At the outbreak of the Second World

At the outbreak of the Second World War the Chelsea School of Art was evacuated to Northampton and Moore resigned his teaching post. During the war, Moore produced powerful drawings of Londoners sleeping in the London Underground while sheltering from the Blitz.[16] Kenneth Clark, the chairman of the War Artists' Advisory Committee,WAAC, had previously tried to recruit Moore as a full-time salaried war artist and now agreed to purchase some of the shelter drawings and issued contracts for further examples. The shelter drawings WAAC acquired were completed between the autumn of 1940 and the spring of 1941 and are regarded as among the finest products of the WAAC scheme.[17] In August 1941 WAAC commissioned Moore to draw miners working underground at the Wheldale Colliery in Yorkshire, where his father had worked at the start of the century. Whereas Moore drew the people in the shelters as passively waiting the all-clear he shows the miners aggressively working the coal-faces.[18] These drawings helped to boost Moore's international reputation, particularly in America where examples were included in the WAAC Britain at War exhibition which toured North America throughout the war.[17]

After their Hampstead home was hit by bomb shrapnel in September 1940, Moore and Irina moved out of London to live in a farmhouse called Hoglands in the hamlet of Perry Green near Much Hadham, Hertfordshire. This was to become Moore's home and workshop for the rest of his life. Despite acquiring significant wealth later in life, Moore never felt the need to move to larger premises and, apart from the addition of a number of outbuildings and studios, the house changed little over the years. In 1943 he received a commission from the Church of St. Matthew, Northampton, to carve a Madonna and Child; this sculpture was the first in an important series of family-group sculptures.[19]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระบาดของสงครามโลกครั้งสองที่ โรงเรียนศิลปะเชลซีถูกอพยพไปยังณ และมัวร์ลาออกจากตำแหน่งลงสอน ในระหว่างสงคราม มัวร์ผลิตภาพวาด Londoners นอนในรถไฟใต้ดินลอนดอนขณะ sheltering จากสงครามมีประสิทธิภาพ [16] Kenneth Clark ประธานปรึกษาสงครามศิลปิน WAAC ก่อนหน้านี้พยายามสรรหามัวร์เป็นศิลปินสงครามประจำเต็มเวลา และตอนนี้ตกลงซื้อบางส่วนของภาพวาดที่พักอาศัย และออกสัญญาตัวอย่างเพิ่มเติม ภาพวาดกำบัง WAAC มาได้เสร็จสมบูรณ์ระหว่างฤดูใบไม้ร่วงของ 1940 และฤดูใบไม้ผลิปีค.ศ. 1941 และถือเป็นผลิตภัณฑ์ดีที่สุดของแผน WAAC ระหว่าง [17] ในเดือน 1941 สิงหาคม WAAC มอบหมายอำนาจหน้าที่ของมัวร์วาดผู้ปฏิบัติทำงานใต้ดินที่ Colliery Wheldale ในยอร์คเชียร์ ที่พ่อของเขาได้ทำงานที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษ ในขณะที่มัวร์วาดคนพิงเป็น passively รอล้างข้อมูลทั้งหมด เขาแสดงผู้ปฏิบัติการอุกอาจทำถ่านหินใบหน้า [18] ภาพวาดเหล่านี้ช่วยเพื่อเพิ่มของมัวร์นานาชาติชื่อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกาที่ตัวอย่างรวมอยู่ในราชอาณาจักร WAAC ในนิทรรศการสงครามซึ่งออกอเมริกาเหนือตลอดสงคราม [17]หลังแฮมป์สเตดของ บ้านถูกตี โดยกระสุนระเบิดในเดือน 1940 กันยายน มัวร์และอีรีนาแห่งย้ายจากลอนดอนอยู่ในคุณภาพที่เรียกว่า Hoglands ในแฮมเลตของกรีนเพอร์รีใกล้มาก Hadham ฮาร์ทฟอร์ดเชอร์ นี้ได้กลายเป็น