On May 4, 1919, students in Beijing

On May 4, 1919, students in Beijing gathered at the Gate of Heavenly Peace to protest the Chinese government's weak resistance to Japanese expansion in China. Patriots had been outraged at the influence given to Japan in the Twenty-One Demands in 1915, the complicity of Duan Qirui’s Beiyang Government, and the betrayal of China at the Treaty of Versailles by allowing Japan to receive territories in Shandong which had been surrendered by Germany. These demonstrations ignited the nation-wide May Fourth Movement and fueled the New Culture Movement which blamed China’s diplomatic defeats on social and cultural backwardness.[53]

In Changsha, Mao had begun teaching history at the Xiuye Primary School[54] and organizing protests against the pro-Duan Governor of Hunan Province, Zhang Jingyao, popularly known as "Zhang the Venomous" due to his corrupt and violent rule.[55] In late May, Mao co-founded the Hunanese Student Association with He Shuheng and Deng Zhongxia, organizing a student strike for June and in July 1919 began production of a weekly radical magazine, Xiang River Review (Xiangjiang pinglun). Using vernacular language that would be understandable to the majority of China's populace, he advocated the need for a "Great Union of the Popular Masses", strengthened trade unions able to wage non-violent revolution; his ideas were not Marxist, but heavily influenced by Kropotkin's concept of mutual aid.[56]
Students in Beijing rallied during the May Fourth Movement.

Zhang banned the Student Association, but Mao continued publishing after assuming editorship of liberal magazine New Hunan (Xin Hunan) and offering articles in popular local newspaper Justice (Ta Kung Po). Several of these articles advocated feminist views, calling for the liberation of women in Chinese society; Mao was influenced by his forced arranged-marriage.[57] In December 1919, Mao helped organise a general strike in Hunan, securing some concessions, but Mao and other student leaders felt threatened by Zhang, and Mao returned to Beijing, visiting the terminally ill Yang Changji.[58] Mao found that his articles had achieved a level of fame among the revolutionary movement, and set about soliciting support in overthrowing Zhang.[59] Coming across newly translated Marxist literature by Thomas Kirkup, Karl Kautsky, and Marx and Engels—notably The Communist Manifesto—he came under their increasing influence, but was still eclectic in his views.[60]

