This is a great period to focus on,

This is a great period to focus on, especially because we see a massive shift in the kind of prose that is produced. Firstly, however, it is key to realise that the 18th century saw a massive rise in the printing and production of the novel, which was actually a very new form of literature at this time. In addition, the 18th century was a period that was dominated by a historical phenomenon known as the Enlightenment, which represented the triumph of reason and rationality thanks to a series of scientific discoveries that gave people the feeling that they were able to understand far more of the mysteries in the world than ever before. Texts from this period emerge from authors such as Jonathan Swift and Samuel Richardson, and a key feature of such works of prose is satire.

However, as we move towards the end of the 18th century, Gothic literature began to emerge, which, in many ways, can be seen as a response to the Age of Enlightenment, as it suddenly privileged feeling and emotion and celebrated the supernatural and delighted in cultivating horror and fear in its readers. The first text that is generally recognised to be the vanguard of Gothic literature is Horace Walpole's The Castle of Otranto, but this was quickly followed by works from other authors such as Ann Radcliffe, William Beckford and Matthew Lewis.

So, in a sentence, the 18th century saw developments in prose that resulted in the rise of the novel and in an increased readership for prose, which was characterised by a move away from reason towards the Gothic genre.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นี่คือระยะโฟกัสดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพราะเราเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชนิดของร้อยแก้วที่ผลิต แรก อย่างไรก็ตาม มันเป็นคีย์ที่รู้ว่า ศตวรรษที่ 18 ที่เห็นเพิ่มขึ้นมหาศาลในการพิมพ์และการผลิตของนวนิยาย ซึ่งเป็นจริงแบบใหม่ของวรรณกรรมในเวลานี้ นอกจากนี้ ศตวรรษที่ 18 เป็นระยะเวลาที่ถูกครอบงำ โดยปรากฏการณ์ทางประวัติศาสตร์เรียกว่าตรัสรู้ ซึ่งแสดงถึงชัยชนะของเหตุผลและเหตุผลจากชุดของการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้ท่านรู้สึกได้ว่า พวกเขาเข้าใจมากขึ้นของความลึกลับในโลกเคยมีมาก่อน ข้อความจากช่วงเวลานี้โผล่ออกมาจากผู้เขียนเช่นโจนาธานสวิฟท์และซามูเอลริชาร์ดสัน และคุณลักษณะสำคัญของงานดังกล่าวของร้อยแก้วเป็นเสียดสีอย่างไรก็ตาม เราในตอนท้ายของศตวรรษที่ 18 โกธิควรรณกรรมเริ่มที่จะออก ซึ่ง ใน อาจถือเป็นการตอบสนองการอายุตรัสรู้ เป็นมัน privileged จู่ ๆ ความรู้สึกและอารมณ์ และเฉลิมฉลองสิ่งเหนือธรรมชาติ และจัดเตรียมปลูกน่ากลัวในตัวผู้อ่าน ข้อความแรกที่รับรู้โดยทั่วไปจะเป็นทัพหน้าของวรรณคดีโกธิคเป็นฮอเรซวอลโพลปราสาทของ Otranto แต่นี้อย่างรวดเร็วตามมาด้วย การทำงานจากผู้สร้างรายอื่น ๆ เช่นแรด คลิฟฟ์แอน วิลเลียมเมนเบ็คฟอร์ด และแมทธิวลูวิสดังนั้น ในประโยค ศตวรรษที่ 18 เห็นพัฒนาในร้อยแก้วที่ผล ในการเพิ่มขึ้นของนวนิยาย และ ในจำนวนที่เพิ่มขึ้นสำหรับร้อยแก้ว ซึ่งเป็นลักษณะย้ายจากเหตุผลไปทางแนวโกธิค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่จะมุ่งเน้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะเราเห็นการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในชนิดของร้อยแก้วที่ผลิต ประการแรก แต่มันเป็นกุญแจสำคัญที่จะตระหนักว่าศตวรรษที่ 18 ได้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากในการพิมพ์และการผลิตของนวนิยายเรื่องนี้ซึ่งเป็นจริงรูปแบบใหม่มากของวรรณคดีในขณะนี้ นอกจากนี้ในศตวรรษที่ 18 เป็นช่วงเวลาที่ถูกครอบงำโดยเป็นปรากฏการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักในฐานะตรัสรู้ซึ่งเป็นตัวแทนของชัยชนะของเหตุผลและความเป็นเหตุเป็นผลขอบคุณให้กับชุดของการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้คนรู้สึกว่าพวกเขามีความสามารถที่จะเข้าใจมากขึ้นของการเป็น ลึกลับในโลกมากขึ้นกว่าเดิม ข้อความจากช่วงเวลานี้โผล่ออกมาจากผู้เขียนเช่นโจนาธานสวิฟท์และซามูเอลริชาร์ดและคุณลักษณะที่สำคัญของงานดังกล่าวร้อยแก้วเป็นถ้อยคำ.

แต่ที่เราย้ายไปทางท้ายของศตวรรษที่ 18 วรรณกรรมโกธิคเริ่มโผล่ออกมาซึ่งในหลาย ๆ วิธีที่สามารถมองเห็นการตอบสนองกับอายุของการตรัสรู้เป็นความรู้สึกที่มีสิทธิพิเศษทันทีและอารมณ์ความรู้สึกและมีชื่อเสียงโด่งดังเหนือธรรมชาติและมีความยินดีในการปลูกฝังความน่ากลัวและความหวาดกลัวในการอ่านของตน ข้อความแรกที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปจะแนวหน้าของวรรณกรรมโกธิคคือฮอเรซวอล์ปราสาททราน แต่นี้อย่างรวดเร็วตามด้วยผลงานจากนักเขียนอื่น ๆ เช่นแอนคลิฟวิลเลียม Beckford และแมทธิวลูอิส.

ดังนั้นในประโยคที่ ศตวรรษที่ 18 เห็นการพัฒนาในร้อยแก้วที่มีผลในการเพิ่มขึ้นของนวนิยายเรื่องนี้และผู้อ่านที่เพิ่มขึ้นสำหรับร้อยแก้วซึ่งโดดเด่นด้วยการย้ายออกไปจากเหตุผลที่มีต่อรูปแบบกอธิค