It has been contended by many in th

It has been contended by many in the central banking community that monetary policy would not be effective in “leaning” against the upswing of a credit cycle (the boom) but that lower interest rates would be effective in “cleaning” up (the bust) afterwards. In this paper, these two propositions (can’t lean, but can clean) are examined and found seriously deficient. In particular, it is contended in this paper that monetary policies designed solely to deal with short term problems of insufficient demand could make medium term problems worse by encouraging a buildup of debt that cannot be sustained over time. The conclusion reached is that monetary policy should be more focused on “preemptive tightening” to moderate credit bubbles than on “preemptive easing” to deal with the after effects. There is a need for a new macrofinancial stability framework that would use both regulatory and monetary instruments to resist credit bubbles and thus promote sustainable economic growth over time.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันได้ถูก contended หลายในใจกลางชุมชนธนาคารว่า นโยบายการเงินจะไม่มีประสิทธิภาพในการ "ลำ" กับ upswing ของเครดิตรอบ (บูม) แต่ว่า อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำจะมีประสิทธิภาพในการ "ล้าง" (หน้าอก) ภายหลัง ในเอกสารนี้ ขั้นที่สองนี้ (ไม่เอน แต่สามารถทำความสะอาด) จะตรวจสอบ และพบขาดสารอย่างจริงจัง โดยเฉพาะ มันจะ contended ในกระดาษนี้ว่า นโยบายทางการเงินที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับปัญหาระยะสั้นของความต้องการไม่เพียงพออาจทำให้แย่ลงปัญหาระยะปานกลาง โดยส่งเสริมให้รู้ของหนี้ที่ไม่ยั่งยืนเวลา สรุปแล้วคือ ว่า นโยบายการเงินควรจะเพิ่มเติมเน้น "ขัน preemptive" ฟองปานกลางเครดิตกว่าบน "ผ่อนคลาย preemptive" จะจัดการกับผลกระทบหลังจากการ ต้องการกรอบความมั่นคง macrofinancial ใหม่ที่จะใช้เครื่องมือทาง การเงินการคลังเพื่อเครดิตฟองต่อต้าน และส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนเวลาดัง นั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันได้รับการเกี่ยงโดยมากในชุมชนธนาคารกลางที่นโยบายการเงินจะไม่เป็นที่มีประสิทธิภาพในการ "พิง" กับการแกว่งของวงจรเครดิต (บูม) แต่ที่ลดอัตราดอกเบี้ยจะมีประสิทธิภาพในการ "สะอาด" ขึ้นไป (หน้าอก) ภายหลัง ในบทความนี้ทั้งสองข้อเสนอ (ไม่สามารถยัน แต่สามารถทำความสะอาด) มีการตรวจสอบและพบว่าขาดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นกระดาษเกี่ยงว่านโยบายการเงินที่ได้รับการออกแบบ แต่เพียงผู้เดียวในการจัดการกับปัญหาระยะสั้นของความต้องการไม่เพียงพอที่จะทำให้ปัญหาแย่ลงระยะกลางโดยการสนับสนุนการเจริญเติบโตของหนี้ที่ไม่สามารถรักษาไว้ในช่วงเวลานี้ ข้อสรุปถึงก็คือว่านโยบายการเงินควรจะเน้นการ "กระชับมาตรการ" ถึงปานกลางฟองเครดิตกว่า "การผ่อนคลายมาตรการ" เพื่อรับมือกับผลกระทบหลังจากที่ ไม่จำเป็นต้องมีกรอบความมั่นคง macrofinancial ใหม่ที่จะใช้ตราสารทั้งกำกับดูแลและการเงินที่จะต่อต้านเครดิตฟองอากาศและทำให้การส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในช่วงเวลาคือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันได้รับการยืนยันโดยมากในชุมชนว่า นโยบายการเงินของธนาคารกลางจะไม่ได้ผลใน " พิง " กับมูลค่าของเครดิตวงจร ( บูม ) แต่ลดอัตราดอกเบี้ยจะมีประสิทธิภาพใน " สะอาด " ( หน้าอก ) หลังจากนั้น ในกระดาษนี้ , ทั้งสองข้อเสนอ ( ไม่ผอม แต่สามารถทำความสะอาด ) จะถูกตรวจสอบและพบว่าขาดจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันต่อสู้ในกระดาษนี้ว่า นโยบายการเงินที่ออกแบบมา แต่เพียงผู้เดียวที่จะจัดการกับปัญหาระยะสั้นของความต้องการที่ไม่เพียงพออาจทำให้ปัญหาแย่ลงในระยะปานกลางโดยส่งเสริมการสะสมของหนี้ที่ไม่สามารถได้รับตลอดเวลาข้อสรุปถึงคือ นโยบายการเงินควรเน้น " preemptive ขัน " ( เครดิตฟองกว่า " ผ่อนคลาย " preemptive จัดการกับหลังจากผล ต้องมีความมั่นคงใหม่ macrofinancial กรอบที่จะใช้ทั้งกฎหมายและการเงินเครื่องมือต่อต้านเครดิตฟอง และดังนั้นจึง ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ตลอดเวลา