Nearly all of the ISTE Standards li

Nearly all of the ISTE Standards list digital citizenship as one of the aspects of education technology that all members of a school or district should support. Specifically, the standards tend to focus on the safe, legal and ethical use of technology in schools.

This is certainly at the heart of the ideas behind digital citizenship, but as technology integration grows, not only in schools but in society as a whole, I believe the concept of digital citizenship will continue to expand.

When I wrote my first book, Digital Citizenship in Schools, with Gerald Bailey, we considered where this might lead on a bigger scale. The idea was to create a framework of defining elements that provide a structure for digital citizenship education on which everything else could hang. As a result, we identified nine key elements that help define how to best use technology in every school, home and community. They’re organized into three primary categories:

Respect

Digital access: Advocating for equal digital rights and access is where digital citizenship starts.

Digital etiquette: Rules and policies aren’t enough — we need to teach everyone about appropriate conduct online.

Digital law: It’s critical that users understand it’s a crime to steal or damage another’s digital work, identity or property.

Educate

Digital communication: With so many communication options available, users need to learn how to make appropriate decisions.

Digital literacy: We need to teach students how to learn in a digital society.

Digital commerce: As users make more purchases online, they must understand how to be effective consumers in a digital economy.

Protect

Digital rights and responsibilities: We must inform people of their basic digital rights to privacy, freedom of speech, etc.

Digital safety and security: Digital citizens need to know how to protect their information from outside forces that might cause harm.

