมาก แต่กระนั้นความคิดนี้ก็มักจะได้รับการสกัดกั้นจากผู้ที่คิดน้อย คิดตามไม่ทัน ในเชิงปรามาศ เขียนเช่นนี้อาจจะเข้าใจยากสักหน่อย ขอยกตัวอย่างให้ฟังแล้วกันว่าอะไรเป็นอย่างไร
นักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อว่า โทมัส อัลวา เอดิสัน ได้รับการยอมรับในวงกว้างว่าเป็นพ่อมดแห่งเมนโลพาร์ก(เมืองๆหนึ่งในนิวยอร์ค) จากการประดิษฐ์เครื่องบันทึกเสียงเป็นครั้งแรก หากแต่ชื่อเสียงที่โด่งดังไปทั่วโลกตราบเท่าทุกวันนี้นั่นก็คือ การประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าไส้คาร์บอน พร้อมสวิสต์เปิดปิดที่สามารถติดตั้งภายในบ้านได้อย่างง่ายดาย ซึ่งในช่วงเวลานั้น หลอดไฟ มักเป็นต้นเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในยุคนั้นเป็นลำดับต้นๆ นับเป็นจุดเริ่มต้นของหลอดไฟส่องสว่างบนโลกใบนี้นั่นเอง
ย้อนกลับไปเมื่อ เอดิสัน ยังเยาว์วัย นิสัยที่ชื่นชอบสิ่งรอบตัวและนำมาทดลองเป็นมาตั้งแต่เด็ก บ่อยครั้งที่ถูกมองเป็นเด้กโง่เขลาเบาปัญญา เนื่องจากไม่สนใจในสิ่งที่ครูสอน แต่นิสัยเช่นนั้นก็ไม่เคยลดลง แม้ว่าะสร้างความเสียหายบ่อยครั้งอันเนื่องมาจากการทดลองเรื่องของไฟ ความพยายามของเอดิสันับเป็นอีกหนึ่งความคิดต่างที่ถูกมองเป็นเรื่องบ้าบอคอแตก หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า”เป็นไปไม่ได้ในยุคนั้น”เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว”เพลิง”คือแหล่งกำเนิดแสงนั่นเอง
และเมื่อ เอดิสัน คิดจะทำไฟฟ้าให้กลายเป็นแสง จึงเป็นที่ขบขันของผู้เขลาปัญญาทั้งหลายในช่วงเวลานั้น วันเวลาผ่านไฟเมื่อสิ่งที่เอดิสันคิดสำเร็จ การยอมรับจากผู้คนทั่วโลกจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นกับ เอดิสัน
หากแต่ถ้าวันนี้ความคิด “เพ้อเจ้อ”ไม่เกิดขึ้นกับ เอดิสัน โลกของเราคงต้องใช้ตะเกียงน้ำมันเพื่อสร้างแสงสว่างอยู่เป็นแน่แท้
วันนี้มีนักคิดและลงมือทำในประเทศไทย ไม่เว้นแต่นักการเมืองทีคิดอย่างสร้างสรรค์ นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ หรือแม้กระทั่งนักเรียนที่คิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ กำลังถูกผู้โง่เขลาเบาปัญญาที่เป็นคนไทยด้วยกัน ดูถูกเหยียดหยามและขบขันอย่างสนุกปาก ผ่านสื่อต่างๆ โดยไม่แม้แต่จะรอดูความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ไม่ว่าจะกี่ยุค กี่สมัย คนโง่เขลาที่คอยสกัดกั้นความคิดใหม่ๆก็ยังไม่เคยหายไปจากโลกใบนี้ เพราะสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดมันคือ “สัจธรรม” อ่านว่า สัตว์ – จะ – ทำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เรื่องราวของนักคิดที่ถูกกล่าวหาว่าเพ้อเจ้อมีให้เห็นในทุกยุคทุกสมัยไม่เว้นกระทั่งปัจจุบันแค่คิดต่างก็เท่านั้นความคิดที่แตกต่างแม้ว่าจะได้รับการยอมรับในกลุ่มคนเล็กๆว่าเป็นแนวคิดสร้างสรรค์หากว่าแนวความคิดนั้นสร้างสรรค์จริงแต่ก็มีอีกหลายรูปแบบที่เป็นความคิดเชิงก่อการซึ่งอาจจะยังไม่เกิดขึ้นอย่างง่าย