Formative assessments allow a teach

Formative assessments allow a teacher to benchmark progress, evaluate the pace of instruction, and determine the need for intervention support. Through formative assessments, students receive timely feedback regarding their accomplishments and needs.
Diagnostic information gained from multiple forms of assessment enables teachers to adjust their day-to-day and week-to-week practices to foster greater student achievement. The many types of assessment include paper-and-pencil testing, performance testing, interviews, and portfolios, as well as less formal inventories such as regular observation of student responses to instruction. In helping students achieve standards, assessments should also use a variety of question formats: multiple-choice, short-answer, and open-ended. Performance-based assessments should also be developed that allow students to demonstrate what they have learned in the context of solving a problem or applying a concept. This kind of assessment requires students to refine a problem, devise a strategy to solve it, apply relevant knowledge, conduct sustained work, and deal with both complex concepts and discrete facts.
GUIDING PRINCIPLE IX
An effective program in science and technology/engineering gives students opportunities to collaborate in scientific and technological endeavors and communicate their ideas.
Scientists and engineers work as members of their professional communities. Ideas are tested, modified, extended, and reevaluated by those professional communities over time. Thus, the ability to convey their ideas to others is essential for these advances to occur.
In order to learn how to effectively communicate scientific and technological ideas, students require practice in making written and oral presentations, fielding questions, responding to critiques, and developing replies. Students need opportunities to talk about their work in focused discussions with peers and with those who have more experience and expertise. This communication can occur informally, in the context of an ongoing student collaboration or on-line consultation with a scientist or engineer, or more formally, when a student presents findings from an individual or group investigation.
GUIDING PRINCIPLE X
A coherent science and technology/engineering program requires
district-wide planning and on-going support for implementation.
District-Wide Planning
An effective curriculum that addresses the learning standards of this Framework must be planned as a PreK–12 cohesive unit. Teachers in different classrooms and at different levels should agree about what is to be taught in given grades. For example, middle school teachers should be able to expect that students coming from different elementary schools within a district share a common set of experiences and understandings in science and technology/engineering, and that the students they send on to high school will be well-prepared for what comes next. In order for this expectation to be met, middle school teachers need to plan curricula in common with their elementary and high school colleagues, and with district staff.
To facilitate planning, the district coordinator should be involved in articulating, coordinating, and implementing a district-wide (PreK–12) science and technology/engineering curriculum.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเมินความอุดมสมบูรณ์ให้ครูเปรียบความก้าวหน้า ประเมินก้าวสอน และกำหนดความต้องการในการแทรกแซงสนับสนุน ผ่านการประเมินความอุดมสมบูรณ์ นักเรียนได้รับผลป้อนกลับของเวลาเกี่ยวกับความสำเร็จและความต้องการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบฟอร์มต่าง ๆ ของการประเมินช่วยให้ครูปรับปรุงการปฏิบัติของแต่ละวัน และสัปดาห์ต่อสัปดาห์เพื่อส่งเสริมความสำเร็จนักเรียนมากขึ้น การประเมินหลายชนิดได้แก่กระดาษ และดินสอทดสอบ ทดสอบประสิทธิภาพ สัมภาษณ์ และพอร์ตการลงทุน ตลอดจนสินค้าคงคลังอย่างน้อยเช่นสังเกตปกติของนักเรียนตอบคำ ในการช่วยนักเรียนให้บรรลุมาตรฐาน ประเมินควรใช้คำถามรูปแบบที่หลากหลาย: multiple-choice ตอบสั้น ๆ และแบบเปิด ประเมินประสิทธิภาพตามควรยังมีพัฒนาที่ช่วยให้นักเรียนแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ในบริบทของการแก้ไขปัญหา หรือการใช้แนวคิด การ การประเมินชนิดนี้ต้องเรียนกำหนดปัญหา ประดิษฐ์กลยุทธ์ การแก้ปัญหา ใช้ความรู้ที่เกี่ยวข้อง ทำงาน sustained จัดการกับแนวคิดที่ซับซ้อนและข้อเท็จจริงที่แยกกันแนวทางหลัก IXโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี/วิศวกรรมให้นักเรียนโอกาสในการทำงานร่วมกันในความพยายามทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี และสื่อสารความคิดนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่ทำงานเป็นสมาชิกของชุมชนมืออาชีพ ความคิดเห็นทดสอบ ปรับเปลี่ยน ขยาย และ reevaluated โดยที่ชุมชนมืออาชีพเวลา ดังนั้น ความสามารถในการถ่ายทอดความคิดให้ผู้อื่นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความก้าวหน้าเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพื่อเรียนรู้วิธีการสื่อสารความคิดทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี นักเรียนต้องฝึกเขียน fielding ถาม ตอบสนองการเมืองไทย และพัฒนาตอบกลับ นักเรียนต้องการโอกาสที่จะพูดคุยเกี่ยวกับงานของพวกเขาเน้นสนทนา กับเพื่อน และผู้ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเพิ่มเติม การสื่อสารนี้สามารถเกิดขึ้นได้อย่าง ในบริบทของนักเรียนอย่างต่อเนื่องร่วมกันหรือปรึกษาง่ายดายกับนักวิทยาศาสตร์หรือวิศวกร หรือขึ้นอย่างเป็นกิจจะลักษณะ เมื่อนักเรียนนำเสนอผลการวิจัยจากการสอบสวนส่วนบุคคล หรือกลุ่มได้หลัก Xโปรแกรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี/วิศวกรรม coherent ต้องทั้งอำเภอมีการวางแผนและสนับสนุนการดำเนินงานการวางแผนทั้งอำเภอหลักสูตรมีประสิทธิภาพที่อยู่ในมาตรฐานการเรียนรู้ของกรอบนี้ต้องมีการวางแผนเป็นหน่วยควบเพรคลีพ – 12 ครู ในห้องเรียนแตกต่างกัน และ ในระดับต่าง ๆ ควรยอมรับอะไรเป็นการสอนในเกรดที่ให้ ตัวอย่าง ครูโรงเรียนมัธยมควรจะคาดหวังว่า นักเรียนที่มาจากโรงเรียนประถมศึกษาต่าง ๆ ภายในอำเภอร่วมกันชุดทั่วไปของประสบการณ์และเปลี่ยนความเข้าใจในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี/วิศวกรรม และที่นักเรียนจะส่งไปโรงเรียนจะเตรียมห้องพักสำหรับสิ่งที่ถัดมา ในการนี้ความคาดหวังที่จะพบ ครูโรงเรียนต้องวางแผนหลักสูตร in common with เพื่อนร่วมระดับประถมและมัธยม และเจ้าหน้าที่อำเภอเพื่อความสะดวกในการวางแผน ประสานงานอำเภอควรเกี่ยวข้องใน articulating ประสานงาน และการปฏิบัติตามทั่วทั้งอำเภอ (เพรคลีพ – 12) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี/วิศวกรรมหลักสูตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเมินให้ครูไปสู่ความก้าวหน้ามาตรฐานประเมินผลการเรียนการสอนก้าวและกำหนดความจำเป็นในการสนับสนุนการแทรกแซง ผ่านการประเมินนักเรียนจะได้รับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการประสบความสำเร็จในเวลาที่เหมาะสมและความต้องการของพวกเขา.
ข้อมูลการวิเคราะห์ที่ได้จากหลายรูปแบบของการประเมินจะช่วยให้ครูที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการแบบวันต่อวันและในสัปดาห์ที่จะถึงสัปดาห์ของพวกเขาที่จะส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนมากขึ้น หลายประเภทของการประเมินผลรวมถึงการทดสอบกระดาษและดินสอ, การทดสอบประสิทธิภาพการสัมภาษณ์และพอร์ตการลงทุนเช่นเดียวกับสินค้าที่ไม่เป็นทางการเช่นการสังเกตการตอบสนองปกติของนักเรียนในการเรียนการสอน ในการช่วยให้นักเรียนบรรลุมาตรฐานการประเมินควรใช้ความหลากหลายของรูปแบบคำถามแบบปรนัยสั้นคำตอบและเปิดกว้าง การประเมินผลการปฏิบัติงานตามที่ควรได้รับการพัฒนาที่ช่วยให้นักเรียนได้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ในบริบทของการแก้ปัญหาหรือการประยุกต์ใช้แนวคิด ชนิดของการประเมินนี้นักเรียนต้องปรับแต่งปัญหาประดิษฐ์กลยุทธ์การแก้ปัญหามันใช้ความรู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและการจัดการกับแนวความคิดทั้งความซับซ้อนและข้อเท็จจริงที่ไม่ต่อเนื่อง.
หลักการชี้นำทรงเครื่อง
โปรแกรมที่มีประสิทธิภาพในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี / วิศวกรรมให้นักเรียน โอกาสที่จะทำงานร่วมกันในความพยายามของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสื่อสารความคิดของพวกเขา.
นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่ทำงานในฐานะสมาชิกของชุมชนมืออาชีพของพวกเขา ไอเดียจะมีการทดสอบแก้ไขขยายและทบทวนโดยชุมชนมืออาชีพเหล่านั้นเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นความสามารถในการถ่ายทอดความคิดของพวกเขาให้กับผู้อื่นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความก้าวหน้าเหล่านี้จะเกิดขึ้น.
เพื่อที่จะเรียนรู้วิธีการได้อย่างมีประสิทธิภาพการสื่อสารความคิดทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่นักเรียนต้องปฏิบัติในการทำการนำเสนอผลงานการเขียนและช่องปากคำถามฟีลดิงตอบสนองต่อการวิพากษ์วิจารณ์และการพัฒนา ตอบกลับ นักศึกษาจะต้องมีโอกาสที่จะพูดคุยเกี่ยวกับการทำงานของพวกเขาในการอภิปรายมุ่งเน้นไปกับเพื่อนร่วมงานและผู้ที่มีประสบการณ์มากขึ้นและความเชี่ยวชาญ การสื่อสารนี้สามารถเกิดขึ้นได้อย่างไม่เป็นทางการในบริบทของการทำงานร่วมกันของนักเรียนอย่างต่อเนื่องหรือให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสายที่มีนักวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรหรือมากกว่าอย่างเป็นทางการเมื่อนักเรียนนำเสนอผลการวิจัยจากการตรวจสอบบุคคลหรือกลุ่มบุคคล.
