Each OnClickListener can be a defau

Each OnClickListener can be a default anonymous class, that will be triggered only by one button. So no need to name them "NegativeClickEvent", "DoublezeroClickEvent", etc.

You can keep a boolean variable if the "." was pressed, and accept another one only if not. If you want a usable calculator, you need a "backspace" button as well. So note that the dot may be deleted. (need to keep track of its placement).

For the leading 0, you can use a simple "if dot was pressed first, insert 0.".

There are many ways to implement what you want, but to keep it simple, just handle the cases you need to handle.

Other ways to implement this may include Double.parseDouble(s) with catch (NumberFormatException e) on each key pressed, or using a double as your buffer, and using the buttons to perform mathematical operations on it directly (such as multiply by 10 and adding the new digit on each button press) - this will ensure input validity without the need to parse String, but it's more complicated to implement.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แต่ละ OnClickListener ได้เริ่มต้นแบบไม่ระบุชื่อคลาส ถูกทริกเกอร์ โดยปุ่มเดียวเท่านั้น ดังนั้นไม่จำเป็นต้องตั้งชื่อให้ "NegativeClickEvent", "DoublezeroClickEvent" เป็นต้นคุณสามารถเก็บถ้าตัวแปรบูลีนการ "ได้" กด และยอมรับอีกหนึ่งเท่านั้นถ้าไม่ได้ ถ้าคุณต้องการเครื่องคิดเลขได้ ต้องใช้ปุ่ม "backspace" เช่น เพื่อให้ ทราบว่า อาจถูกลบจุด (ต้องการติดตามตำแหน่งของ)นำ 0 คุณสามารถใช้ที่เรียบง่าย "ถ้ากดจุดแรก แทรก 0 ได้"มีหลายวิธีที่ จะใช้สิ่งที่คุณต้อง แต่จะให้มันเรียบง่าย เพียงจัดการกับกรณีที่คุณจำเป็นต้องจัดการวิธีอื่น ๆ ในการดำเนินการนี้อาจรวม Double.parseDouble(s) มีจับ (NumberFormatException e) ในแต่ละคีย์ กด หรือใช้ double เป็นบัฟเฟอร์ของคุณ และการใช้ปุ่มการดำเนินการทางคณิตศาสตร์ไว้โดยตรง (เช่นคูณ 10 และเพิ่มตำแหน่งใหม่ในแต่ละปุ่มกด) - นี้จะให้มีผลบังคับใช้สำหรับการป้อนค่าโดยไม่ต้องแยกสาย แต่นั้นมีซับซ้อนมากสามารถ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

OnClickListener แต่ละคนสามารถเริ่มต้นเป็นระดับที่ไม่ระบุชื่อที่จะถูกเรียกโดยเฉพาะปุ่มเดียว จึงไม่จำเป็นต้องตั้งชื่อพวกเขา "NegativeClickEvent", "DoublezeroClickEvent" ฯลฯคุณสามารถเก็บตัวแปรบูลีนถ้า "." ถูกกดและยอมรับอีกคนหนึ่งเท่านั้นหากไม่ได้ ถ้าคุณต้องการใช้งานเครื่องคิดเลข, คุณจำเป็นต้องมีปุ่ม "Backspace" ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นทราบว่าจุดอาจถูกลบออก (ต้องติดตามตำแหน่งของมัน). สำหรับชั้นนำ 0, คุณสามารถใช้ง่าย "ถ้าถูกกดจุดแรกใส่ 0. ". มีหลายวิธีที่จะใช้สิ่งที่คุณต้องการ แต่เพื่อให้มันง่ายเพียงแค่จัดการ กรณีที่คุณต้องจัดการ. วิธีการอื่น ๆ ในการดำเนินการนี้อาจรวมถึง Double.parseDouble (s) ด้วยการจับ (NumberFormatException จ) ในแต่ละปุ่มกดหรือใช้คู่เป็นกันชนของคุณและใช้ปุ่มที่จะดำเนินการทางคณิตศาสตร์กับมันโดยตรง (เช่นคูณด้วย 10 และการเพิ่มหลักใหม่ในการกดแต่ละปุ่ม) - นี้จะช่วยให้การป้อนข้อมูลที่ถูกต้องโดยไม่จำเป็นต้องแยกสตริง แต่มันเป็นความซับซ้อนมากขึ้นในการดำเนินการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่ละ onclicklistener สามารถเริ่มต้นที่ไม่ระบุชื่อคลาส ซึ่งจะถูกเรียกเพียงปุ่มเดียว ดังนั้นไม่ต้องตั้งชื่อว่า " negativeclickevent " , " doublezeroclickevent " ฯลฯ

คุณสามารถเก็บไว้ที่ตัวแปรบูลีนถ้า " " ถูกกด และยอมรับอีก แต่ถ้าไม่ ถ้าคุณต้องการเครื่องคิดเลขใช้ได้ คุณต้องการ " Backspace " ปุ่มเช่นกัน เพื่อให้ทราบว่าจุดอาจถูกลบ( ต้องติดตามตำแหน่งของมัน )

สําหรับผู้นํา 0 คุณสามารถใช้ง่าย " ถ้าจุดแรกคือกดใส่ 0 " . .

มีหลายวิธีที่จะใช้สิ่งที่คุณต้องการ แต่ให้มันง่าย แค่จัดการกับคดีที่คุณต้องการจัดการ

วิธี อื่น ๆที่จะใช้นี้อาจรวมถึงคู่ parsedouble ( s ) จับ ( numberformatexception E ) ในแต่ละคีย์ที่กด หรือใช้เป็นสองเท่าเป็นบัฟเฟอร์ของคุณและใช้ปุ่มเพื่อดำเนินการทางคณิตศาสตร์ได้โดยตรง ( เช่น คูณด้วย 10 และเพิ่มตัวเลขใหม่ในแต่ละปุ่มกด ) -- นี้จะช่วยให้ข้อมูลความถูกต้องโดยไม่ต้องแยกสตริง แต่มันซับซ้อนมากขึ้นที่จะใช้ .