Cost-benefit analysis (CBA), someti

Cost-benefit analysis (CBA), sometimes called benefit–cost analysis (BCA), is a systematic approach to estimating the strengths and weaknesses of alternatives that satisfy transactions, activities or functional requirements for a business. It is a technique that is used to determine options that provide the best approach for the adoption and practice in terms of benefits in labour, time and cost savings etc. (David, Ngulube and Dube, 2013). The CBA is also defined as a systematic process for calculating and comparing benefits and costs of a project, decision or government policy (hereafter, "project").
Broadly, CBA has two purposes:
1. To determine if it is a sound investment/decision (justification/feasibility),
2. To provide a basis for comparing projects. It involves comparing the total expected cost of each option against the total expected benefits, to see whether the benefits outweigh the costs, and by how much.[1]
CBA is related to, but distinct from cost-effectiveness analysis. In CBA, benefits and costs are expressed in monetary terms, and are adjusted for the time value of money, so that all flows of benefits and flows of project costs over time (which tend to occur at different points in time) are expressed on a common basis in terms of their "net present value."
Closely related, but slightly different, formal techniques include cost-effectiveness analysis, cost–utility analysis, economic impact analysis, fiscal impact analysis, and Social return on investment (SROI) analysis.

Cost-effectiveness analysis (CEA) is a form of economic analysis that compares the relative costs and outcomes (effects) of two or more courses of action. Cost-effectiveness analysis is distinct from cost-benefit analysis, which assigns a monetary value to the measure of effect.[1] Cost-effectiveness analysis is often used in the field of health services, where it may be inappropriate to monetize health effect. Typically the CEA is expressed in terms of a ratio where the denominator is a gain in health from a measure (years of life, premature births averted, sight-years gained) and the numerator is the cost associated with the health gain.[2] The most commonly used outcome measure is quality-adjusted life years (QALY).[1] Cost-utility analysis is similar to cost-effectiveness analysis. Cost-effectiveness analyses are often visualized on a cost-effectiveness plane consisting of four-quadrants. Outcomes plotted in Quadrant I are more effective and more expensive, those in Quadrant II are more effective and less expensive, those in Quadrant III are less effective and less expensive, and those in Quadrant IV are less effective and more expensive.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Cost-benefit analysis (CBA), sometimes called benefit–cost analysis (BCA), is a systematic approach to estimating the strengths and weaknesses of alternatives that satisfy transactions, activities or functional requirements for a business. It is a technique that is used to determine options that provide the best approach for the adoption and practice in terms of benefits in labour, time and cost savings etc. (David, Ngulube and Dube, 2013). The CBA is also defined as a systematic process for calculating and comparing benefits and costs of a project, decision or government policy (hereafter, "project").Broadly, CBA has two purposes:1. To determine if it is a sound investment/decision (justification/feasibility),2. To provide a basis for comparing projects. It involves comparing the total expected cost of each option against the total expected benefits, to see whether the benefits outweigh the costs, and by how much.[1]CBA is related to, but distinct from cost-effectiveness analysis. In CBA, benefits and costs are expressed in monetary terms, and are adjusted for the time value of money, so that all flows of benefits and flows of project costs over time (which tend to occur at different points in time) are expressed on a common basis in terms of their "net present value."Closely related, but slightly different, formal techniques include cost-effectiveness analysis, cost–utility analysis, economic impact analysis, fiscal impact analysis, and Social return on investment (SROI) analysis.วิเคราะห์ (ซุส) เป็นรูปแบบของการวิเคราะห์เศรษฐกิจที่เปรียบเทียบต้นทุนสัมพัทธ์และผล (ผล) ของหลักสูตรที่ สองของการดำเนินการ วิเคราะห์ที่แตกต่าง การวิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์ที่กำหนดค่าเงินให้วัดผล ได้ [1] วิเคราะห์มักใช้ในด้านการบริการสุขภาพ ที่อาจไม่เหมาะสมเพื่อสร้างรายได้จากผลกระทบต่อสุขภาพ โดยทั่วไปการซุสถูกแสดงในอัตราส่วนที่ตัวส่วนกำไรสุขภาพจากการวัด (ปีของชีวิต เกิดก่อนวัยป้องกัน ตาปีได้) และตัวเศษคือ ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับกำไรสุขภาพ [2] ที่มักใช้วัดผลจะปรับปรุงคุณภาพชีวิตปี (QALY) [1] วิเคราะห์ต้นทุนอรรถประโยชน์จะคล้ายกับวิเคราะห์ การวิเคราะห์ความเป็นมักจะมองเห็นบนเครื่องบินความประกอบด้วย 4 ส่วน ผลพล็อตใน Quadrant ผมมีเพิ่มเติมประสิทธิภาพ และแพงกว่า ใน Quadrant II มีประสิทธิภาพมากขึ้น และราคาไม่แพง ใน Quadrant III จะมีประสิทธิภาพน้อย และราคาไม่แพง และใน Quadrant IV มีประสิทธิภาพน้อย และแพงกว่าด้วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์ (CBA) บางครั้งเรียกว่าการวิเคราะห์ผลประโยชน์ต้นทุน (BCA) เป็นวิธีการระบบการประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของทางเลือกที่ตอบสนองการทำธุรกรรมหรือกิจกรรมที่ต้องการการทำงานสำหรับธุรกิจ มันเป็นเทคนิคที่ใช้ในการตรวจสอบตัวเลือกที่ให้วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการยอมรับและการปฏิบัติในแง่ของผลประโยชน์ในการใช้แรงงานเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (เดวิด Ngulube และเบ้ 2013 บริการ) CBA ยังถูกกำหนดให้เป็นกระบวนการที่เป็นระบบสำหรับการคำนวณและเปรียบเทียบผลประโยชน์และค่าใช้จ่ายของโครงการการตัดสินใจหรือนโยบายของรัฐบาล (ต่อจากนี้ "โครงการ").
