This movie is about a teen that has

This movie is about a teen that has to make up his mind whether to continue to get by in life or actually put in the effort to graduate. It's quite complicating since he is an artist that gets easily distracted. With the help of his newfound friend, he finally has a reason to strive to succeed in life, while falling in love with her. The movie is inspiring to all of the kids out there that don't attempt to put the effort into life.

One line that specifically highlights this is the line "Anything Is Possible". It is said at the end of the movie but should be emphasized more throughout the movie since it is the main message.

This movie is different because it shows the other side of high school kids; the "bad" side. With an amazing performance by Highmore, The Art of Getting By may just be the best "underdog" movie of 2011.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัยรุ่นที่มีการสร้างจิตใจของเขาว่าจะดำเนินต่อ ไปได้โดยในชีวิตจริง ทำให้ความพยายามในการศึกษา มันค่อนข้างเป็น complicating เนื่องจากเขาเป็นศิลปินที่ได้รับฟุ้งซ่านได้ง่าย ช่วยเพื่อน newfound ของเขา เขาก็มีเหตุผลที่จะมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ในขณะที่อยู่ในความรักกับเธอ ภาพยนตร์แรงบันดาลใจทั้งหมดของเด็กออกมีที่ไม่พยายามใส่ความพยายามลงไปในชีวิตได้ บรรทัดหนึ่งที่เน้นเฉพาะนี้เป็นรายการ "สิ่งที่เป็นไปได้" กล่าวในตอนท้ายของภาพยนตร์ แต่ควรจะเน้นมากขึ้นตลอดภาพยนตร์เนื่องจากเป็นข้อความหลัก ภาพยนตร์เรื่องนี้จะแตกต่างกันเนื่องจากมันแสดงด้านอื่น ๆ ของเด็กมัธยม ด้าน "เลว" ด้วยประสิทธิภาพที่น่าทึ่งโดย Highmore ศิลปะของการโดยเพียงได้ภาพยนตร์ "รอง" ดีที่สุด 2011

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัยรุ่นที่มีการให้ขึ้นใจของเขาว่าจะยังคงได้รับโดยในชีวิตจริงหรือใส่ในความพยายามที่จะจบการศึกษา มันค่อนข้างซับซ้อนเพราะเขาเป็นศิลปินที่ได้รับการฟุ้งซ่านได้ง่าย ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนที่เพิ่งของเขาในที่สุดเขาก็มีเหตุผลที่จะมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตในขณะที่ตกอยู่ในความรักกับเธอ ภาพยนตร์เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกเด็กออกมีที่ไม่พยายามที่จะใช้ความพยายามเข้ามาในชีวิต. สายหนึ่งที่เฉพาะไฮไลท์นี้เป็นสาย "ไม่มีอะไรที่เป็นไปได้" ได้มีการกล่าวในตอนท้ายของหนังเรื่องนี้ แต่ควรจะเน้นมากขึ้นตลอดภาพยนตร์เพราะมันเป็นข้อความหลัก. หนังเรื่องนี้จะแตกต่างกันเพราะมันแสดงให้เห็นอีกด้านหนึ่งของเด็กมัธยม; ด้าน "เลวร้าย" ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่น่าตื่นตาตื่นใจโดย Highmore, ศิลปะของการเพียงแค่อาจจะดีที่สุด "ฝ่ายแพ้" ภาพยนตร์ของปี 2011