ๆ จะต้องใช้ความพยามอย่างมากแต่กระนั้นความคิดนี้ก็มักจะได้รับการสกัดกั้นจากผู้ที่คิดน้อยคิดตามไม่ทันในเชิงปรามาศเขียนเช่นนี้อาจจะเข้าใจยากสักหน่อยขอยกตัวอย่างให้ฟังแล้วกันว่าอะไรเป็นอย่างไรนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อว่าโทมัสอัลวาเอดิสันได้รับการยอมรับในวงกว้างว่าเป็นพ่อมดแห่งเมนโลพาร์ก(เมืองๆหนึ่งในนิวยอร์ค)จากการประดิษฐ์เครื่องบันทึกเสียงเป็นครั้งแรกหากแต่ชื่อเสียงที่โด่งดังไปทั่วโลกตราบเท่าทุกวันนี้นั่นก็คือการประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าไส้คาร์บอนพร้อมสวิสต์เปิดปิดที่สามารถติดตั้งภายในบ้านได้อย่างง่ายดายซึ่งในช่วงเวลานั้นหลอดไฟมักเป็นต้นเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในยุคนั้นเป็นลำดับต้น ๆ นับเป็นจุดเริ่มต้นของหลอดไฟส่องสว่างบนโลกใบนี้นั่นเองย้อนกลับไปเมื่อเอดิสันยังเยาว์วัยนิสัยที่ชื่นชอบสิ่งรอบตัวและนำมาทดลองเป็นมาตั้งแต่เด็กบ่อยครั้งที่ถูกมองเป็นเด้กโง่เขลาเบาปัญญาเนื่องจากไม่สนใจในสิ่งที่ครูสอนแต่นิสัยเช่นนั้นก็ไม่เคยลดลงแม้ว่าะสร้างความเสียหายบ่อยครั้งอันเนื่องมาจากการทดลองเรื่องของไฟความพยายามของเอดิสันับเป็นอีกหนึ่งความคิดต่างที่ถูกมองเป็นเรื่องบ้าบอคอแตกหรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า "เป็นไปไม่ได้ในยุคนั้น" เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว "เพลิง" คือแหล่งกำเนิดแสงนั่นเองและเมื่อเอดิสันคิดจะทำไฟฟ้าให้กลายเป็นแสงจึงเป็นที่ขบขันของผู้เขลาปัญญาทั้งหลายในช่วงเวลานั้นวันเวลาผ่านไฟเมื่อสิ่งที่เอดิสันคิดสำเร็จการยอมรับจากผู้คนทั่วโลกจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นกับเอดิสันหากแต่ถ้าวันนี้ความคิด "เพ้อเจ้อ" ไม่เกิดขึ้นกับเอดิสันโลกของเราคงต้องใช้ตะเกียงน้ำมันเพื่อสร้างแสงสว่างอยู่เป็นแน่แท้วันนี้มีนักคิดและลงมือทำในประเทศไทยไม่เว้นแต่นักการเมืองทีคิดอย่างสร้างสรรค์นักประดิษฐ์นักวิทยาศาสตร์หรือแม้กระทั่งนักเรียนที่คิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ กำลังถูกผู้โง่เขลาเบาปัญญาที่เป็นคนไทยด้วยกันดูถูกเหยียดหยามและขบขันอย่างสนุกปากผ่านสื่อต่าง ๆ โดยไม่แม้แต่จะรอดูความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นแต่อย่างใดไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยคนโง่เขลาที่คอยสกัดกั้นความคิดใหม่ๆก็ยังไม่เคยหายไปจากโลกใบนี้เพราะสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดมันคือ "สัจธรรม" อ่านว่าสัตว์ –จะ – ก่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซึ่งอาจจะยังไม่เกิดขึ้นอย่างง่ายๆจะต้องใช้ความพยามอย่างมาก คิดตามไม่ทันในเชิงปรามาศ โทมัสอัลวาเอดิสัน การประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าไส้คาร์บอน ซึ่งในช่วงเวลานั้นหลอดไฟ เอดิสันยังเยาว์วัย เนื่องจากไม่สนใจในสิ่งที่ครูสอน