Eating a lot of oily fish or consum

Eating a lot of oily fish or consuming omega supplements may not be good for a man's health. New research reveals that males with high blood concentrations of omega-3 fatty acids are at a higher risk of developing prostate cancer.

The finding comes from a large prospective study published in the Journal of the National Cancer Institute.

A 71 percent increased risk of high-grade prostate cancer and a 43 percent increase for all prostate cancers were associated with high concentrations of EPA, DHA, and DPA.

These results are consistent with a 2011 study carried out by the same research team which found that high concentrations of DHA more than doubled the risk of high-grade prostate cancer.

The researchers were shocked to find that higher blood levels of omega-3 fatty acids, usually promoted as good for the heart, were associated with a higher risk of aggressive prostate cancer.
The consistency of these findings could mean that "these fatty acids are involved in prostate tumorigenesis and recommendations to increase long-chain omega-3 fatty acid intake, in particular through supplementation, should consider its potential risks."

Omega 3 fish oils
For years, omega 3 fish oils have been recommended by health organisations to help reduce heart disease.
The paper's senior author and member of the Fred Hutch Public Health Sciences Division, Alan Kristal, Dr.P.H, said: "we've shown once again that use of nutritional supplements may be harmful."

Theodore Brasky, Ph.D., a research assistant professor at The Ohio State University Comprehensive Cancer Cente, added, "What's important is that we have been able to replicate our findings from 2011 and we have confirmed that marine omega-3 fatty acids play a role in prostate cancer occurrence. It's important to note, however, that these results do not address the question of whether omega-3's play a detrimental role in prostate cancer prognosis."

Dr. Iain Frame, director of research at Prostate Cancer UK, says men reading about the results of this research should not panic about their omega-3 intake. Dr. Frame says: "Omega 3, such as is found in oily fish, has been the focus of a large amount of research in recent years, the majority of which points to it having wide-ranging health benefits when eaten as part of a balanced diet..."

"Much larger and more complex studies will need to take place before we will fully understand how the risks of a diet high in Omega 3 balance against those benefits."

Dr. Frame adds:
"Therefore, we would not encourage any man to change their diet as a result of this study, but to speak to their doctor if they have any concerns about prostate cancer."
Dr. Kristal's study compared the blood level concentrations of omega-3 fatty acids in 834 men who had been diagnosed with prostate cancer with samples from 1,393 men from the Selenium and Vitamin E Cancer Prevention Trial (SELECT).

The lowest risk group for developing prostate cancer had a 3.2 percent blood level concentration of omega-3 fatty acids, compared to 5.7 percent in the high risk group.

The results may come as a surprise to some, considering the number of positive health benefits that are associated with omega-3 fatty acids.

It remains uncertain why high concentrations of these fatty acids are associated with a heightened risk of prostate cancer.

Researchers say it is possible that omega-3 fatty acids are harmful because of they convert into compounds that can damage cells and DNA.

In conclusion, the finding suggests that high levels of omega-3 fatty acids can increase a man's risk of developing prostate cancer.

Written by Joseph Nordqvist

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การรับประทานอาหารจำนวนมากของน้ำมันปลาโอเมก้าหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่บริโภคอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพของมนุษย์ งานวิจัยใหม่เผยให้เห็นว่าเพศชายมีความเข้มข้นในเลือดสูงของกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก.

การค้นพบมาจากการศึกษาขนาดใหญ่ที่ตีพิมพ์ในวารสารของสถ​​าบันมะเร็งแห่งชาติ.

ร้อยละ 71 เพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเกรดสูงและเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 สำหรับทุกโรคมะเร็งต่อมลูกหมากมีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นสูง EPA, DHA และ DPA.

ผลลัพธ์เหล่านี้มีความสอดคล้องกับการศึกษา 2011 ที่ดำเนินการโดยทีมวิจัยเดียวกัน ซึ่งพบว่ามีความเข้มข้นสูงของ DHA มากกว่าสองเท่าความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากเกรดสูง.