หลักการชี้นำ X
วิทยาศาสตร์ที่สอดคล้องและเทคโนโลยี / หลักสูตรวิศวกรรมต้องมี
การวางแผนอำเภอกว้างและการสนับสนุนที่กำลังสำหรับการดำเนินงาน.
วางแผนอำเภอกว้าง
หลักสูตรที่มีประสิทธิภาพที่อยู่ในมาตรฐานการเรียนรู้ของกรอบนี้จะต้องมีการวางแผนเป็น PreK-12 หน่วยเหนียว ครูในห้องเรียนที่แตกต่างกันและอยู่ในระดับที่แตกต่างกันควรยอมรับกับสิ่งที่จะได้รับการสอนในระดับที่กำหนด ยกตัวอย่างเช่นครูโรงเรียนมัธยมควรจะสามารถที่จะคาดหวังว่านักเรียนที่มาจากโรงเรียนประถมศึกษาที่แตกต่างกันภายในแบ่งเขตตั้งค่าทั่วไปของประสบการณ์และความเข้าใจในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี / วิศวกรรมและการให้นักเรียนที่พวกเขาส่งไปยังโรงเรียนมัธยมจะดี เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่มาต่อไป เพื่อให้ความคาดหวังที่จะได้พบกับครูโรงเรียนมัธยมต้องวางแผนหลักสูตรในการร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานที่โรงเรียนประถมและมัธยมของพวกเขาและกับเจ้าหน้าที่อำเภอ.
เพื่อความสะดวกในการวางแผนการประสานงานอำเภอควรมีส่วนร่วมในอย่างชัดเจน, การประสานงานและการดำเนินการอำเภอ -WIDE (PreK-12) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี / หลักสูตรวิศวกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การประเมินระหว่างเรียนให้ครูเพื่อความคืบหน้ามาตรฐาน ประเมินจังหวะของการเรียนการสอน และศึกษาความต้องการสนับสนุนการแทรกแซง ผ่านการประเมินระหว่างเรียน นักศึกษา ได้รับความคิดเห็นเกี่ยวกับความสำเร็จและทันเวลาของความต้องการ .
ข้อมูลการวินิจฉัยที่ได้รับจากหลายรูปแบบของการประเมินให้ครูปรับวันต่อวันของพวกเขาและสัปดาห์ซ้อมสัปดาห์เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์มากขึ้น มีหลายประเภทของการประเมิน ได้แก่ กระดาษและดินสอการทดสอบประสิทธิภาพการทดสอบ การสัมภาษณ์ และพอร์ตการลงทุนเช่นเดียวกับสินค้าคงคลังที่เป็นทางการน้อยกว่า เช่น การตรวจสอบปกติของการตอบสนองของนักเรียนเพื่อการสอนในการช่วยให้ผู้เรียนบรรลุมาตรฐาน การประเมินควรใช้ความหลากหลายของรูปแบบคำถาม : ตอบสั้น ตอบ และปลายเปิด ระบบการประเมินยังควรพัฒนาที่อนุญาตให้นักเรียนแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ในบริบทของการแก้ไขปัญหา หรือพัฒนาแนวคิด ชนิดของการประเมินนักเรียนเองต้องปรับแต่งปัญหาประดิษฐ์กลยุทธ์เพื่อแก้ปัญหานั้น ใช้ความรู้ที่เกี่ยวข้อง ดําเนินงานอย่างต่อเนื่อง และจัดการกับทั้งสองแนวคิดที่ซับซ้อนและข้อเท็จจริงที่ไม่ต่อเนื่อง หลักการ 9

โปรแกรมที่มีประสิทธิภาพในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี / วิศวกรรม ให้นักศึกษามีโอกาสที่จะร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความพยายามและสื่อสารความคิดของพวกเขา .
นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรทำงานในฐานะสมาชิกของชุมชนมืออาชีพของพวกเขา คิดจะทดสอบ แก้ไข เพิ่มเติม และพวก โดยเหล่ามืออาชีพชุมชนตลอดเวลา ดังนั้น ความสามารถในการถ่ายทอดความคิดของตนให้ผู้อื่นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความก้าวหน้าเหล่านี้เกิดขึ้น .
เพื่อเรียนรู้วิธีการอย่างมีประสิทธิภาพสื่อสารความคิดทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนักเรียนต้องฝึกการเขียนและการนำเสนอปากเปล่า Fielding คำถาม การวิจารณ์ และการตอบกลับ นักเรียนต้องการโอกาสที่จะพูดคุยเกี่ยวกับการทำงานของพวกเขาในที่เน้นการอภิปรายกับเพื่อนและผู้ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ สื่อสารนี้สามารถเกิดขึ้นได้แบบเป็นกันเอง