นิทานอาเซียน ประเทศลาวเรื่องภูท้าวภูนางกาลครั้งหนึ่ง มีนางยักษ์ตนหนึ่ง การแปล - นิทานอาเซียน ประเทศลาวเรื่องภูท้าวภูนางกาลครั้งหนึ่ง มีนางยักษ์ตนหนึ่ง ไทย วิธีการพูด

นิทานอาเซียน ประเทศลาวเรื่องภูท้าวภ

นิทานอาเซียน ประเทศลาว
เรื่องภูท้าวภูนาง
กาลครั้งหนึ่ง มีนางยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่ากินนา อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ใกล้ภูเขา นางกินนายังเป็น
สาวไม่มีผัว อยู่ตัวเดียวเดี่ยวโดด ทุก ๆ เช้านางกินนาจะเดินไปตามป่า จะกลับมาบ้านต่อเมื่อถึงเวลาอาหาร
นางจะเฝ้าดูน้ําที่ไหลไปตามซอกหินและต้นหญ้า บ่อยครั้งที่นางจะนั่งอยู่ใต้ต้นไทรที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไป
กว้าง ทําให้ร่มเย็นแสนสบาย
การที่นางกินนาใช้ชีวิตส่วนมากอยู่ในป่าเช่นนั้น ทําให้นางคุ้นเคยกับสัตว์ป่านานาชนิด บางครั้งจะ
เห็นนางนั่งเล่นอยู่กับนกจํานวนมาก นกเหล่านั้นจะร้องเพลงให้หล่อนฟัง และบางครั้งหล่อนก็จะขึ้นไปนั่ง
บนคอช้างป่า
เช้าวันหนึ่ง นางกินนาได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกําลังเดินเข้ามาในป่า ชายหนุ่มคนนั้นมีรูปร่างงดงาม
ราวกับพระอินทร์ (ลาวชอบเปรียบคนรูปงามว่างามราวกับอินทา ในต้นฉบับอธิบายไว้ว่า อินทาเป็นเทพเจ้า
แห่งความงาม) หนุ่มผู้นั้นถือปืนไว้ในมือ นางกินนาใฝ่ฝันอยู่นานแล้วที่จะมีสามีสักคนหนึ่ง หล่อนจึงรู้สึกปลื้ม
ใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อแลเห็นหนุ่มรูปงามคนนี้
ขณะที่นางกินนากําลังรําพึงฝันหวานอยู่นั้น นางก็ระลึกขึ้นได้ว่านางเป็นยักษ์รูปร่างหน้าตาน่า
เกลียด เมื่อชายหนุ่มเห็นเข้าก็คงจะไม่หลงรักอย่างแน่นอน อย่ากระนั้นเลยปลอมแปลงกายให้งดงาม
เสียก่อนจะดีกว่า นางจึงร่ายเวทมนต์กลายร่างจากยักษ์เป็นหญิงสาวรูปงาม มีเสน่ห์ยากที่หญิงใดจะ
เทียบเคียงได้ เมื่อแปลงกายแล้ว นางกินนาก็ออกเดินเข้าไปหาชายหนุ่มแล้วถามว่า
"พี่เข้ามาในป่าจะไปไหนหรือ"
"ฉันมาล่าสัตว์" ชายหนุ่มตอบ แล้วถามต่อไปว่า "เธออยู่ที่นี่คนเดียวหรือ"
"จ้ะ ฉันอยู่คนเดียว อยู่กับนกกับต้นไม้"
เสน่ห์ของนางกินนาทําให้ชายหนุ่มเริ่มจะหลงรัก เขาเดินเข้ามายืนอยู่ใกล้ ๆ แล้วชวนพูดคุยถึงเรื่อง
ต่าง ๆ เมื่อเห็นหญิงสาวไม่รังเกียจ ก็ชวนไปนั่งคุยที่ลานหญ้าใกล้ลําธารชายหนุ่มได้บอกชื่อของเขาให้หล่อน
