We have mentioned that SQL is the l

We have mentioned that SQL is the language of databases. What is a database? Databases are a storage mechanism designed to offer access to stored information and their manipulation. Information in the database is stored in objects called tables. Tables are uniquely identified by their names and are comprised of columns and rows. Columns contain the column name, column data type, and any other attributes for the column. Rows contain the records or data for the columns. Many of the tables in a database will have relationships, or links between them, either in a one-to-one or a one-to-many relationship. This is why this kind of databases is called relational model databases.

The easiest way to describe a database structure is by comparing it with an Excel spreadsheet, with which many are familiar. A database is one spreadsheet file. Sheets in the spreadsheet are tables, each one with a given name. Columns and rows are the same in both. SQL language can be used to create new tables, or alter existing ones, and to fetch data, update data, or delete data.

Say we have a big collection of famous movie quotes stored in random separate text files. Even if we are more organized and use Excel spreadsheet, the problem we have is the same. Having quotes stored in that way, we can’t quickly get all quotes from one movie, or get all quotes from one character. If we move our text files or spreadsheet into a database, and create tables with relations between them, all this becomes possible. What does relational really mean? The relational model is a way to describe the data and the relationship between those data entities. In our example, a relation is a connection between every single quote with a table where movie titles are stored, or all characters are stored.