Mao visited Tianjin, Jinan, and Qufu,[61] before moving to Shanghai, where he worked as a laundryman and met Chen Duxiu, noting that Chen's adoption of Marxism "deeply impressed me at what was probably a critical period in my life". In Shanghai, Mao met an old teacher of his, Yi Peiji, a revolutionary and member of the Kuomintang (KMT), or Chinese Nationalist Party, which was gaining increasing support and influence. Yi introduced Mao to General Tan Yankai, a senior KMT member who held the loyalty of troops stationed along the Hunanese border with Guangdong. Tan was plotting to overthrow Zhang, and Mao aided him by organizing the Changsha students. In June 1920, Tan led his troops into Changsha, while Zhang fled. In the subsequent reorganization of the provincial administration, Mao was appointed headmaster of the junior section of the First Normal School. Now receiving a large income, he married Yang Kaihui in the winter of 1920.[62]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บน 4 พฤษภาคม 1919 นักเรียนปักกิ่งรวบรวมที่ประตูของสวรรค์เพื่อประท้วงรัฐบาลจีนต้านทานอ่อนแอไปญี่ปุ่นขยายตัวในประเทศจีน ผู้รักชาติได้ outraged ที่มีอิทธิพลให้กับญี่ปุ่นในเมืองทองธานีความต้องการใน 1915 เข้าไป Duan Qirui Beiyang รัฐบาล และการทรยศของจีนที่ในสนธิสัญญาแวร์ซายส์ โดยการอนุญาตให้ญี่ปุ่นได้รับดินแดนมณฑลซานตงซึ่งได้ถูก surrendered โดยเยอรมนี ชุมนุมเหล่านี้ลุกที่เนชั่นไวด์สี่อาจเคลื่อนไหว และการเคลื่อนไหววัฒนธรรมใหม่ซึ่งตำหนิ defeats ทางการทูตของจีนใน backwardness สังคม และวัฒนธรรม ที่เป็นเชื้อเพลิง[53]ในฉางซา เหมาได้เริ่มสอนประวัติที่โรงเรียนประถม Xiuye [54] และการจัดระเบียบการประท้วงผู้ว่าโปด้วนจังหวัดหูหนาน Zhang Jingyao เรียกขานกันว่า "เตียวมาก" เนื่องจากกฎที่เสียหาย และรุนแรงของเขา[55] ในปลายเดือนพฤษภาคม เหมาร่วมก่อตั้งสมาคมนักเรียน Hunanese กับ Shuheng เขาเตง Zhongxia จัดระเบียบนักเรียนนัดหยุดงานในช่วงเดือนมิถุนายน และในเดือน 1919 กรกฎาคมเริ่มผลิตนิตยสารรุนแรงเป็นรายสัปดาห์ ตรวจสอบแม่น้ำเซียง (pinglun เซียงเจียง) เขาใช้ภาษาพื้นถิ่นตอนที่จะเข้าใจการส่วนใหญ่ของประเทศจีนประชาชน advocated ต้องการเป็น "ดีสหภาพของนิยมมวลชน" แกร่งสหภาพต้องการค่าจ้างปฏิวัติสันติ ความคิดของเขาไม่ Marxist ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดของ Kropotkin ช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาก[56]นักศึกษาในกรุงปักกิ่งเพื่อในระหว่างขบวนการสี่อาจจางห้ามสมาคมนัก แต่เมาอย่างต่อเนื่องเผยแพร่หลังจากการสมมติว่า editorship เสรีนิตยสารใหม่หูหนาน (หูหนานซิ) และเสนอบทความในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นนิยมความยุติธรรม (ตากุ้งปอ) หลาย ๆ อย่างบทความมอง feminist advocated เรียกการปลดปล่อยของสตรีในสังคมจีน เหมาได้รับอิทธิพลจากเขาบังคับจัดแต่งงาน[57] ในเดือน 1919 ธันวาคม เมาช่วยแหล่งนัดหยุดงานทั่วไปในมณฑลหูหนาน รักษาความปลอดภัยบาง