ทราบว่า เขาชื่อพุทเสนแล้วเล่าเรื่องราวให้หล่อนฟัง นางกินนาได้ขอร้องให้ชายหนุ่มพักอยู่กับหล่อนนาน ๆพุทเสนก็ยอมตกลงด้วยความยินดี พุทเสนอยู่กับนางกินนาด้วยความสุขสําราญ จนทําให้เขาลืม
มารดาที่อยู่อย่างยากจนทางบ้าน
วันหนึ่งนางกินนาได้บอกความลับของนางให้พุทเสนฟังด้วยความไว้วางใจ "พี่ ฉันลืมบอกพี่ไปว่าใน
หีบใบนี้มีมะนาวที่ไม่รู้จักสุกไม่รู้จักเหี่ยวอยู่หลายผล เป็นมะนาววิเศษที่ตกทอดมาตั้งแต่ครั้งย่าครั้งยายของ
ฉันทีเดียว มะนาวเหล่านี้มีอํานาจวิเศษมาก พี่เคยไปเที่ยวสวนของฉันบ้างไหม" "ไม่เคยเลย" ชายหนุ่มตอบ
"อยู่ที่ไหนล่ะ" "อ๋อ" กินนาตอบ "อยู่ห่างจากนี่สักแปดสิบเส้นเห็นจะได้ แต่ฉันขอร้องอย่าได้คิดไปเลย มันมี
อันตรายมาก" พุทเสนไม่ตอบ แต่เขาก็ยังคงคิดถึงเรื่องสวนแห่งนี้
วันหนึ่งเมื่อนางกินนาไม่อยู่ พุทเสนก็ถือโอกาสตอนที่นางกินนาไม่อยู่นั้นไปที่สวนที่นางกินนาห้าม
ในสวนแห่งนั้นพุทเสนได้พบกระดูกมนุษย์ทับถมอยู่ในคูเกือบเต็ม พุทเสนนึกเดาเรื่องได้ตลอด นางกินนา
ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอน เขาเกิดความกลัวขึ้นมาจึงวิ่งกลับมาบ้านแล้วเข้าไปในห้องเปิดหีบหยิบ
มะนาววิเศษออกมา เขาไม่รีรอให้เสียเวลารีบวิ่งออกจากป่าไปทันที
หลังจากที่พุทเสนหนีไปได้ไม่นานเท่าไรนัก นางได้เข้าไปดูที่เก็บมะนาวไว้ พอรู้ว่ามะนาวหายก็นึกรู้
ได้ทันทีว่าพุทเสนรู้ความลับและหนีไปแล้ว นางจึงกลับกลายเป็นยักษ์ตามเดิมแล้วไล่ตามพุทเสนไป
ด้วยกําลังยักษ์ นางกินนาวิ่งตามเพียงพักเดียวก็แลเห็นหลังพุทเสนไว ๆ นางกินนาร้องเรียกให้พุทธ
เสนหยุดพูดกันก่อน แต่พุทเสนไม่ยอมฟังเสียง เมื่อเห็นนางกินนาใกล้เข้ามา พุทเสนก็ล้วงเอามะนาวในย่าม
ออกมาผลหนึ่งแล้วขว้างไปตรงหน้านางกินนา ทันใดนั้นก็เกิดเป็นกองไฟกองมหึมาลุกลามกั้นนางกินนาไว้
ได้ยินแต่เสียงนางกินนาร้องเรียกแต่มองไม่เห็นตัว เพราะเปลวไฟลุกโพลง
พุทเสนไม่รอช้าขณะที่ไฟกําลังลุกโชติช่วงอยู่นั้น เขาก็วิ่งหนีต่อไป แต่หนีไปไม่ได้ไกลเท่าไร ก็ได้ยิน
เสียงนางกินนาร้องเรียกใกล้เข้ามา นางกินนาได้ใช้เวทมนต์ดับไฟสามารถไล่ตามเขามาได้อีก พุทเสนเห็น
จวนตัวจึงหยิบมะนาวอีกผลหนึ่งออกมาจากย่ามแล้วขว้างไป คราวนี้เป็นทะเลสาบกว้างใหญ่มองแทบไม่เห็น
ฝั่ง
นางกินนาถึงจะเหนื่อยอ่อนแต่ก็ยัง ไม่ละความพยายามกระโจนลงน้ําว่ายข้ามทะเลสาบมาอย่างกล้า
หาญ เมื่อนางกินนามาถึงฝั่งตรงข้าม นางก็เหนื่อยอ่อนเต็มที นอนหลับอยู่ริมตลิ่งนั่นเอง นางไม่สามารถจะขยับเขยื้อนกายต่อไปได้อีก นางได้อ้อนวอนต่อสวรรค์ ขอให้ลงโทษต่อสามีที่ไม่ซื่อสัตย์ของนาง เมื่อนางอ้อน