Here is a bit simplified example, with only one sample table called “Movie_quotes”. It has four columns, one for quote text, one for character that said that quote, and one for a movie and a year. We have collected eight movie quotes, and our sample table looks like this:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราได้กล่าวถึงว่า SQL เป็นภาษาฐานข้อมูล ฐานข้อมูลคืออะไร กลไกการจัดเก็บที่ออกแบบมาเพื่อให้เข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บและการจัดการฐานข้อมูลได้ ข้อมูลในฐานข้อมูลจะถูกเก็บในวัตถุที่เรียกว่าตาราง ตารางที่ระบุ โดยชื่อเฉพาะ และประกอบด้วยคอลัมน์และแถว คอลัมน์ประกอบด้วยชื่อคอลัมน์ คอลัมน์ชนิดข้อมูล และคุณลักษณะอื่น ๆ สำหรับคอลัมน์ แถวประกอบด้วยระเบียนหรือข้อมูลสำหรับคอลัมน์ หลายตารางในฐานข้อมูลจะมีความสัมพันธ์ หรือการเชื่อมโยงระหว่าง ในเป็นแบบหนึ่งต่อหนึ่งหรือความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อ-กลุ่ม นี่คือเหตุผลที่ฐานข้อมูลชนิดนี้เรียกว่าฐานข้อมูลแบบเชิงสัมพันธ์เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเพื่ออธิบายโครงสร้างฐานข้อมูล โดยการเปรียบเทียบมันกับกระดาษคำนวณ Excel ที่หลายคนคุ้นเคย ฐานข้อมูลเป็นแฟ้มกระดาษคำนวณ แผ่นงานในกระดาษคำนวณตาราง แต่ละคน มีชื่อที่กำหนดไว้ คอลัมน์และแถวเหมือนกันในทั้งสอง สามารถใช้ภาษา SQL เพื่อสร้างตารางใหม่ หรือเปลี่ยนที่อยู่ และข้อมูล การนำมาใช้ปรับปรุงข้อมูล การลบข้อมูลว่า เรามีเสนอภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงที่เก็บไว้ในแฟ้มข้อความแยกต่างหากสุ่มชุดใหญ่ แม้ว่าเราจะจัดขึ้น และใช้กระดาษคำนวณ Excel เรามีปัญหาได้เหมือนกัน มีเก็บไว้ในลักษณะที่ใบเสนอราคา เราไม่สามารถได้อย่างรวดเร็วได้รับใบเสนอราคาทั้งหมดจากภาพยนตร์หนึ่ง หรือรับใบเสนอราคาทั้งหมดตั้งแต่หนึ่งอักขระ ถ้าเราย้ายแฟ้มข้อความหรือกระดาษคำนวณของเราลงในฐานข้อมูล และสร้างตาราง มีความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ทั้งหมดนี้จะเป็นไปได้ ไม่ว่าเชิงจริง ๆ หมายถึง แบบจำลองเชิงสัมพันธ์คือ วิธีการอธิบายข้อมูลและความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตีข้อมูลเหล่านั้น ในตัวอย่างของเรา ความสัมพันธ์มีการเชื่อมต่อระหว่างใบเสนอราคาทุกเดียวกับตารางที่เก็บชื่อเรื่องภาพยนตร์ หรือตัวอักษรทั้งหมดจะถูกเก็บไว้นี่คือภาษาบิตตัวอย่าง ตารางอย่างเดียวเรียกว่า "Movie_quotes" มีสี่คอลัมน์ สำหรับข้อเสนอ หนึ่งสำหรับอักขระที่กล่าวว่า การที่ใบเสนอราคา และภาพยนตร์และปี เราได้รวบรวมเสนอภาพยนตร์ 8 และตารางตัวอย่างของเรามีลักษณะดังนี้:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราได้กล่าวว่า SQL เป็นภาษาของฐานข้อมูล ฐานข้อมูลคืออะไร? ฐานข้อมูลเป็นกลไกการจัดเก็บที่ออกแบบมาเพื่อนำเสนอการเข้าถึงข้อมูลที่เก็บไว้และการจัดการของพวกเขา ข้อมูลในฐานข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในวัตถุที่เรียกว่าตาราง ตารางจะมีการระบุที่ไม่ซ้ำกันโดยชื่อของพวกเขาและจะประกอบด้วยคอลัมน์และแถว คอลัมน์มีชื่อคอลัมน์ชนิดข้อมูลคอลัมน์และคุณลักษณะอื่น ๆ สำหรับคอลัมน์ แถวมีบันทึกหรือข้อมูลสำหรับคอลัมน์ หลายตารางในฐานข้อมูลจะมีความสัมพันธ์หรือการเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาทั้งในแบบหนึ่งต่อหนึ่งหรือความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหลาย นี่คือเหตุผลที่ชนิดของฐานข้อมูลนี้เรียกว่าฐานข้อมูลแบบเชิงสัมพันธ์. วิธีที่ง่ายที่สุดในการอธิบายโครงสร้างฐานข้อมูลคือการเปรียบเทียบกับกระดาษคำนวณ Excel กับที่หลายคนคุ้นเคย ฐานข้อมูลไฟล์สเปรดชีตหนึ่ง แผ่นในกระดาษคำนวณตารางแต่ละคนที่มีชื่อได้รับ คอลัมน์และแถวจะเหมือนกันทั้งใน ภาษา SQL สามารถใช้ในการสร้างตารางใหม่หรือแก้ไขที่มีอยู่และสามารถดึงข้อมูลข้อมูลปรับปรุงข้อมูลหรือลบข้อมูล. กล่าวว่าเรามีชุดใหญ่ของคำพูดภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงเก็บไว้ในไฟล์ข้อความที่แยกสุ่ม แม้ว่าเราจะจัดขึ้นและใช้กระดาษคำนวณ Excel ปัญหาที่เรามีเหมือนกัน มีคำพูดที่ถูกเก็บไว้ในวิธีการที่เราไม่สามารถได้อย่างรวดเร็วทุกคำพูดจากภาพยนตร์หรือได้รับราคาจากตัวละครตัวหนึ่ง ถ้าเราย้ายไฟล์ข้อความหรือสเปรดชีตของเราลงในฐานข้อมูลและสร้างตารางที่มีความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งหมดนี้จะเป็นไปได้ จริงๆสัมพันธ์หมายถึงอะไร? รูปแบบเชิงสัมพันธ์เป็นวิธีที่จะอธิบายถึงข้อมูลและความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานเหล่านั้นข้อมูลที่ ในตัวอย่างของเราความสัมพันธ์ที่เชื่อมต่อระหว่างทุกคำพูดเดียวกับตารางที่ชื่อภาพยนตร์จะถูกเก็บไว้หรือตัวอักษรทั้งหมดจะถูกเก็บไว้. นี่เป็นตัวอย่างบิตง่ายกับตารางตัวอย่างเพียงหนึ่งเรียกว่า "Movie_quotes" มันมีสี่คอลัมน์หนึ่งสำหรับข้อความคำพูดหนึ่งสำหรับตัวละครที่กล่าวอ้างนั้นและหนึ่งสำหรับภาพยนตร์และอีกหนึ่งปี เราได้เก็บรวบรวมแปดคำพูดภาพยนตร์และตารางตัวอย่างของเรามีลักษณะเช่นนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราได้กล่าวถึงว่า SQL เป็นภาษาของฐานข้อมูล ฐานข้อมูลคืออะไร ? ฐานข้อมูลเป็นกระเป๋ากลไกที่ออกแบบมาเพื่อให้เข้าถึงการจัดเก็บข้อมูลและการจัดการของพวกเขา ข้อมูลในฐานข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในวัตถุที่ชื่อตาราง มีตารางระบุชื่อและจำนวนคอลัมน์และแถว . คอลัมน์ที่มีชื่อคอลัมน์ประเภทข้อมูลคอลัมน์และอื่น ๆ คุณลักษณะสำหรับคอลัมน์ แถวประกอบด้วยระเบียนหรือข้อมูลสำหรับคอลัมน์ หลายตารางในฐานข้อมูลจะมีความสัมพันธ์หรือเชื่อมโยงระหว่างกัน ทั้งในแบบหนึ่งต่อหนึ่งหรือหนึ่งความสัมพันธ์มากมาย นี่คือเหตุผลที่ชนิดของฐานข้อมูลเรียกว่าแบบจำลองฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์