สัมปทาน แต่เมา และผู้นำนักศึกษาอื่น ๆ รู้สึกคาม โดยเตียว และเมากลับไปปักกิ่ง ชม Changji ยางพฤติกรรมป่วย[58] เมาพบว่า บทความของเขาได้บรรลุระดับของชื่อเสียงระหว่างการเคลื่อนไหวปฏิวัติ และตั้งค่าเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศสนับสนุนโค่นจาง[59] มาในวรรณคดี Marxist แปลใหม่โดย Thomas Kirkup คาร์ล Kautsky และ Marx และ Engels — ยวดแถลงการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งเขามาภายใต้อิทธิพลที่เพิ่มขึ้น แต่ถูก eclectic ยังในมุมมองของเขา[60]เมาเข้าชมเทียน จี่หนาน และชวี ฟู่, [61] ก่อนที่จะย้ายไปเซี่ยงไฮ้ ที่เขาทำงานเป็นแบบ laundryman และ Duxiu Chen เฉินที่ยอมรับของลัทธิมากซ์สังเกตพบ "ลึกผมประทับใจในสิ่งคงความสำคัญระยะเวลาในชีวิตของฉัน" ในเซี่ยงไฮ้ เหมาไปตามครูที่เก่าของเขา Yi Peiji เป็น และสนับสนุนสมาชิกของพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT), การชาตินิยมของพรรคจีน ที่ได้รับเพิ่มขึ้น และมีอิทธิพลต่อการ ยี่นำเมาไป Tan Yankai ทั่วไป สมาชิกอาวุโส KMT ที่จัดความภักดีของทหารที่ประจำอยู่ตามแนวเส้นขอบ Hunanese กับมณฑลกวางตุ้ง ตาลมีพล็อตโค่นจาง และเมาช่วยเขา โดยการจัดนักเรียนฉางซา ในเดือน 1920 มิถุนายน ตาลนำพลในฉางซา ในขณะที่เตียวหนี ในลูกจ้างภายหลังการบริหารจังหวัด เหมาถูกแต่งตั้งครูใหญ่ส่วนจูเนียร์ของแรกปกติโรงเรียน ตอนนี้รับรายได้ใหญ่ เขาแต่งงาน Kaihui ยางในฤดูหนาวของ 1920[62]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 1919 นักเรียนในกรุงปักกิ่งรวมตัวกันที่ประตูสวรรค์สันติภาพเพื่อประท้วงรัฐบาลจีนต้านทานอ่อนแอการขยายตัวของญี่ปุ่นในประเทศจีน รักชาติได้รับการเจ็บแค้นที่มีอิทธิพลต่อการได้รับไปยังประเทศญี่ปุ่นในยี่สิบหนึ่งเรียกร้องในปี 1915, ร่วมคิดของด้วน Qirui ของรัฐบาลเป่ยหยาง, และการทรยศของจีนที่สนธิสัญญาแวร์ซายโดยให้ประเทศญี่ปุ่นจะได้รับดินแดนในชานตงซึ่งได้รับการยอมจำนนโดย ประเทศเยอรมัน การสาธิตเหล่านี้จุดทั่วประเทศพฤษภาคมเคลื่อนไหวที่สี่และเชื้อเพลิงขบวนการวัฒนธรรมใหม่ซึ่งกล่าวหาว่าจีนทูตพ่ายแพ้ในความล้าหลังทางสังคมและวัฒนธรรม. [53] ในฉางเหมาได้เริ่มการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ที่โรงเรียน Xiuye ​​หลัก [54] และการจัดการประท้วงต่อต้าน โปรด้วนผู้ว่าการมณฑลหูหนานจาง Jingyao เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายเป็น "จางพิษ" เนื่องจากกฎเสียหายและความรุนแรงของเขา. [55] ในปลายเดือนพฤษภาคมเหมาร่วมก่อตั้งสมาคมนักเรียน Hunanese กับเขา Shuheng และเติ้ Zhongxia, จัดนักเรียนตีสำหรับเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 1919 ในการเริ่มผลิตนิตยสารหัวรุนแรงรายสัปดาห์ Xiang แม่น้ำรีวิว (Xiangjiang pinglun) การใช้ภาษาท้องถิ่นที่จะเข้าใจให้กับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจีนที่เขาสนับสนุนความจำเป็นในการ "Great สหภาพมวลชนยอดนิยม" ความเข้มแข็งของสหภาพการค้าสามารถที่จะทำปฏิวัติไม่ใช่ความรุนแรง; ความคิดของเขาไม่ได้มาร์กซ์ แต่อิทธิพลจากแนวคิดของ Kropotkin ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน. [56] นักเรียนในกรุงปักกิ่งในระหว่างการรวบรวมขบวนการสี่อาจจางห้ามสมาคมนักเรียน แต่เหมาอย่างต่อเนื่องหลังจากที่สำนักพิมพ์สมมติว่าบรรณาธิการของนิตยสารเสรีนิยมใหม่หูหนาน (ซินมณฑลหูหนาน ) และนำเสนอบทความในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่เป็นที่นิยมยุติธรรม (ตากุ้ง Po) หลายบทความเหล่านี้สนับสนุนมุมมองสตรีนิยมเรียกสำหรับการปลดปล่อยของผู้หญิงในสังคมจีน; เหมาได้รับอิทธิพลจากการจัดของเขาบังคับให้แต่งงาน. [57] ในเดือนธันวาคมปี 1919 เหมาช่วยจัดระเบียบการนัดหยุดงานทั่วไปในมณฑลหูหนาน, การรักษาความปลอดภัยสัมปทานบางส่วน แต่เหมาและผู้นำนักศึกษาคนอื่น ๆ รู้สึกว่าถูกคุกคามโดยจางและเหมากลับไปยังกรุงปักกิ่งเที่ยวสุดท้าย ป่วยยาง Changji. [58] เหมาพบว่าบทความของเขาประสบความสำเร็จในระดับของความมีชื่อเสียงในหมู่ขบวนการและการตั้งค่าเกี่ยวกับการชักชวนการสนับสนุนในการ overthrowing Zhang. [59] ที่มาในวรรณคดีมาร์กซ์แปลใหม่โดยโทมัส Kirkup, คาร์ล Kautsky และมาร์กซ์ และภาษาอังกฤษโดยเฉพาะอย่างยิ่งคอมมิวนิสต์ประกาศเขามาภายใต้อิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของพวกเขา แต่ก็ยังผสมผสานในความเห็นของเขา. [60] เหมาเยือนเทียนจินจี่และ Qufu [61] ก่อนที่จะย้ายไปเซี่ยงไฮ้ที่เขาทำงานเป็นคนซักรีดและ พบกับเฉิน Duxiu สังเกตว่าการยอมรับของเฉินของมาร์กซ์ "สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งฉันในสิ่งที่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตของฉัน" ในเซี่ยงไฮ้เหมาได้พบครูเก่าของเขายี่ Peiji ปฏิวัติและเป็นสมาชิกของก๊กมินตั๋ (KMT) หรือพรรคชาติจีนซึ่งได้รับการสนับสนุนเพิ่มมากขึ้นและมีอิทธิพลต่อ Yi แนะนำเหมาทั่วไปตาล Yankai สมาชิกอาวุโสเอ็มทีที่ถือความจงรักภักดีของทหารที่ประจำการตามแนวชายแดน Hunanese กับมณฑลกวางตุ้ง ตาลได้รับการวางแผนโค่นล้มจางและเหมาเขาได้รับความช่วยเหลือโดยการจัดนักเรียนฉางชา ในเดือนมิถุนายน 1920 ตาลนำทัพของเขาเข้าไปในฉางชาในขณะที่จางหนี ในการปรับโครงสร้างองค์กรตามมาของการบริหารจังหวัดเหมาได้รับการแต่งตั้งเป็นอาจารย์ใหญ่ของส่วนจูเนียร์โรงเรียนฝึกหัดครูเป็นครั้งแรก ตอนนี้ได้รับรายได้ขนาดใหญ่เขาแต่งงานกับหยางไคฮุ่ยในช่วงฤดูหนาวปี 1920 [62]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1919 , นักศึกษาในกรุงปักกิ่ง รวมตัวกันที่ประตูแห่งความสงบเพื่อประท้วงต่อต้านที่อ่อนแอของรัฐบาลจีนเพื่อการขยายตัวของญี่ปุ่นในประเทศจีน ผู้รักชาติถูกข่มขืนที่อิทธิพลให้แก่ญี่ปุ่นในยี่สิบหนึ่งความต้องการ 1915 , การสมรู้ร่วมคิดของต้วน ฉีรุ่ย beiyang รัฐบาลและการทรยศของประเทศจีนในสนธิสัญญาแวร์ซายโดยให้ญี่ปุ่นได้รับดินแดนในมณฑลซานตงซึ่งได้รับมอบจากเยอรมนี การสาธิตเหล่านี้ ignited ที่มีขบวนการ 4 พฤษภาคมและเชื้อเพลิงใหม่วัฒนธรรมการเคลื่อนไหวซึ่งโทษความพ่ายแพ้ทางการทูตของจีนในความล้าหลังของสังคมและวัฒนธรรม [ 53 ]