วอนสิ้นสุดลงดวงตาของนางก็ปิดสนิทนางกินนาขาดใจตายเสียแล้ว
เมื่อพุทเสนแลเห็นนางกินนานอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนกายเช่นนั้นก็นึกว่านางคงจะเหนื่อย อ่อนกําลังไม่
สามารถจะทําอะไรเขาได้แล้ว นึก ๆ ไปพุทเสนก็เกิดสงสารนางกินนาขึ้นมา เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
นางกินนาได้เอาอกเอาใจเป็นอย่างดี นางกินนารักพุทเสนด้วยใจจริง เมื่อคิดถึงความหลังขึ้นมาอีก พุทเสนก็
ใจอ่อนเดินกลับไปหานางกินนาที่นอนอยู่ และพอรู้ว่านางกินนาขาดใจตายไปแล้ว พุทเสนก็ทรุดตัวลงข้าง ๆ
ร่างของนางกินนา พยายามพยาบาลจะให้นางฟื้นขึ้นมาอีก แต่ไม่สําเร็จพุทเสนเสียใจมาก เขาล้มฟุบลงบน
ร่างของนางกินนา และขาดใจตายตามไปอีกคนหนึ่ง
ร่างของนางกินนาและพุทเสน คงอยู่ริมแม่น้ําแห่งนั้น และเมื่อหลายร้อนปีผ่านไป ร่างของทั้งสองก็
กลายเป็นภูเขาสองลูก ซึ่งเรียกกันว่า ภูท้าว และ ภูนาง ยังคงมีอยู่ใกล้ ๆ กับหลวงพระบางในเวลานี้
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
นิทานอาเซียนประเทศลาว
เรื่องภูท้าวภูนาง
กาลครั้งหนึ่งมีนางยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่ากินนาอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ใกล้ภูเขานางกินนายังเป็น
สาวไม่มีผัวอยู่ตัวเดียวเดี่ยวโดดทุกๆ เช้านางกินนาจะเดินไปตามป่าจะกลับมาบ้านต่อเมื่อถึงเวลาอาหาร
นางจะเฝ้าดูน้ําที่ไหลไปตามซอกหินและต้นหญ้าบ่อยครั้งที่นางจะนั่งอยู่ใต้ต้นไทรที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไป
กว้างทําให้ร่มเย็นแสนสบาย
การที่นางกินนาใช้ชีวิตส่วนมากอยู่ในป่าเช่นนั้นทําให้นางคุ้นเคยกับสัตว์ป่านานาชนิดบางครั้งจะ
เห็นนางนั่งเล่นอยู่กับนกจํานวนมากนกเหล่านั้นจะร้องเพลงให้หล่อนฟังและบางครั้งหล่อนก็จะขึ้นไปนั่ง
บนคอช้างป่า
เช้าวันหนึ่งนางกินนาได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกําลังเดินเข้ามาในป่าชายหนุ่มคนนั้นมีรูปร่างงดงาม
ราวกับพระอินทร์ (ลาวชอบเปรียบคนรูปงามว่างามราวกับอินทาในต้นฉบับอธิบายไว้ว่าอินทาเป็นเทพเจ้า
แห่งความงาม) หนุ่มผู้นั้นถือปืนไว้ในมือนางกินนาใฝ่ฝันอยู่นานแล้วที่จะมีสามีสักคนหนึ่งหล่อนจึงรู้สึกปลื้ม
ใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อแลเห็นหนุ่มรูปงามคนนี้
