จากการศึกษาประสิทธิภาพความเป็นบัฟเฟอร์ของพืชตระกูลส้มซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความสามารถและคุณสมบัติของสารละลายบัฟเฟอร์จากพืชตระกูลส้ม และเพื่อศึกษาประสิทธิภาพและสภาวะในการควบคุม pH ของน้ำส้มแต่ละชนิด โดยใช้วิธีการเติมสารละลายเกรด HCI และเบส NaOH ลงในน้ำส้มทั้ง 5 ชนิด คือ ส้มโชกุน ส้มแมนดาริน ส้มจีน มะนาว และส้มโอ จากการทดลองพบว่าน้ำส้มทั้ง 5 ชนิดมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงค่า pH เมื่อเติมกรดและเบสได้แตกต่างกันโดยส้มทั้ง 5 ชนิดนั้นสามารถคงทนต่อการเปลี่ยนค่า pH ได้ โดยในส่วนของเนื้อส้มสามารถคงทนต่อการเปลี่ยนแปลงค่า pH ได้ดี แต่ส่วนของเปลือกและเมล็ดนั้น ไม่สามารถคงทนต่อการเปลี่ยนแปลงค่า pH ได้และเมื่อนำน้ำส้มทั้ง 5 ชนิดมาหาปริมาณโมลกรดและเบสที่สามารถรับได้ในช่วง pH ÷ 1 พบว่ามะนาวสามารถรับได้มากที่สุดและรองมาตามลำดับคือ ส้มจีน ส้มโชกุน ส้มแมนดาริน และส้มโอ จึงนับได้ว่าน้ำส้มมีความสามารถในการเป็นบัฟเฟอร์ได้ในระดับหนึ่งและโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมะนาวซึ่งเหมาะสำหรับในการศึกษาและประยุกต์ใช้สารบัฟเฟอร์ในการทดลอง เนื่องจากมีประโยชน์ในการควบคุมเงื่อนไขการเกิดปฏิกิริยาและสิ่งที่ได้ในการสังเคราะห์สารอินทรีย์ หน้าที่ของบัฟเฟอร์ คือ สร้างสภาพแวดล้อมที่กำหนดสำหรับสารชีวโมเลกุล เพื่อให้สามารถจัดเก็บในสภาพที่เสถียรและคงเดิม และยังคงเต็มประสิทธิภาพได้ อีกทั้งบัฟเฟอร์จากธรรมชาติยังปลอดภัยกว่าบัฟเฟอร์สังเคราะห์อีกด้วย