Digital health and wellness: From physical issues, such as repetitive stress syndrome, to psychological issues, such as internet addiction, users should understand the health risks of technology.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกือบทั้งหมดของมาตรฐานกว่ารายการสัญชาติดิจิตอลเป็นหนึ่งในด้านของเทคโนโลยีการศึกษาที่สมาชิกทั้งหมดของโรงเรียนหรือเขตควรสนับสนุน โดยเฉพาะ มาตรฐานมักจะ เน้นการใช้เทคโนโลยีในโรงเรียนปลอดภัย กฎหมาย และจริยธรรมนี้เป็นหัวใจของความคิดหลังสัญชาติดิจิตอล แต่เป็นการรวมเทคโนโลยีที่เติบโต ไม่เพียงแต่ ในโรงเรียน แต่ ในสังคม ผมเชื่อว่า แนวคิดของสัญชาติดิจิตอลจะยังขยายเมื่อผมเขียนสมุดแรกของฉัน โรงเรียน มีเขา Bailey ดิจิตอลสัญชาติเราถือว่าที่นี่อาจทำในสเกลที่ใหญ่ขึ้น แนวคิดการ สร้างกรอบของการกำหนดองค์ประกอบที่มีโครงสร้างการศึกษาสัญชาติดิจิตอลซึ่งทุกอย่างสามารถแขวน ได้ ดังนั้น เราสามารถระบุเก้าองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยกำหนดวิธีการที่ดีที่สุดใช้เทคโนโลยีในทุกโรงเรียน บ้านและชุมชน พวกเขากำลังจัดออกเป็นสามประเภทหลัก:ความเคารพเข้าถึงดิจิทัล: Advocating สำหรับสิทธิเท่าดิจิตอลและการเข้าถึงเป็นที่เริ่มต้นของดิจิตอลสัญชาติมารยาทแบบดิจิทัล: กฎและนโยบายไม่พอ — เราต้องสอนคนเกี่ยวกับออนไลน์ที่เหมาะสมดำเนินการกฎหมายดิจิตอล: มันเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้เข้าใจมันเป็นอาชญากรรมขโมย หรือทำลายของอีกงานดิจิตอล ตัวตน หรือคุณสมบัติรู้การสื่อสารดิจิทัล: มีจำนวนมากดังนั้นการสื่อสารแบบใช้ ผู้ใช้ต้องเรียนรู้วิธีการทำการตัดสินใจที่เหมาะสมวัดดิจิตอล: เราจำเป็นต้องสอนนักเรียนเรียนรู้ในสังคมดิจิทัลCommerce ดิจิตอล: เป็นผู้ทำให้ความต้องการซื้อออนไลน์ พวกเขาต้องเข้าใจวิธีการเป็นผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพในระบบเศรษฐกิจดิจิตอลปกป้องลิขสิทธิ์ดิจิทัลและความรับผิดชอบ: เราต้องแจ้งคนสิทธิดิจิทัลพื้นฐานเพื่อความเป็นส่วนตัว เสรีภาพในการพูด ฯลฯความปลอดภัยดิจิตอล: ดิจิตอลประชาชนจำเป็นต้องทราบวิธีการป้องกันข้อมูลของกองกำลังภายนอกที่อาจก่อให้เกิดอันตรายสุขภาพดิจิทัลและสุขภาพ: จากเรื่องจริง เช่นโรคความเครียดซ้ำ ปัญหาทางจิตใจ เช่นอินเทอร์เน็ตยาเสพติด ผู้ใช้ควรเข้าใจความเสี่ยงสุขภาพเทคโนโลยี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกือบทั้งหมดของมาตรฐาน ISTE รายการพลเมืองดิจิตอลเป็นหนึ่งในด้านของเทคโนโลยีการศึกษาที่สมาชิกทุกคนในโรงเรียนหรือเขตพื้นที่ควรสนับสนุน โดยเฉพาะมาตรฐานที่มีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยในการใช้กฎหมายและจริยธรรมของเทคโนโลยีในโรงเรียน. นี้แน่นอนที่เป็นหัวใจของความคิดที่อยู่เบื้องหลังความเป็นพลเมืองดิจิตอล แต่เป็นการบูรณาการเทคโนโลยีเติบโตขึ้นไม่เพียง แต่ในโรงเรียน แต่ในสังคมโดยรวม ผมเชื่อว่าแนวความคิดของการเป็นพลเมืองดิจิตอลจะยังคงขยาย. เมื่อผมเขียนหนังสือเล่มแรกของฉันเป็นพลเมืองดิจิตอลในโรงเรียนกับเจอราลด์เบลีย์เราพิจารณาที่นี้อาจนำไปสู่ในระดับที่ใหญ่กว่า ความคิดคือการสร้างกรอบการทำงานขององค์ประกอบที่กำหนดให้โครงสร้างสำหรับการศึกษาความเป็นพลเมืองดิจิตอลที่ทุกอย่างอื่นอาจแขวน เป็นผลให้เราระบุองค์ประกอบที่สำคัญที่จะช่วยให้เก้ากำหนดวิธีการที่จะใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโรงเรียนบ้านและทุกชุมชน พวกเขากำลังจัดออกเป็นสามประเภทหลักเคารพการเข้าถึงดิจิตอล: การสนับสนุนเพื่อสิทธิที่เท่าเทียมกันดิจิตอลและการเข้าถึงที่เป็นพลเมืองดิจิตอลเริ่มต้น. มารยาทดิจิตอล:. กฎและนโยบายที่มีไม่เพียงพอ - เราต้องสอนทุกคนเกี่ยวกับการดำเนินการที่เหมาะสมออนไลน์กฎหมายดิจิตอล: มันเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้เข้าใจว่ามันผิดทางอาญาที่จะขโมยหรือความเสียหายอื่นทำงานดิจิตอลตัวตนหรือสถานที่ให้บริการ. การศึกษาการสื่อสารดิจิตอล:. ด้วยตัวเลือกการสื่อสารมากมายที่มีผู้ใช้จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีที่จะทำให้การตัดสินใจที่เหมาะสมความรู้ดิจิตอล: เราจำเป็นต้องสอนนักเรียนวิธี ที่จะเรียนรู้ในสังคมดิจิตอล. พาณิชย์ดิจิตอล: ในฐานะที่เป็นผู้ใช้ในการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นพวกเขาจะต้องเข้าใจวิธีการที่จะเป็นผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพในเศรษฐกิจดิจิตอล. ปกป้องสิทธิ์แบบดิจิตอลและความรับผิดชอบ: เราต้องแจ้งคนสิทธิของตนดิจิตอลขั้นพื้นฐานเพื่อความเป็นส่วนตัวของเสรีภาพในการ คำพูด ฯลฯ ความปลอดภัยดิจิตอลและความปลอดภัย: พลเมืองดิจิตอลจำเป็นต้องรู้วิธีที่จะปกป้องข้อมูลของพวกเขาจากกองกำลังภายนอกที่อาจก่อให้เกิดอันตราย. สุขภาพดิจิตอลและสุขภาพ: จากปัญหาทางกายภาพเช่นโรคความเครียดซ้ำกับปัญหาทางด้านจิตใจเช่นการติดยาเสพติดอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้ควรทำความเข้าใจความเสี่ยงต่อสุขภาพของเทคโนโลยี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกือบทั้งหมดของมาตรฐานหนังสือรายการดิจิตอลสัญชาติเป็นหนึ่งในด้านการศึกษา ด้านเทคโนโลยี ที่สมาชิกทุกคนในโรงเรียนควรสนับสนุน โดยเฉพาะมาตรฐานมีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นไปที่ปลอดภัยทางด้านกฎหมายและจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีในโรงเรียน

นี้แน่นอนหัวใจของความคิดที่อยู่เบื้องหลังการดิจิตอล แต่เป็นการรวมเทคโนโลยีที่เติบโตไม่เพียง แต่ในโรงเรียน แต่ในสังคม ผมเชื่อว่าความคิดของพลเมืองดิจิตอลจะยังคงขยาย

เมื่อฉันเขียนหนังสือเล่มแรกของฉัน เป็นดิจิตอล ในโรงเรียน กับ เจอร์ราร์ด เบลีย์ เราพิจารณาว่า อาจจะนำในระดับที่ใหญ่กว่าความคิดคือการสร้างกรอบของการกำหนดองค์ประกอบที่ให้โครงสร้างการศึกษาพลเมืองดิจิตอลที่ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถแขวน เป็นผลให้เราระบุเก้าองค์ประกอบที่สําคัญที่ช่วยกำหนดวิธีการใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดใน ทุก ๆบ้าน โรงเรียนและชุมชน พวกเขาจะจัดเป็นสามประเภทหลัก :

นับถือ

ดิจิตอลการเข้าถึง :สนับสนุนเรื่องสิทธิเท่าเทียมกันและการเข้าถึงดิจิตอลที่พลเมืองดิจิตอลเริ่ม

ดิจิตอลมารยาท : กฎและนโยบายที่ไม่เพียงพอ เราต้องสอนทุกคนออนไลน์เกี่ยวกับความประพฤติที่เหมาะสม

ดิจิตอลกฎหมาย : มันสำคัญที่ผู้ใช้เข้าใจมันเป็นอาชญากรรมที่จะขโมยหรือความเสียหายอื่นงานดิจิตอล ฐานะหรือทรัพย์สิน .



ความรู้การสื่อสารดิจิตอล :การสื่อสารกับตัวเลือกมากมายที่ผู้ใช้ต้องการที่จะเรียนรู้วิธีที่จะทำให้การตัดสินใจที่เหมาะสม

ดิจิตอลการรู้หนังสือ : เราต้องสอนนักเรียนวิธีการเรียนรู้ในสังคมดิจิตอล ดิจิตอลพาณิชย์

: เป็นผู้ใช้ให้มากขึ้น การซื้อสินค้าออนไลน์ พวกเขาจะเข้าใจวิธีการเป็นผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพในเศรษฐกิจดิจิตอล ปกป้อง


ดิจิตอลสิทธิและความรับผิดชอบเราต้องแจ้งคนพื้นฐานของสิทธิทางดิจิตอลเพื่อความเป็นส่วนตัว เสรีภาพในการพูด ฯลฯ

ดิจิตอลความปลอดภัย : พลเมืองดิจิตอลต้องรู้วิธีการปกป้องข้อมูลของพวกเขาจากกองกำลังภายนอกที่อาจก่อให้เกิดอันตราย

ดิจิตอลสุขภาพและสุขภาพ : จากปัญหาทางกายภาพ เช่น กลุ่มอาการความเครียดซ้ำซาก ปัญหาทางด้านจิตใจ เช่น โดยการติดอินเทอร์เน็ตผู้ใช้ควรเข้าใจความเสี่ยงด้านสุขภาพจากเทคโนโลยี