บ้านของมัวร์และประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับส่วนเหลือของชีวิตของเขา แม้ มีให้เลือกมากมายที่สำคัญในชีวิตที่ได้รับ มัวร์ไม่รู้สึกจำเป็นต้องไปสถานที่ใหญ่ และ จากการเพิ่มจำนวนของ outbuildings และสตูดิโอ บ้านเปลี่ยนน้อยกว่าปี ใน 1943 เขาได้รับค่านายหน้าจากคริสตจักรของ St. Matthew ณ แกะสลักพระแม่และเด็ก ประติมากรรมนี้เป็นครั้งแรกในชุดสำคัญของประติมากรรมกลุ่มครอบครัว [19]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่เกิดการระบาดของสงครามโลกครั้งที่สองของโรงเรียนศิลปะเชลซีได้รับการอพยพไปยังนอร์ทมัวร์และลาออกจากตำแหน่งการสอนของเขา ในช่วงสงครามมัวร์ผลิตภาพวาดที่มีประสิทธิภาพของลอนดอนนอนในรถไฟใต้ดินลอนดอนในขณะที่ปกป้องจากสายฟ้าแลบ. [16] เคนเน็ ธ คลาร์กประธานของศิลปินสงครามคณะกรรมการที่ปรึกษา, WAAC, เคยพยายามที่จะรับสมัครมัวร์เป็นแบบเต็มเวลา สงครามศิลปินเงินเดือนและตกลงที่จะซื้อตอนนี้บางส่วนของภาพวาดที่พักพิงและสัญญาออกตัวอย่างต่อไป ภาพวาดที่พักพิง WAAC ได้มาเสร็จสมบูรณ์ระหว่างฤดูใบไม้ร่วงปี 1940 และฤดูใบไม้ผลิของ 1941 และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดของโครงการ WAAC. [17] ในเดือนสิงหาคม 1941 WAAC หน้าที่มัวร์ที่จะดึงคนงานเหมืองทำงานใต้ดินที่ Wheldale ถ่านหินในยอร์ค ที่พ่อของเขาเคยทำงานในช่วงเริ่มต้นของศตวรรษที่ ในขณะที่มัวร์ดึงคนที่อยู่ในที่พักอาศัยเป็นอย่างอดทนรอทั้งหมดชัดเจนว่าเขาแสดงให้เห็นว่าคนงานเหมืองแร่อุกอาจทำงานถ่านหินใบหน้า. [18] ภาพวาดเหล่านี้จะช่วยเพิ่มชื่อเสียงระดับนานาชาติของมัวร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกาที่ตัวอย่างถูกรวมอยู่ใน WAAC อังกฤษใน นิทรรศการสงครามที่ไปเที่ยวอเมริกาเหนือตลอดสงคราม. [17] หลังจากที่บ้าน Hampstead ของพวกเขาถูกยิงด้วยกระสุนระเบิดในเดือนกันยายนปี 1940 มัวร์และ Irina ย้ายออกจากลอนดอนไปยังอาศัยอยู่ในบ้านที่เรียกว่า Hoglands ในหมู่บ้านเพอร์รี่สีเขียวที่อยู่ใกล้ Much Hadham ด้วยที่ เฮิร์ต นี้จะกลายเป็นบ้านของมัวร์และการประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับส่วนที่เหลือของชีวิตของเขา แม้จะมีการแสวงหาความมั่งคั่งอย่างมีนัยสำคัญต่อไปในชีวิตมัวร์ไม่เคยรู้สึกถึงความจำเป็นที่จะย้ายไปยังสถานที่ขนาดใหญ่และนอกเหนือจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนสิ่งก่อสร้างและสตูดิโอที่บ้านมีการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในช่วงหลายปี ในปี 1943 เขาได้รับค่านายหน้าจากโบสถ์เซนต์แมทธิว, นอร์ทที่จะแกะสลักมาดอนน่าและเด็ก; รูปปั้นนี้เป็นครั้งแรกในซีรีส์ที่สำคัญของประติมากรรมครอบครัวกลุ่ม. [19]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่ระบาดในสงครามโลกครั้งที่สองเชลซีโรงเรียนศิลปะได้อพยพไปยังนอร์ทแฮมป์ตันมัวร์ลาออกโพสต์และการสอนของเขา ระหว่างสงคราม มัวร์ที่ภาพวาดที่มีประสิทธิภาพของลอนดอนนอนใต้ดินในขณะที่ปกป้องจากการโจมตี [ 16 ] Kenneth Clark , ประธานของคณะกรรมการที่ปรึกษา waac สงครามศิลปิน ' , ,ก่อนหน้านี้พยายามที่จะรับสมัครมัวร์เป็นศิลปินสงครามเงินเดือนเต็มเวลาแล้วตอนนี้ ตกลงที่จะซื้อบางส่วนของที่พักแบบและออกสัญญาตัวอย่างเพิ่มเติม waac ได้มาพักพิงวาดเสร็จระหว่างฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิของปี 1940 1941 และจะถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดของโครงการ waac .[ 17 ] ในสิงหาคม 2484 waac มอบหมายมัวร์วาดผู้ปฏิบัติทำงานใต้ดินที่เหมืองถ่านหิน wheldale ในยอร์คเชอร์ที่พ่อของเขาเคยทำงานที่เริ่มต้นของศตวรรษที่ ขณะที่มัวร์ดึงคนในที่พักอาศัยอย่างอดทน รอเคลียร์ เขาแสดงให้เห็น คนงานเหมืองถ่านหินยังคงทำงานหน้า . [ 18 ] ภาพวาดเหล่านี้ช่วยเพิ่มชื่อเสียงระหว่างประเทศของมัวร์