แต่นิสัยเช่นนั้นก็ไม่เคยลดลง เอดิสันคิดจะทำไฟฟ้าให้กลายเป็นแสง เอดิสันแต่ถ้าหากวันนี้ความคิด "เพ้อเจ้อ" ไม่เกิดขึ้นกับเอดิสัน นักประดิษฐ์นักวิทยาศาสตร์ ผ่านสื่อต่างๆ กี่สมัย เพราะสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดมันคือ "สัจธรรม" อ่านว่าสัตว์ - จะ - ทำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เรื่องราวของนักคิดที่ถูกกล่าวหาว่าเพ้อเจ้อมีให้เห็นในทุกยุคทุกสมัยไม่เว้นกระทั่งปัจจุบัน

แค่คิดต่างก็เท่านั้นความคิดที่แตกต่างแม้ว่าจะได้รับการยอมรับในกลุ่มคนเล็กๆว่าเป็นแนวคิดสร้างสรรค์หากว่าแนวความคิดนั้นสร้างสรรค์จริงแต่ก็มีอีกหลายรูปแบบที่เป็นความคิดเชิงก่อการซึ่งอาจจะยังไม่เกิดขึ้นอย่างง่ายๆแต่กระนั้นความคิดนี้ก็มักจะได้รับการสกัดกั้นจากผู้ที่คิดน้อยคิดตามไม่ทันในเชิงปรามาศเขียนเช่นนี้อาจจะเข้าใจยากสักหน่อยขอยกตัวอย่างให้ฟังแล้วกันว่าอะไรเป็นอย่างไร
นักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อว่าโทมัสอัลวาเอดิสันได้รับการยอมรับในวงกว้างว่าเป็นพ่อมดแห่งเมนโลพาร์ก ( เมืองๆหนึ่งในนิวยอร์ค ) จากการประดิษฐ์เครื่องบันทึกเสียงเป็นครั้งแรกการประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าไส้คาร์บอนพร้อมสวิสต์เปิดปิดที่สามารถติดตั้งภายในบ้านได้อย่างง่ายดายซึ่งในช่วงเวลานั้นหลอดไฟมักเป็นต้นเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในยุคนั้นเป็นลำดับต้นๆย้อนกลับไปเมื่อเอดิสันยังเยาว์วัยนิสัยที่ชื่นชอบสิ่งรอบตัวและนำมาทดลองเป็นมาตั้งแต่เด็กบ่อยครั้งที่ถูกมองเป็นเด้กโง่เขลาเบาปัญญาเนื่องจากไม่สนใจในสิ่งที่ครูสอนแต่นิสัยเช่นนั้นก็ไม่เคยลดลงความพยายามของเอดิสันับเป็นอีกหนึ่งความคิดต่างที่ถูกมองเป็นเรื่องบ้าบอคอแตกหรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า " เป็นไปไม่ได้ในยุคนั้น " เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว " เพลิง " คือแหล่งกำเนิดแสงนั่นเอง
และเมื่อเอดิสันคิดจะทำไฟฟ้าให้กลายเป็นแสงจึงเป็นที่ขบขันของผู้เขลาปัญญาทั้งหลายในช่วงเวลานั้นวันเวลาผ่านไฟเมื่อสิ่งที่เอดิสันคิดสำเร็จการยอมรับจากผู้คนทั่วโลกจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นกับหากแต่ถ้าวันนี้ความคิด " เพ้อเจ้อ " ไม่เกิดขึ้นกับเอดิสันโลกของเราคงต้องใช้ตะเกียงน้ำมันเพื่อสร้างแสงสว่างอยู่เป็นแน่แท้
วันนี้มีนักคิดและลงมือทำในประเทศไทยไม่เว้นแต่นักการเมืองทีคิดอย่างสร้างสรรค์นักประดิษฐ์นักวิทยาศาสตร์หรือแม้กระทั่งนักเรียนที่คิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆกำลังถูกผู้โง่เขลาเบาปัญญาที่เป็นคนไทยด้วยกันผ่านสื่อต่างๆโดยไม่แม้แต่จะรอดูความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยคนโง่เขลาที่คอยสกัดกั้นความคิดใหม่ๆก็ยังไม่เคยหายไปจากโลกใบนี้เพราะสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดมันคือ " สัจธรรม " อ่านว่าสัตว์จะทำ––