ขณะที่นางกินนากําลังรําพึงฝันหวานอยู่นั้นนางก็ระลึกขึ้นได้ว่านางเป็นยักษ์รูปร่างหน้าตาน่า
เกลียดเมื่อชายหนุ่มเห็นเข้าก็คงจะไม่หลงรักอย่างแน่นอนอย่ากระนั้นเลยปลอมแปลงกายให้งดงาม
เสียก่อนจะดีกว่านางจึงร่ายเวทมนต์กลายร่างจากยักษ์เป็นหญิงสาวรูปงามมีเสน่ห์ยากที่หญิงใดจะ
เทียบเคียงได้เมื่อแปลงกายแล้วนางกินนาก็ออกเดินเข้าไปหาชายหนุ่มแล้วถามว่า
"พี่เข้ามาในป่าจะไปไหนหรือ"
"ฉันมาล่าสัตว์" ชายหนุ่มตอบแล้วถามต่อไปว่า "เธออยู่ที่นี่คนเดียวหรือ"
"จ้ะฉันอยู่คนเดียวอยู่กับนกกับต้นไม้"
เสน่ห์ของนางกินนาทําให้ชายหนุ่มเริ่มจะหลงรักเขาเดินเข้ามายืนอยู่ใกล้ๆ แล้วชวนพูดคุยถึงเรื่อง
ต่างๆ เมื่อเห็นหญิงสาวไม่รังเกียจก็ชวนไปนั่งคุยที่ลานหญ้าใกล้ลําธารชายหนุ่มได้บอกชื่อของเขาให้หล่อน
ทราบว่าเขาชื่อพุทเสนแล้วเล่าเรื่องราวให้หล่อนฟังนางกินนาได้ขอร้องให้ชายหนุ่มพักอยู่กับหล่อนนานๆพุทเสนก็ยอมตกลงด้วยความยินดีพุทเสนอยู่กับนางกินนาด้วยความสุขสําราญจนทําให้เขาลืม
มารดาที่อยู่อย่างยากจนทางบ้าน
วันหนึ่งนางกินนาได้บอกความลับของนางให้พุทเสนฟังด้วยความไว้วางใจ "พี่ฉันลืมบอกพี่ไปว่าใน
หีบใบนี้มีมะนาวที่ไม่รู้จักสุกไม่รู้จักเหี่ยวอยู่หลายผลเป็นมะนาววิเศษที่ตกทอดมาตั้งแต่ครั้งย่าครั้งยายของ
ฉันทีเดียวมะนาวเหล่านี้มีอํานาจวิเศษมากพี่เคยไปเที่ยวสวนของฉันบ้างไหม ""ไม่เคยเลย"ชายหนุ่มตอบ
"อยู่ที่ไหนล่ะ" "อ๋อ" กินนาตอบ "อยู่ห่างจากนี่สักแปดสิบเส้นเห็นจะได้แต่ฉันขอร้องอย่าได้คิดไปเลยมันมี
อันตรายมาก" พุทเสนไม่ตอบแต่เขาก็ยังคงคิดถึงเรื่องสวนแห่งนี้
วันหนึ่งเมื่อนางกินนาไม่อยู่พุทเสนก็ถือโอกาสตอนที่นางกินนาไม่อยู่นั้นไปที่สวนที่นางกินนาห้าม
ในสวนแห่งนั้นพุทเสนได้พบกระดูกมนุษย์ทับถมอยู่ในคูเกือบเต็มพุทเสนนึกเดาเรื่องได้ตลอดนางกินนา
ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอนเขาเกิดความกลัวขึ้นมาจึงวิ่งกลับมาบ้านแล้วเข้าไปในห้องเปิดหีบหยิบ
มะนาววิเศษออกมาเขาไม่รีรอให้เสียเวลารีบวิ่งออกจากป่าไปทันที
หลังจากที่พุทเสนหนีไปได้ไม่นานเท่าไรนักนางได้เข้าไปดูที่เก็บมะนาวไว้พอรู้ว่ามะนาวหายก็นึกรู้
ได้ทันทีว่าพุทเสนรู้ความลับและหนีไปแล้วนางจึงกลับกลายเป็นยักษ์ตามเดิมแล้วไล่ตามพุทเสนไป
ด้วยกําลังยักษ์นางกินนาวิ่งตามเพียงพักเดียวก็แลเห็นหลังพุทเสนไวๆ นางกินนาร้องเรียกให้พุทธ
เสนหยุดพูดกันก่อนแต่พุทเสนไม่ยอมฟังเสียงเมื่อเห็นนางกินนาใกล้เข้ามาพุทเสนก็ล้วงเอามะนาวในย่าม