นักวิจัยต้องตกใจที่พบว่าสูงกว่าระดับเลือดของโอเมก้า 3 กรดไขมันเลื่อนมักจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับหัวใจที่มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่สูงขึ้นของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากก้าวร้าว.
ความสอดคล้องของการค้นพบนี้อาจหมายความว่า "กรดไขมันเหล่านี้เป็น มีส่วนร่วมในมะเร็งต่อมลูกหมากและคำแนะนำในการเพิ่มปริมาณกรดโซ่ยาวโอเมก้า 3 ไขมันโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านอาหารเสริมควรพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น. "

โอเมก้า 3 น้ำมันปลา
ปีที่ผ่านมา, โอเมก้า 3 น้ำมันปลาได้รับการแนะนำจากหน่วยงานด้านสุขภาพเพื่อช่วยลดการเกิดโรคหัวใจ.
กระดาษเขียนอาวุโสและเป็นสมาชิกของเฟร็ดฮัทช์ของประชาชน วิทยาศาสตร์สุขภาพส่วนอลันริสทอล, dr.ph กล่าวว่า "เราได้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาจเป็นอันตราย."

ทีโอดอร์ Brasky, Ph.D. , ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการวิจัยที่มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตครอบคลุมมะเร็ง Cente กล่าวเสริมว่า "สิ่งที่สำคัญคือการที่เราได้รับสามารถที่จะทำซ้ำผลการวิจัยของเราจาก 2011 และเราได้รับการยืนยันว่าทางทะเลโอเมก้า 3 กรดไขมันเล่น มีบทบาทในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก. มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบ แต่ว่าผลเหล่านี้ไม่ได้อยู่ที่คำถามที่ว่าโอเมก้า 3 ที่มีบทบาทเป็นอันตรายในการวินิจฉัยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก. "

ดร. เลนกรอบผู้อำนวยการวิจัยมะเร็งต่อมลูกหมากในสหราชอาณาจักรกล่าวว่าผู้ชายที่อ่านเกี่ยวกับผลการวิจัยนี้ไม่ควรตื่นตระหนก .. เกี่ยวกับโอเมก้า 3 การบริโภคของพวกเขา ดร. กรอบพูดว่า: "โอเมก้า 3 เช่นที่พบในน้ำมันปลา,ได้มุ่งเน้นจำนวนมากของการวิจัยในปีที่ผ่านมาซึ่งส่วนใหญ่ชี้ไปที่มันมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่หลากหลายเมื่อรับประทานเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่สมดุล ... "

" มีขนาดใหญ่มากและอื่น ๆ การศึกษาที่ซับซ้อนจะต้อง . จะใช้สถานที่ก่อนที่เราพร้อมจะเข้าใจวิธีการที่ความเสี่ยงของอาหารสูงในโอเมก้า 3 สมดุลกับผลประโยชน์เหล่านั้น ".

กรอบ ดร. เพิ่ม:
" ดังนั้นเราจะไม่ส่งเสริมให้คนที่จะเปลี่ยนอาหารของพวกเขาเป็นผลมาจากการศึกษาครั้งนี้ใด ๆ แต่เพื่อพูดคุยกับแพทย์ของพวกเขาหากพวกเขามีความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก. "การศึกษา
ดร. Kristal เมื่อเปรียบเทียบความเข้มข้นของระดับเลือดของโอเมก้า 3 กรดไขมัน 834 คนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเ​​ป็นมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยตัวอย่างจาก 1,393 คนจากซีลีเนียมและวิตามินอีทดลองการป้องกันมะเร็ง (เลือก).

กลุ่มความเสี่ยงต่ำสุดสำหรับการพัฒนามะเร็งต่อมลูกหมากมีเลือดมีความเข้มข้นร้อยละ 3.2 ระดับของโอเมก้า 3 กรดไขมันเมื่อเทียบกับร้อยละ 5.7 ในกลุ่มความเสี่ยงสูง.

ผลอาจมาเป็นแปลกใจให้กับบางคนพิจารณาจำนวนของสุขภาพในเชิงบวก ผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับกรดไขมันโอเมก้า 3.

มันก็ยังคงมีความไม่แน่นอนว่าทำไมความเข้มข้นสูงของกรดไขมันเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงสูงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก.

