การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการบริหารจัดการหอพักของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ในเครือข่ายสุวรรณคีรี เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 5 ตามความคิดเห็นของนักเรียนพักนอน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็น นักเรียนพักนอนของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาในเครือข่ายสุวรรณคีรี เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 5 อำเภออมก๋อย 3 แห่ง จำนวน 172 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้เป็นแบบสอบถาม (Questionnaire) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถาม (Questionnaire) ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นเองซึ่ง แบบสอบถามแบ่งออกเป็น 2 ตอน ดังนี้
ตอนที่ 1 สถานภาพส่วนตัวของผู้ตอบเป็นแบบสอบถามแบบปลายปิด (Close-ended Form)
ตอนที่ 2 ความคิดเห็นของนักเรียนหอพักที่มีต่อการบริหารจัดการหอพักเป็นแบบสอบถาม ชนิดมาตราส่วนประเมินค่า (Rating Scale) ชนิด 5 ระดับ ตามวิธีการของ เรนซิสลิเคอร์ท (Rensis Likert) ใช้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับตัวแปรตาม (ความคิดเห็นของนักเรียนพักนอนต่อการบริหารจัดการหอพักโรงเรียนทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านการบริหารจัดการที่พัก ด้านสุขลักษณะของที่พัก ด้านสภาพแวดล้อมของที่พัก และด้านกิจกรรมของนักเรียนพักนอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ ค่าที (t - test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. สถานภาพส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถามของนักเรียนพักนอนของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาเครือข่ายสุวรรณคีรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 5 ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุช่วง 13-15 ปี เรียนในระดับชั้น ม.1-3 ส่วนมากเป็นชนเผ่ากะเหรี่ยง นับถือศาสนาคริสต์ ส่วนใหญ่ไม่มีพี่น้องที่โรงเรียนเดียวกับตน การประกอบอาชีพส่วนใหญ่ของบิดา มารดาคืออาชีพเกษตรกร
2. ระดับความคิดเห็นของนักเรียนพักนอนต่อการบริหารจัดการหอพักของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาในเครือข่ายสุวรรณคีรีด้านการบริหารจัดการหอพักโรงเรียนทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านการบริหารจัดการที่พัก ด้านสุขลักษณะของที่พัก ด้านสภาพแวดล้อมของที่พัก และ ด้านกิจกรรมของนักเรียนพักนอนจำแนกตามระดับประถมศึกษา 4-6 อยู่ในระดับน้อยที่สุดพบว่า ด้านสุขลักษณะของที่พัก มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ส่วนด้านสภาพแวดล้อมของที่พัก มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ส่วนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 อยู่ในระดับน้อยพบว่า ด้านกิจกรรมของนักเรียนพักนอนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ส่วนด้านการบริหารจัดการที่พักมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด
3. เปรียบเทียบความคิดเห็นของนักเรียนพักนอนต่อการบริหารจัดการหอพักของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาในเครือข่ายสุวรรณคีรี ตามระดับชั้นแสดงให้เห็นว่า ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 และ ระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1-3 มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการหอพักทั้ง 4 ด้าน คือ การบริหารจัดการที่พัก สุขลักษณะของที่พัก สภาพแวดล้อมของที่พัก และ กิจกรรมของนักเรียนพักนอน ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ α = .05 ทุกด้าน