there are many disputes and issues

there are many disputes and issues waiting for clarification with regard to the definition and scope of workplace spirituality. the authentic spirituality is much more important than technique spirituality, which can be inferred that spirituality is more important then workplace. there for his study adopted the perspective of hierarchical liner model and divided workplace spirituality into two aspects, which are spiritual awakening on the organizational level. the empirical organizational spirituality are different constructs, and earning management in other words workplace spirituality can reduce the motivation for earnings management. in addition the coefficient of spiritual awakening is significantly greater than that of organizational spirituality. this means that the motivations for earning are more subject to influence of spiritual awakening which is consistent with the above mention status of people as the center of economic activities. the empirical study also fund that the spiritual awakening of individual is highly subject to the influence of organizational spirituality and spiritual awakening is an important intervening factor. this study did not find any similar conclusion for past literature. undoudtedly this is an encouraging result and one of major theoretic contributions of this paper.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีข้อโต้แย้งและปัญหาที่รอการชี้แจงเกี่ยวกับคำนิยามและขอบเขตของจิตวิญญาณที่ทำงาน จิตวิญญาณที่แท้จริงมากขึ้นสำคัญกว่าเทคนิควิญญาณ ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า จิตวิญญาณเป็นสำคัญแล้วทำงานได้ มีศึกษานำมุมมองของแบบจำลองแบบลำดับชั้นซับ และจิตวิญญาณการทำงานแบ่งเป็นสองด้าน ซึ่งมีจิตวิญญาณตื่นขึ้นในระดับองค์กร จิตวิญญาณองค์กรรวมเป็นโครงสร้างที่แตกต่างกัน และรายได้บริหารกล่าวทำวิญญาณสามารถลดแรงจูงใจสำหรับการจัดการรายได้ นอกจากนี้ ค่าสัมประสิทธิ์ของการตื่นทางจิตวิญญาณเป็นมากเกินกว่าที่จิตวิญญาณขององค์กร ซึ่งหมายความ ว่า โต่งสำหรับรายได้เพิ่มมากขึ้นภายใต้อิทธิพลของการตื่นทางจิตวิญญาณซึ่งสอดคล้องกับข้างต้นกล่าวถึงสถานะของคนเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การศึกษารวมเงินว่า การตื่นทางจิตวิญญาณของแต่ละบุคคลคือ มีอิทธิพลของวิญญาณองค์กร และตื่นทางจิตวิญญาณ เป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่ระหว่างกลาง การศึกษานี้ไม่พบข้อสรุปใด ๆ คล้ายสำหรับวรรณกรรมที่ผ่านมา undoudtedly นี้เป็นผลลัพธ์ให้กำลังใจและจัดสรร theoretic หลักของเอกสารนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีข้อพิพาทจำนวนมากและปัญหาที่รอการชี้แจงในเรื่องเกี่ยวกับความหมายและขอบเขตของจิตวิญญาณที่ทำงานกับ จิตวิญญาณที่แท้จริงมากขึ้นที่สำคัญกว่าจิตวิญญาณเทคนิคซึ่งสามารถสรุปได้ว่าจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้นแล้วในสถานที่ทำงาน มีการศึกษาของเขานำมุมมองของรูปแบบสายการบินลำดับชั้นและจิตวิญญาณที่ทำงานแบ่งออกเป็นสองด้านซึ่งเป็นจิตตื่นในระดับองค์กร จิตวิญญาณขององค์กรเชิงประจักษ์มีโครงสร้างแตกต่างกันและได้รับการจัดการในคำอื่น ๆ จิตวิญญาณที่ทำงานสามารถลดแรงจูงใจในการบริหารกำไร นอกเหนือจากค่าส​​ัมประสิทธิ์ของจิตตื่นเป็นอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าที่จิตวิญญาณขององค์กร นี้หมายความว่าแรงจูงใจสำหรับรายอาจมีมากขึ้นในอิทธิพลของจิตตื่นซึ่งสอดคล้องกับสถานะการกล่าวถึงข้างต้นของผู้คนเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การศึกษาเชิงประจักษ์นอกจากนี้ยังมีกองทุนที่ตื่นทางจิตวิญญาณของแต่ละคนเป็นอย่างมากภายใต้อิทธิพลของจิตวิญญาณขององค์กรและจิตตื่นเป็นปัจจัยแทรกแซงที่สำคัญ การศึกษาครั้งนี้ไม่พบข้อสรุปใด ๆ ที่คล้ายกันสำหรับวรรณกรรมที่ผ่านมา undoudtedly นี้เป็นผลให้กำลังใจและเป็นหนึ่งในการมีส่วนร่วมตามทฤษฎีที่สำคัญของการวิจัยนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีข้อพิพาทหลายประเด็นรอชี้แจงเกี่ยวกับความหมายและขอบเขตของจิตวิญญาณในที่ทำงาน จิตวิญญาณที่แท้จริงสำคัญกว่าเทคนิคจิตวิญญาณ ซึ่งสามารถบอกได้ว่าจิตวิญญาณเป็นสำคัญมากกว่าที่ทำงานมีการศึกษาบุญธรรมของเขามุมมองแบบลำดับชั้นและแบ่งการทำงานออกเป็นซับจิตวิญญาณสองด้าน ซึ่งจะกระตุ้นมโนมัยในระดับองค์กร จิตวิญญาณขององค์กรเชิงประจักษ์แตกต่างกัน โครงสร้าง และการจัดการกำไร หรือในคำอื่น ๆที่ทำงานจิตวิญญาณสามารถลดแรงจูงใจในการจัดการรายได้นอกจากนี้ค่ากระตุ้นมโนมัยสูงกว่าที่องค์การของจิตวิญญาณ หมายถึงแรงจูงใจสำหรับรายได้เพิ่มเติมภายใต้อิทธิพลของการกระตุ้นมโนมัยซึ่งสอดคล้องกับข้างต้นกล่าวถึงสถานภาพของประชาชน เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางเศรษฐกิจการศึกษาเชิงประจักษ์ยังกองทุนกระตุ้นจิตวิญญาณของแต่ละบุคคลเป็นอย่างสูงภายใต้อิทธิพลของจิตวิญญาณขององค์กร และที่สำคัญคือปัจจัยแทรกแซงกระตุ้นมโนมัย . การศึกษานี้ไม่พบข้อสรุปใด ๆที่คล้ายกันสำหรับวรรณกรรม . undoudtedly นี้เป็นนิมิตผลและหนึ่งในหลักทฤษฎีการเขียนของบทความนี้