วิธีที่ง่ายที่สุดเพื่ออธิบายโครงสร้างของฐานข้อมูล โดยเปรียบเทียบกับ Excel สเปรดชีต ,ที่หลายคนคุ้นเคย ฐานข้อมูลเป็นแฟ้มกระดาษคำนวณ 1 แผ่น ในกระดาษคำนวณตารางแต่ละที่มีชื่อ . คอลัมน์และแถวเป็นเหมือนกันทั้งคู่ ภาษา SQL สามารถใช้ในการสร้างตารางใหม่หรือปรับเปลี่ยนวัตถุที่มีอยู่ และเพื่อรับข้อมูลอัปเดตหรือลบข้อมูล

บอกว่าเรามีคอลเลกชันขนาดใหญ่ของภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงคำคมที่เก็บไว้ในแฟ้มข้อความที่แยกต่างหาก แบบสุ่มแม้ว่าเราจะมีการจัดและใช้ Excel Spreadsheet , ปัญหาที่เรามีเหมือนกัน มีคำคมที่จัดเก็บในลักษณะที่เราไม่สามารถได้อย่างรวดเร็วได้รับราคาทั้งหมดจากภาพยนตร์ หรือได้รับใบเสนอราคาจากตัวละครตัวหนึ่ง ถ้าเราย้ายไฟล์ข้อความหรือตารางลงในฐานข้อมูลและสร้างตารางที่มีความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ทั้งหมดนี้สามารถเป็นไปได้ ความสัมพันธ์อะไรจริงๆหมายถึง ?แบบจำลองเชิงสัมพันธ์เป็นวิธีที่จะอธิบายข้อมูลและความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลหน่วยงาน . ในตัวอย่างของเรา ความสัมพันธ์ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างราคากับทุกโต๊ะที่ชื่อภาพยนตร์จะถูกเก็บไว้ หรือ ตัวละครทั้งหมดจะถูกเก็บไว้

นี่คือตัวอย่างง่ายบิตที่มีเพียงหนึ่งตารางตัวอย่างที่เรียกว่า " movie_quotes " มันมี 4 คอลัมน์หนึ่งสำหรับอ้างข้อความหนึ่งในตัวละครที่กล่าวอ้าง และหนึ่งสำหรับภาพยนตร์ และในปี เราได้รวบรวมแปดคำคมภาพยนตร์และตารางตัวอย่างของเรามีลักษณะเช่นนี้ :