ออกมาผลหนึ่งแล้วขว้างไปตรงหน้านางกินนาทันใดนั้นก็เกิดเป็นกองไฟกองมหึมาลุกลามกั้นนางกินนาไว้
ได้ยินแต่เสียงนางกินนาร้องเรียกแต่มองไม่เห็นตัวเพราะเปลวไฟลุกโพลง
พุทเสนไม่รอช้าขณะที่ไฟกําลังลุกโชติช่วงอยู่นั้นเขาก็วิ่งหนีต่อไปแต่หนีไปไม่ได้ไกลเท่าไรก็ได้ยิน
เสียงนางกินนาร้องเรียกใกล้เข้ามานางกินนาได้ใช้เวทมนต์ดับไฟสามารถไล่ตามเขามาได้อีกพุทเสนเห็น
จวนตัวจึงหยิบมะนาวอีกผลหนึ่งออกมาจากย่ามแล้วขว้างไปคราวนี้เป็นทะเลสาบกว้างใหญ่มองแทบไม่เห็น
ฝั่ง
นางกินนาถึงจะเหนื่อยอ่อนแต่ก็ยังไม่ละความพยายามกระโจนลงน้ําว่ายข้ามทะเลสาบมาอย่างกล้า
หาญเมื่อนางกินนามาถึงฝั่งตรงข้ามนางก็เหนื่อยอ่อนเต็มทีนอนหลับอยู่ริมตลิ่งนั่นเองนางไม่สามารถจะขยับเขยื้อนกายต่อไปได้อีกนางได้อ้อนวอนต่อสวรรค์ขอให้ลงโทษต่อสามีที่ไม่ซื่อสัตย์ของนางเมื่อนางอ้อน
วอนสิ้นสุดลงดวงตาของนางก็ปิดสนิทนางกินนาขาดใจตายเสียแล้ว
เมื่อพุทเสนแลเห็นนางกินนานอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนกายเช่นนั้นก็นึกว่านางคงจะเหนื่อยอ่อนกําลังไม่
ๆ สามารถจะทําอะไรเขาได้แล้วนึกไปพุทเสนก็เกิดสงสารนางกินนาขึ้นมาเพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
นางกินนาได้เอาอกเอาใจเป็นอย่างดีนางกินนารักพุทเสนด้วยใจจริงเมื่อคิดถึงความหลังขึ้นมาอีกพุทเสนก็
ใจอ่อนเดินกลับไปหานางกินนาที่นอนอยู่และพอรู้ว่านางกินนาขาดใจตายไปแล้วพุทเสนก็ทรุดตัวลงข้างๆ
ร่างของนางกินนาพยายามพยาบาลจะให้นางฟื้นขึ้นมาอีกแต่ไม่สําเร็จพุทเสนเสียใจมากเขาล้มฟุบลงบน
ร่างของนางกินนาและขาดใจตายตามไปอีกคนหนึ่ง
ร่างของนางกินนาและพุทเสนคงอยู่ริมแม่น้ําแห่งนั้นและเมื่อหลายร้อนปีผ่านไปร่างของทั้งสองก็
กลายเป็นภูเขาสองลูกซึ่งเรียกกันว่าภูท้าวและภูนางยังคงมีอยู่ใกล้ๆ กับหลวงพระบางในเวลานี้
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
นิทานอาเซียน ประเทศลาว
เรื่องภูท้าวภูนาง
กาลครั้งหนึ่ง มีนางยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่ากินนา อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ใกล้ภูเขา นางกินนายังเป็น
สาวไม่มีผัว อยู่ตัวเดียวเดี่ยวโดด ทุก ๆ เช้านางกินนาจะเดินไปตามป่า จะกลับมาบ้านต่อเมื่อถึงเวลาอาหาร
นางจะเฝ้าดูน้ําที่ไหลไปตามซอกหินและต้นหญ้า บ่อยครั้งที่นางจะนั่งอยู่ใต้ต้นไทรที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไป
กว้าง ทําให้ร่มเย็นแสนสบาย
การที่นางกินนาใช้ชีวิตส่วนมากอยู่ในป่าเช่นนั้น ทําให้นางคุ้นเคยกับสัตว์ป่านานาชนิด บางครั้งจะ
เห็นนางนั่งเล่นอยู่กับนกจํานวนมาก นกเหล่านั้นจะร้องเพลงให้หล่อนฟัง และบางครั้งหล่อนก็จะขึ้นไปนั่ง
บนคอช้างป่า
เช้าวันหนึ่ง นางกินนาได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกําลังเดินเข้ามาในป่า ชายหนุ่มคนนั้นมีรูปร่างงดงาม
ราวกับพระอินทร์ (ลาวชอบเปรียบคนรูปงามว่างามราวกับอินทา ในต้นฉบับอธิบายไว้ว่า อินทาเป็นเทพเจ้า
แห่งความงาม) หนุ่มผู้นั้นถือปืนไว้ในมือ นางกินนาใฝ่ฝันอยู่นานแล้วที่จะมีสามีสักคนหนึ่ง หล่อนจึงรู้สึกปลื้ม
ใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อแลเห็นหนุ่มรูปงามคนนี้
ขณะที่นางกินนากําลังรําพึงฝันหวานอยู่นั้น นางก็ระลึกขึ้นได้ว่านางเป็นยักษ์รูปร่างหน้าตาน่า
เกลียด เมื่อชายหนุ่มเห็นเข้าก็คงจะไม่หลงรักอย่างแน่นอน อย่ากระนั้นเลยปลอมแปลงกายให้งดงาม
เสียก่อนจะดีกว่า นางจึงร่ายเวทมนต์กลายร่างจากยักษ์เป็นหญิงสาวรูปงาม มีเสน่ห์ยากที่หญิงใดจะ
เทียบเคียงได้ เมื่อแปลงกายแล้ว นางกินนาก็ออกเดินเข้าไปหาชายหนุ่มแล้วถามว่า
"พี่เข้ามาในป่าจะไปไหนหรือ"
"ฉันมาล่าสัตว์" ชายหนุ่มตอบ แล้วถามต่อไปว่า "เธออยู่ที่นี่คนเดียวหรือ"
"จ้ะ ฉันอยู่คนเดียว อยู่กับนกกับต้นไม้"
เสน่ห์ของนางกินนาทําให้ชายหนุ่มเริ่มจะหลงรัก เขาเดินเข้ามายืนอยู่ใกล้ ๆ แล้วชวนพูดคุยถึงเรื่อง
ต่าง ๆ เมื่อเห็นหญิงสาวไม่รังเกียจ ก็ชวนไปนั่งคุยที่ลานหญ้าใกล้ลําธารชายหนุ่มได้บอกชื่อของเขาให้หล่อน
ทราบว่า เขาชื่อพุทเสนแล้วเล่าเรื่องราวให้หล่อนฟัง นางกินนาได้ขอร้องให้ชายหนุ่มพักอยู่กับหล่อนนาน ๆพุทเสนก็ยอมตกลงด้วยความยินดี พุทเสนอยู่กับนางกินนาด้วยความสุขสําราญ จนทําให้เขาลืม
มารดาที่อยู่อย่างยากจนทางบ้าน
วันหนึ่งนางกินนาได้บอกความลับของนางให้พุทเสนฟังด้วยความไว้วางใจ "พี่ ฉันลืมบอกพี่ไปว่าใน
หีบใบนี้มีมะนาวที่ไม่รู้จักสุกไม่รู้จักเหี่ยวอยู่หลายผล เป็นมะนาววิเศษที่ตกทอดมาตั้งแต่ครั้งย่าครั้งยายของ
ฉันทีเดียว มะนาวเหล่านี้มีอํานาจวิเศษมาก พี่เคยไปเที่ยวสวนของฉันบ้างไหม" "ไม่เคยเลย" ชายหนุ่มตอบ
"อยู่ที่ไหนล่ะ" "อ๋อ" กินนาตอบ "อยู่ห่างจากนี่สักแปดสิบเส้นเห็นจะได้ แต่ฉันขอร้องอย่าได้คิดไปเลย มันมี
อันตรายมาก" พุทเสนไม่ตอบ แต่เขาก็ยังคงคิดถึงเรื่องสวนแห่งนี้