แฉ่ง CBA มีสองวัตถุประสงค์:
1 เพื่อตรวจสอบว่าเป็นเสียงการลงทุน / การตัดสินใจ (เหตุผล / ความเป็นไปได้)
2 เพื่อใช้เป็นเกณฑ์สำหรับการเปรียบเทียบโครงการ มันเกี่ยวข้องกับการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะได้รวมของตัวเลือกกับผลประโยชน์ทั้งหมดที่คาดว่าแต่ละคนเพื่อดูว่าผลประโยชน์ที่มีค่าเกินค่าใช้จ่ายและวิธีการมาก. [1]
CBA เกี่ยวข้องกับ แต่ที่แตกต่างจากการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ใน CBA ผลประโยชน์และค่าใช้จ่ายที่จะแสดงในแง่การเงินและมีการปรับมูลค่าของเงินตามเวลาเพื่อให้กระแสทั้งหมดของผลประโยชน์และกระแสของค่าใช้จ่ายโครงการในช่วงเวลา (ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นที่จุดที่แตกต่างกันในเวลา) จะแสดงใน พื้นฐานทั่วไปในแง่ของ "มูลค่าปัจจุบันสุทธิ."
อย่างใกล้ชิดที่เกี่ยวข้อง แต่แตกต่างกันเล็กน้อยเทคนิคอย่างเป็นทางการรวมถึงการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ, การวิเคราะห์ต้นทุนและยูทิลิตี้การวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจ, การวิเคราะห์ผลกระทบทางการเงินและผลตอบแทนจากการลงทุนเพื่อสังคม (SROI) การวิเคราะห์การวิเคราะห์ต้นทุนประสิทธิผล (CEA) เป็นรูปแบบของการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจที่เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายญาติและผล (ผลกระทบ) สองคนหรือมากกว่าหลักสูตรของการดำเนินการ การวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพจะแตกต่างจากการวิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์ที่กำหนดค่าเงินวัดของผลกระทบ. [1] การวิเคราะห์ต้นทุนประสิทธิผลมักจะใช้ในด้านการให้บริการสุขภาพที่มันอาจจะไม่เหมาะสมที่จะสร้างรายได้จากผลกระทบด้านสุขภาพ โดยปกติ CEA จะแสดงในแง่ของอัตราส่วนที่ตัวหารเป็นกำไรในการดูแลสุขภาพจากวัด A (ปีของชีวิตที่เกิดก่อนวัยอันควรหันสายตาปีที่ได้รับ) และเศษเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกำไรสุขภาพ. [2] มาตรวัดผลลัพธ์ใช้กันมากที่สุดคือคุณภาพปรับชีวิตปี (QALY). [1] การวิเคราะห์ต้นทุนและยูทิลิตี้มีความคล้ายคลึงกับค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ การวิเคราะห์ต้นทุนประสิทธิผลมักจะมองเห็นบนเครื่องบินต้นทุนประสิทธิผลประกอบด้วยสี่ quadrants ผลการลงจุดใน Quadrant ฉันมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีราคาแพงมากขึ้นผู้ที่อยู่ใน Quadrant II มีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีราคาแพงน้อยกว่าผู้ที่อยู่ใน Quadrant III มีประสิทธิภาพน้อยลงและราคาไม่แพงและผู้ที่อยู่ใน Quadrant IV ที่มีประสิทธิภาพน้อยลงและมีราคาแพงกว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์ ( CBA ) บางครั้งเรียกว่า – การวิเคราะห์ต้นทุนผลประโยชน์ ( BCA ) เป็นระบบเพื่อประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของทางเลือกที่ตอบสนองความต้องการทำธุรกรรมกิจกรรมหรือการทำงานสำหรับธุรกิจ มันเป็นเทคนิคที่ใช้เพื่อตรวจสอบตัวเลือกที่ให้วิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการยอมรับและปฏิบัติในแง่ของผลประโยชน์ในแรงงาน ประหยัดเวลา และต้นทุนอื่น ๆ ( เดวิด ngulube Dube , และ , 2013 ) CBA ยังหมายถึง กระบวนการอย่างเป็นระบบสำหรับการคำนวณและเปรียบเทียบผลประโยชน์และต้นทุนของโครงการ การตัดสินใจ หรือนโยบายของรัฐบาล ( ต่อจากนี้ " โครงการ " )ในวงกว้าง , CBA มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ :1 . เพื่อตรวจสอบว่ามันเป็นการตัดสินใจลงทุน / เสียง ( เหตุผล / ความเป็นไปได้ )2 . เพื่อให้พื้นฐานสำหรับการเปรียบเทียบโครงการ มันเกี่ยวข้องกับการเปรียบเทียบทั้งหมดคาดว่าต้นทุนของแต่ละตัวเลือก กับ ทั้งหมด ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ เพื่อดูว่าผลประโยชน์ที่เกินดุลค่าใช้จ่ายและโดยวิธีการมาก [ 1 ]CBA สัมพันธ์ แต่แตกต่างจากการวิเคราะห์จุดคุ้มทุน ใน CBA , ผลประโยชน์และค่าใช้จ่ายจะถูกแสดงในด้านการเงิน และการปรับค่าเวลาของเงิน เพื่อให้กระแสของผลประโยชน์และการไหลของค่าใช้จ่ายโครงการตลอดเวลา ( ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในจุดที่แตกต่างกันในเวลาที่แสดงบนพื้นฐานทั่วไปในแง่ของมูลค่าปัจจุบันของพวกเขา " สุทธิ "ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด แต่ต่างกันเล็กน้อย เทคนิคอย่างเป็นทางการ รวมถึงการวิเคราะห์ต้นทุน - ประสิทธิผล การวิเคราะห์ต้นทุนอรรถประโยชน์ , – , การวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การวิเคราะห์ผลกระทบการเงินและผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน ( sroi ) การวิเคราะห์การวิเคราะห์ต้นทุนประสิทธิผล ( CEA ) เป็นรูปแบบของการวิเคราะห์เศรษฐกิจที่เปรียบเทียบต้นทุนสัมพัทธ์และผล ( ผล ) ของทั้งสองหรือมากกว่าหลักสูตรของการกระทำ การวิเคราะห์ต้นทุนประสิทธิผลแตกต่างจากการวิเคราะห์ต้นทุน - ผลได้ ซึ่งทำได้โดยค่าเงินเพื่อการวัดผล การวิเคราะห์ต้นทุนประสิทธิผล [ 1 ] มักใช้ในด้านการบริการสุขภาพ ซึ่งมันอาจจะไม่เหมาะสมที่จะสร้างผลกระทบสุขภาพ โดยปกติสินค้าจะแสดงในแง่ของอัตราส่วนที่ ส่วนที่เป็นประโยชน์ด้านสุขภาพจากวัด ( ปีของชีวิตก่อนวัยอันควรเกิดเบนสายตาปีได้รับ ) และนับเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการได้รับสุขภาพ [ 2 ] ที่ใช้บ่อยที่สุดคือผลการวัดคุณภาพชีวิตปรับปี ( ปีสุขภาวะ ) [ 1 ] การวิเคราะห์ต้นทุนอรรถประโยชน์คล้ายกับการวิเคราะห์ต้นทุนประสิทธิผล . การวิเคราะห์ต้นทุนประสิทธิผลมักจะมองเห็นในคุ้มค่าเครื่องบินประกอบด้วยสี่เขต ผลลัพธ์ที่วางแผนในพื้นที่ผมจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีราคาแพงกว่า ในส่วนที่ 2 มีประสิทธิภาพมากขึ้นและราคาไม่แพง ในส่วนที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าและมีราคาแพงน้อยกว่า และในส่วนที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าและมีราคาแพงมากขึ้น