นักวิจัยบอกว่ามันเป็นไปได้ว่าโอเมก้า 3 กรดไขมันที่เป็นอันตรายเพราะพวกเขาแปลงเป็นสารประกอบที่สามารถทำลายเซลล์และดีเอ็นเอ.

ในการสรุปผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าระดับสูงของโอเมก้า 3 กรดไขมันที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงของผู้ชายคนหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก.

เขียนโดยโจเซฟ nordqvist

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กินปลามันมาก หรือใช้อาหารเสริมโอเมก้าไม่ได้ดีสำหรับสุขภาพของมนุษย์ งานวิจัยใหม่พบว่า เพศชาย มีความเข้มข้นของเลือดสูงกรดไขมันโอเมก้า-3 มีความเสี่ยงสูงของการพัฒนามะเร็งต่อมลูกหมาก

ที่ค้นหามาจากการศึกษาอนาคตขนาดใหญ่ที่เผยแพร่ในสมุดรายวันของ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ

71 เปอร์เซ็นต์เพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากที่คุณภาพสูงและการเพิ่มขึ้น 43 เปอร์เซ็นต์สำหรับโรคมะเร็งต่อมลูกหมากทั้งหมดเกี่ยวข้องกับความเข้มข้นสูง EPA ดีเอชเอ และ DPA

ผลลัพธ์เหล่านี้จะสอดคล้องกับการศึกษา 2011 ที่ดำเนินการ โดยทีมวิจัยเดียวกันซึ่งพบว่า ความเข้มข้นสูงของดีเอชเอความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากที่คุณภาพสูงกว่าสองเท่า

นักวิจัยที่เหมาะสมกับการค้นหาว่า ระดับเลือดที่สูงขึ้นของกรดไขมันโอเมก้า-3 มักจะเลื่อนขั้นเป็นดีสำหรับหัวใจ ไม่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงสูงของก้าวร้าวต่อมลูกหมากมะเร็ง
ความสอดคล้องของผลการวิจัยเหล่านี้อาจหมายถึง ว่า "กรดไขมันเหล่านี้มีส่วนร่วมใน tumorigenesis ต่อมลูกหมากและคำแนะนำเพื่อเพิ่มการบริโภคกรดไขมันโอเมก้า-3 ห่วงโซ่ยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผ่านแห้งเสริม ควรพิจารณาความเสี่ยง"

น้ำมันโอเมก้า 3 ปลา
ปี โอเมก้า 3 ปลาน้ำมันได้ถูกแนะนำ โดยองค์กรสุขภาพช่วยลดโรคหัวใจ
ของกระดาษเขียนอาวุโสและกรรมการ ฝ่ายเฟร็ด Hutch สาธารณสุขศาสตร์ Alan คริสตัล Dr.P.H กล่าวว่า: "เราได้ปรากฏอีกครั้งที่ใช้เสริมอาหารอาจจะเป็นอันตราย"

ธีโอดอร์ Brasky, Ph.D. งานวิจัยผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่โอไฮโอรัฐมหาวิทยาลัยครอบคลุมมะเร็ง Cente เพิ่ม "สิ่งสำคัญคือ เราได้สามารถจำลองผลการวิจัยของเราจาก 2011 และเรายืนยันว่า ทะเลกรดไขมันโอเมก้า-3 มีบทบาทในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก สิ่งสำคัญคือต้องทราบ แต่ ที่ผลลัพธ์เหล่านี้ถามว่าโอเมก้า-3 ของบทบาทผลดีในการคาดคะเนของมะเร็งต่อมลูกหมาก"

ดร.เอียนเฟรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยในโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก UK กล่าวว่า ไม่ต้องตกใจเพราะคนที่อ่านเกี่ยวกับผลการวิจัยนี้ควรเกี่ยวกับการบริโภคโอเมก้า-3 ดร.เฟรมกล่าวว่า: "โอเมก้า 3 เช่นพบในปลามัน แล้วจุดสำคัญของการวิจัยจำนวนมากในปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ซึ่งจุดนั้นมีสุขภาพที่หลากหลายเมื่อรับประทานเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่สมดุล... "

" ขนาดใหญ่และซับซ้อนการศึกษาจะต้องเกิดขึ้นก่อนที่เราจะเข้าใจว่าความเสี่ยงของอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูงสมดุลกับผลประโยชน์เหล่านั้น"

