According to Limper [32], due to it

According to Limper [32], due to its low boiling point,
alcohol, which is attached to the TESPT coupling agent, can
be classified as a Volatile Organic Compound (VOC). During
curing, the ethanol in the ALK is released, and the amine
group becomes reactive and forms coupling bonds with the
silanol Si–O group of silicas, instead of the non-polar hydrocarbon
of ALK interacting physically through moment
dipole interaction with the long chains of NR. By this
mechanism, the silica-ALK-NR bonding/interaction is
formed, and the probable mechanism for such an interaction
is presented in Fig. 12

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามเนื่องจากจุดเดือดต่ำ Limper [32],แอลกอฮอล์ ที่แนบแทนคลัป TESPT สามารถสามารถจัดประเภทเป็นการระเหยอินทรีย์ผสม (VOC) ในระหว่างการแข็งตัว เอทานอลใน ALK นำออกใช้ และ amineกลุ่มฟอร์มคลัปพันธบัตรด้วย และกลายเป็นปฏิกิริยากลุ่ม silanol ศรี – O silicas แทนไฮโดรคาร์บอนไม่ใช่ขั้วโลกของ ALK โต้ตอบทางกายภาพผ่านช่วงเวลาโต้ตอบ dipole กับโซ่ยาวของ NR โดยการนี้กลไก งานซิลิก้า-ALK-NR/โต้ ตอบได้เกิดขึ้น และน่าเป็นกลไกสำหรับการโต้ตอบใน Fig. 12

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตามที่ Limper [32]
เนื่องจากจุดเดือดต่ำของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งอยู่ติดกับตัวแทนการมีเพศสัมพันธ์TESPT
สามารถจะจัดเป็นสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย(VOC) ในระหว่างการบ่มเอทานอลใน ALK ที่ถูกปล่อยออกมาและเอมีกลุ่มกลายเป็นปฏิกิริยาและรูปแบบพันธบัตรมีเพศสัมพันธ์กับsilanol กลุ่ม Si-O ของ silicas แทนของไฮโดรคาร์บอนที่ไม่มีขั้วของALK ปฏิสัมพันธ์ทางร่างกายผ่านช่วงเวลาที่มีปฏิสัมพันธ์ขั้วกับโซ่ยาวยางธรรมชาติ โดยวิธีการนี้กลไกซิลิกา ALK-NR-พันธะ / การทำงานร่วมกันจะเกิดขึ้นและกลไกดังกล่าวน่าจะเป็นสำหรับการปฏิสัมพันธ์จะนำเสนอในรูป 12

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตาม limper [ 32 ] เนื่องจากต่ำจุดเดือด ,
แอลกอฮอล์ ซึ่งอยู่ติดกับ tespt coupling agent สามารถ
ถูกจัดเป็นสารประกอบอินทรีย์ระเหย ( VOC ) ระหว่าง
การบ่มในผู้ผลิตเอทานอลจะถูกปล่อยออกและกลุ่มเอมีน
กลายเป็นปฏิกิริยาและรูปแบบการเชื่อมต่อพันธบัตรกับ
ซิลานอลศรี– O กลุ่มซิลิกาแทน
ไฮโดรคาร์บอนไม่มีขั้วของการโต้ตอบทางกายภาพผ่านช่วงเวลา
ALK มีปฏิสัมพันธ์กับโซ่ยาวของ Nr โดยกลไกนี้
, ซิลิก้า ผู้ผลิตยางเชื่อม / (
รูปแบบและกลไกที่เป็นไปได้เช่นปฏิสัมพันธ์
ที่แสดงในรูปที่ 12