Figure 2 shows, for each land use c

Figure 2 shows, for each land use category, to which extent the rain water harvested annually can contribute to
the irrigation requirement for the two scenarios. The values reported are computed in a simplistic manner by
considering that all the rain water harvested is stored without any limitation and applied on the fields without any
loss due to the efficiency of the irrigation system. The blue the bars depicts the share of irrigation requirement
satisfied by the rain water harvested. The lowest values are those from Scenario I, where RH can supply, in the best
case (horticulture), only 17% of the water requirements, and in the worst case (olive groves), only 2%. As far as
Scenario II is concerned, irrigation water is potentially provided by RH with higher percentages (e.g. 35% for
horticulture and 5% for olive groves).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปที่ 2 แสดง สำหรับแต่ละประเภทการใช้ที่ดิน ขอบเขตที่น้ำฝนที่เก็บเกี่ยวทุกปีสามารถนำไปสู่ต้องการชลประทานสำหรับสองสถานการณ์ ค่าที่รายงานมีคำนวณในลักษณะเรียบง่ายโดยพิจารณาว่า เป็นการเก็บไว้โดยไม่มีข้อจำกัด และใช้กับเขตข้อมูลโดยไม่ต้องมีน้ำฝนทั้งหมดที่เก็บเกี่ยวขาดทุนเนื่องจากประสิทธิภาพของระบบชลประทาน แถบสีฟ้ามีภาพส่วนแบ่งของการชลประทานความพึงพอใจ โดยน้ำฝนที่เก็บเกี่ยว ค่าต่ำสุดคือจากสถานการณ์สมมติ I ที่ RH สามารถจัดหา ในสุดกรณี (พืชสวน), เพียง 17% ของความต้องการน้ำ และ ในกรณีเลวร้ายที่สุด (สวนมะกอก), เพียง 2% เท่าที่เป็นสถานการณ์สมมติที่สองเกี่ยวข้อง น้ำชลประทานอาจมี RH เปอร์เซ็นต์สูง (เช่น 35% สำหรับพืชสวนและ 5% สำหรับสวนมะกอก)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปที่ 2 แสดงให้เห็นว่าสำหรับแต่ละประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อที่ขอบเขตน้ำฝนเก็บเกี่ยวเป็นประจำทุกปีสามารถนำไปสู่
​​ความต้องการชลประทานสำหรับสองสถานการณ์ ค่าที่รายงานจะคำนวณในลักษณะที่เรียบง่ายโดย
พิจารณาว่าน้ำฝนเก็บเกี่ยวจะถูกเก็บไว้โดยไม่มีข้อ จำกัด ใด ๆ และนำมาใช้ในทุ่งนาโดยไม่ต้องมี
การสูญเสียอันเนื่องมาจากประสิทธิภาพของระบบชลประทาน สีฟ้าแถบแสดงให้เห็นถึงความต้องการส่วนแบ่งของการชลประทาน
พอใจโดยน้ำฝนเก็บเกี่ยว ค่าต่ำสุดเป็นผู้ที่มาจากสถานการณ์ที่ฉันที่ RH สามารถจัดหาที่ดีที่สุดใน
กรณี (พืชสวน) เพียง 17% ของความต้องการน้ำและในกรณีที่เลวร้ายที่สุด (สวนมะกอก) เพียง 2% เท่าที่
สถานการณ์ที่สองเป็นห่วงน้ำชลประทานให้บริการที่อาจเกิดขึ้นโดย RH มีเปอร์เซ็นต์สูงขึ้น (เช่น 35% สำหรับ
พืชสวนและ 5% สำหรับสวนมะกอก)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 2 แสดงการใช้ที่ดิน แต่ละประเภท ซึ่งขอบเขตน้ำฝนเก็บเกี่ยวปีสามารถมีส่วนร่วมความต้องการน้ำชลประทานสำหรับสองสถานการณ์ รายงานเป็นค่าคำนวณในลักษณะแบบง่ายๆโดยพิจารณาว่าน้ำฝนเก็บเกี่ยวจะถูกเก็บไว้โดยไม่มีข้อจำกัด และประยุกต์ในสาขาโดยไม่ต้องใด ๆการสูญเสียเนื่องจากการประสิทธิภาพของระบบชลประทาน สีฟ้าแถบแสดงให้เห็นส่วนของความต้องการน้ำพอใจ โดยน้ำฝนเก็บเกี่ยว . ค่าต่ำสุดคือจากสถานการณ์ผมที่ความสามารถ อุปทาน ใน ที่ดีที่สุดกรณี ( พืชสวน ) เพียง 17 % ของความต้องการน้ำ และในกรณีเลวร้ายที่สุด ( มะกอกเทศ ) เพียง 2 % เท่าที่สถานการณ์ที่ 2 เป็นกังวล น้ำอาจให้ความชื้นสัมพัทธ์ร้อยละที่สูงขึ้น ( เช่น 35% สำหรับพืชสวนและ 5% สำหรับมะกอกเทศ )