เพิ่มเฟรมดร.:
"ดังนั้น เราจะไม่สนับสนุนคน การเปลี่ยนอาหารของพวกเขาจากการศึกษานี้ แต่ จะพูดคุยกับแพทย์ถ้ามีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก"
ดร.คริสตัลศึกษาเปรียบเทียบความเข้มข้นของระดับเลือดของกรดไขมันโอเมก้า 3 ใน 834 คนที่ได้รับการวินิจฉัยกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยตัวอย่างจากคน 1,393 จากเกลือและวิตามินมะเร็งป้องกันทดลอง (เลือก) .

กลุ่มความเสี่ยงต่ำสุดสำหรับการพัฒนาโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ร้อยละ 3.2 เลือดเข้มข้นระดับของกรดไขมันโอเมก้า-3 เปรียบเทียบกับร้อยละ 5.7 ในกลุ่มความเสี่ยงสูงในการ

ผลอาจมาเป็นประหลาดใจบาง พิจารณาจำนวนบวกสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับกรดไขมันโอเมก้า-3

ยังคงไม่แน่นอนทำไมความเข้มข้นสูงกรดไขมันเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงสูงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก

นักวิจัยบอกว่า มันเป็นไปได้ว่า กรดไขมันโอเมก้า-3 จะเป็นอันตรายเนื่องจากพวกเขาแปลงเป็นสารประกอบที่สามารถทำลายเซลล์และดีเอ็นเอ

เบียดเบียน ค้นหาที่ชี้ให้เห็นว่า ระดับสูงของกรดไขมันโอเมก้า-3 สามารถเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก

เขียน โดยโจเซฟ Nordqvist

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การรับประทานอาหารจำนวนมากของปลาเทราท์หรือ บริโภค อาหารเสริมโอเมก้าอาจไม่เป็นผลดีต่อ สุขภาพ ของคนคนหนึ่ง. การวิจัยใหม่เผยให้เห็นว่าผู้ชายมีความเข้มข้นเลือดสูงของกรดไขมันโอเมก้า - 3 ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการพัฒนาเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก.

การค้นหาที่มาจากการศึกษาในอนาคตขนาดใหญ่ที่ตีพิมพ์ในวารสารของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ.

ที่ 71% เพิ่มขึ้นความเสี่ยงของ คุณภาพ สูงและมะเร็งต่อมลูกหมากที่ 43% เพิ่มขึ้นสำหรับมะเร็งต่อมลูกหมากทั้งหมดมีความสัมพันธ์กับระดับสูงความเข้มข้นของ EPA ,ดีเอชเอและเคลม DPA .

เหล่านี้มีความเหมาะสมสอดคล้องกันกับผลที่ 2011 การศึกษาดำเนินการโดยทีมงานที่เดียวกันกับการวิจัยซึ่งพบว่าสูงความเข้มข้นของดีเอชเอมากกว่าเป็นสองเท่าความเสี่ยงที่จะเกิดการ คุณภาพ สูงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก.

นักวิจัยกลุ่มนี้ยังตกใจในการค้นหาที่ระดับสูงกว่าของกรดไขมันโอเมก้า - 3 ได้รับการส่งเสริมการลงทุนโดยปกติแล้วเป็นที่ดีสำหรับหัวใจที่มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงสูงกว่าการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเชิงรุก.
ความสอดคล้องของการค้นพบเหล่านี้อาจหมายความว่า"กรดไขมันเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับในคำแนะนำและ tumorigenesis ต่อมลูกหมากในการเพิ่มโอเมก้า - 3 เป็นกรดไขมันการ บริโภคในเฉพาะผ่านเสริมนั้นควรพิจารณาถึงความเสี่ยงของ"

น้ำมันปลาโอเมก้า 3
สำหรับปี,น้ำมันปลาโอเมก้า 3 ได้รับการแนะนำจาก สุขภาพ องค์กรเพื่อช่วยลดโรค.
ที่เอกสารของผู้เขียนและสมาชิกอาวุโสของเฟรดกรงสาธารณะวิทยาศาสตร์ สุขภาพ และ Alan Kristal ,ดร. p . H ,กล่าวว่า:"เราได้แสดงอีกครั้งว่าการใช้ทาง โภชนาการ อาหารเสริมอาจเป็นอันตรายต่อ"