ในฉางชาเหมาได้เริ่มการสอนประวัติศาสตร์ที่ xiuye โรงเรียนประถม [ 54 ] และจัดประท้วงต่อต้านโปรด่วนผู้ว่าราชการจังหวัดหูหนาน จาง jingyao popularly เรียกว่า " จาง พิษ " เนื่องจากกฎรุนแรงของเขาเสียหายและ [ 55 ] ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เหมาร่วมก่อตั้งสมาคมนักเรียน hunanese กับเขาและ zhongxia shuheng เติ้ง ,การจัดนักเรียนประท้วงในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 1919 เริ่มการผลิตของอนุมูลอิสระรายสัปดาห์นิตยสารทบทวน Xiang แม่น้ำเซียงเจียง pinglun ) การใช้ภาษาท้องถิ่นจะเข้าใจว่าส่วนใหญ่ของประชาชนจีน เขา สนับสนุน ต้องเป็น " สหภาพที่ยิ่งใหญ่ของมวลที่ได้รับความนิยม " ความเข้มแข็งของสหภาพการค้าได้ค่าจ้างไม่การปฏิวัติอย่างรุนแรง ความคิดของเขาไม่ได้มาร์กซิสต์แต่อิทธิพลอย่างมากโดย โครพ กิ้นเป็นแนวคิดของการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน [ 56 ]
นักเรียนในกรุงปักกิ่ง อยู่ในช่วงพฤษภาคมเคลื่อนไหว

Zhang ห้ามนักเรียนสมาคม แต่เหมาต่อการเผยแพร่หลังทะลึ่งบรรณาธิการของนิตยสารใหม่ของมณฑลหูหนาน ( Hunan เสรีนิยมซิน ) และเสนอบทความในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ความยุติธรรมที่เป็นที่นิยม ( ต้ากงโป ) หลายบทความเหล่านี้สนับสนุนมุมมองเฟมินิสต์โทรสำหรับการปลดปล่อยของผู้หญิงในสังคมจีน เหมามาจากเขาบังคับคลุมถุงชน [ 57 ] ในเดือนธันวาคมค.ศ. 1919 , เหมาช่วยจัดระเบียบการนัดหยุดงานทั่วไป ในมณฑลหูหนาน รักษาความปลอดภัย บางสัมปทาน แต่เหมา และผู้นำนักศึกษาคนอื่น ๆรู้สึกว่าถูกคุกคามโดยจาง และเหมากลับไปปักกิ่ง เที่ยวฉางจี๋หยางที่ป่วยระยะสุดท้าย .[ 58 ] เหมา พบว่า บทความของเขาได้บรรลุระดับของชื่อเสียงของขบวนการ และตั้งค่าเกี่ยวกับการสนับสนุนในการโค่นอำนาจจาง [ 59 ] มาในใหม่แปลวรรณกรรมโดยโทมัส kirkup มาร์กซ์คาร์ลมาร์กซ์และเองเงิลส์ kautsky และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคคอมมิวนิสต์เขามาภายใต้อิทธิพลของพวกเขาเพิ่ม แต่ยังคงผสมผสานใน มุมมองของเขา [ 60 ]

มาเยือนเมืองเทียนจินจี่และ Qufu , [ 61 ] ก่อนที่จะย้ายไปเซี่ยงไฮ้ ที่เขาทำงานเป็นคนซักรีดที่เป็นชาย และได้พบกับเฉินตู้ซิ่วกล่าวว่าเฉินยอมรับมาร์กซิสต์ " ประทับใจผมในสิ่งที่อาจจะเป็นช่วงเวลาในชีวิตของฉัน " ในเซี่ยงไฮ้ เหมา เจออาจารย์เก่าของเขา อี peiji , ปฏิวัติ และสมาชิกของพรรคก๊กมินตั๋ง ( KMT ) หรือพรรคชาตินิยมจีน ,ซึ่งได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นและอิทธิพล อีแนะนำเหมา เพื่อ yankai ตันทั่วไป สมาชิกอาวุโส กมธ. ที่ถือความจงรักภักดีของทหารที่ประจำอยู่ตามแนวชายแดน hunanese กับมณฑลกวางตุ้ง ตาลได้วางแผนที่จะล้มล้างจาง และมาช่วยเขาโดยการจัดบริการนักศึกษา ในมิถุนายน 1920 , Tan นำทหารของเขาใน ฉางชา ในขณะที่จางหนีในการปรับโครงสร้างที่ตามมาขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เหมาได้รับแต่งตั้งเป็นอาจารย์ใหญ่ของส่วนรุ่นน้องโรงเรียนปกติก่อน ตอนนี้ได้รับรายได้ขนาดใหญ่ เขาแต่งงานกับหยาง kaihui ในฤดูหนาวของปี 1920 [ 62 ]