ธีโอดอร์ brasky Ph . D .ศาสตราจารย์ผู้ช่วยวิจัยที่รัฐโอไฮโอมหาวิทยาลัยที่ครอบคลุมมะเร็ง cente กล่าวเพิ่มเติมว่า"สิ่งที่สำคัญคือเรามีความสามารถในการแพร่ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วเป็นผลการศึกษาของเราจาก 2011 และเราได้รับคำยืนยันว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 ทางทะเลมีบทบาทในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องบันทึกไว้ด้วยว่า:แต่ถึงอย่างไรก็ตามซึ่งผลการทดสอบนี้ไม่ได้แอดเดรสของคำถามที่ว่าโอเมก้า - 3 ของผลกระทบที่มีบทบาทในการทำนายอาการของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก"

ดร. เอียนจีโอเมลวิลล์เฟรมผู้อำนวยการของการวิจัยที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากสหราชอาณาจักรกล่าวว่าคนอ่านหนังสือเกี่ยวกับผลของงานวิจัยนี้ไม่ควรตื่นตระหนกเกี่ยวกับปริมาณโอเมก้า 3 ของพวกเขา ดร.เฟรมกล่าวว่า"โอเมก้า 3 เช่นพบได้ในปลาเทราท์ได้รับการให้ความสำคัญของเงินขนาดใหญ่ของงานวิจัยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีคะแนนสะสมเป็นประโยชน์ต่อ สุขภาพ ที่หลากหลายเมื่อรับประทานเป็นส่วนหนึ่งของการทานอาหารให้สมดุล"

"คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่มากขึ้นและมากขึ้นจากการศึกษาจะต้องใช้ในการจะเกิดขึ้นก่อนที่เราจะเข้าใจได้อย่างไรความเสี่ยงที่มาของอาหารที่สูงในโอเมก้า 3 ความสมดุลกับประโยชน์ที่ได้"

ดร. เฟรมเพิ่ม:
"ดังนั้นเราจะไม่สนับสนุนให้คนใดในการเปลี่ยนอาหารเป็นผลมาจากการศึกษาวิจัยนี้แต่จะพูดกับแพทย์หากพวกเขามีข้อกังวลใดๆเกี่ยวกับมะเร็งต่อมลูกหมาก"
ดร. การศึกษาของ Kristal เมื่อเทียบกับระดับความเข้มข้นของเลือดที่กรดไขมันโอเมก้า 3 ใน 834 คนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยตัวอย่างจาก 1,393 คนออกจากเลเนียมวิตามินอีและการป้องกันมะเร็งการทดลองใช้งาน(เลือก)

กลุ่มความเสี่ยงต่ำสุดสำหรับการพัฒนาเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ 3.2 ระดับความเข้มข้นเลือดของกรดไขมันโอเมก้า 3 เมื่อเทียบกับ 5.7% ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง.

ผลที่อาจจะเข้ามาเป็นเรื่องน่าประหลาดใจเลยสำหรับบางคนการพิจารณาจำนวนของสิทธิประโยชน์ด้าน สุขภาพ ในเชิงบวกที่จะมีการเชื่อมโยงกับกรดไขมันโอเมก้า 3 .

มันเป็นความไม่แน่นอนว่าทำไมความเข้มข้นของกรดไขมันสูงเหล่านี้มีการเชื่อมโยงกับความเสี่ยงมากขึ้นการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก.

นักวิจัยบอกว่ามันเป็นไปได้ว่ากรดไขมันโอเมก้า - 3 เป็นอันตรายต่อเพราะของเขาเป็นสารประกอบที่สามารถทำให้เกิดความเสียหายและเซลล์ดีเอ็นเอ.

ในบทสรุปการค้นหาให้เห็นว่าระดับสูงของกรดไขมันโอเมก้า - 3 สามารถเพิ่มความเสี่ยงของคนที่มีการพัฒนาเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก.

เขียนโดยโยเซฟ nordqvist