วันหนึ่งเมื่อนางกินนาไม่อยู่ พุทเสนก็ถือโอกาสตอนที่นางกินนาไม่อยู่นั้นไปที่สวนที่นางกินนาห้าม
ในสวนแห่งนั้นพุทเสนได้พบกระดูกมนุษย์ทับถมอยู่ในคูเกือบเต็ม พุทเสนนึกเดาเรื่องได้ตลอด นางกินนา
ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอน เขาเกิดความกลัวขึ้นมาจึงวิ่งกลับมาบ้านแล้วเข้าไปในห้องเปิดหีบหยิบ
มะนาววิเศษออกมา เขาไม่รีรอให้เสียเวลารีบวิ่งออกจากป่าไปทันที
หลังจากที่พุทเสนหนีไปได้ไม่นานเท่าไรนัก นางได้เข้าไปดูที่เก็บมะนาวไว้ พอรู้ว่ามะนาวหายก็นึกรู้
ได้ทันทีว่าพุทเสนรู้ความลับและหนีไปแล้ว นางจึงกลับกลายเป็นยักษ์ตามเดิมแล้วไล่ตามพุทเสนไป
ด้วยกําลังยักษ์ นางกินนาวิ่งตามเพียงพักเดียวก็แลเห็นหลังพุทเสนไว ๆ นางกินนาร้องเรียกให้พุทธ
เสนหยุดพูดกันก่อน แต่พุทเสนไม่ยอมฟังเสียง เมื่อเห็นนางกินนาใกล้เข้ามา พุทเสนก็ล้วงเอามะนาวในย่าม
ออกมาผลหนึ่งแล้วขว้างไปตรงหน้านางกินนา ทันใดนั้นก็เกิดเป็นกองไฟกองมหึมาลุกลามกั้นนางกินนาไว้
ได้ยินแต่เสียงนางกินนาร้องเรียกแต่มองไม่เห็นตัว เพราะเปลวไฟลุกโพลง
พุทเสนไม่รอช้าขณะที่ไฟกําลังลุกโชติช่วงอยู่นั้น เขาก็วิ่งหนีต่อไป แต่หนีไปไม่ได้ไกลเท่าไร ก็ได้ยิน
เสียงนางกินนาร้องเรียกใกล้เข้ามา นางกินนาได้ใช้เวทมนต์ดับไฟสามารถไล่ตามเขามาได้อีก พุทเสนเห็น
จวนตัวจึงหยิบมะนาวอีกผลหนึ่งออกมาจากย่ามแล้วขว้างไป คราวนี้เป็นทะเลสาบกว้างใหญ่มองแทบไม่เห็น
ฝั่ง
นางกินนาถึงจะเหนื่อยอ่อนแต่ก็ยัง ไม่ละความพยายามกระโจนลงน้ําว่ายข้ามทะเลสาบมาอย่างกล้า
หาญ เมื่อนางกินนามาถึงฝั่งตรงข้าม นางก็เหนื่อยอ่อนเต็มที นอนหลับอยู่ริมตลิ่งนั่นเอง นางไม่สามารถจะขยับเขยื้อนกายต่อไปได้อีก นางได้อ้อนวอนต่อสวรรค์ ขอให้ลงโทษต่อสามีที่ไม่ซื่อสัตย์ของนาง เมื่อนางอ้อน
วอนสิ้นสุดลงดวงตาของนางก็ปิดสนิทนางกินนาขาดใจตายเสียแล้ว
เมื่อพุทเสนแลเห็นนางกินนานอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนกายเช่นนั้นก็นึกว่านางคงจะเหนื่อย อ่อนกําลังไม่
สามารถจะทําอะไรเขาได้แล้ว นึก ๆ ไปพุทเสนก็เกิดสงสารนางกินนาขึ้นมา เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
นางกินนาได้เอาอกเอาใจเป็นอย่างดี นางกินนารักพุทเสนด้วยใจจริง เมื่อคิดถึงความหลังขึ้นมาอีก พุทเสนก็
ใจอ่อนเดินกลับไปหานางกินนาที่นอนอยู่ และพอรู้ว่านางกินนาขาดใจตายไปแล้ว พุทเสนก็ทรุดตัวลงข้าง ๆ
ร่างของนางกินนา พยายามพยาบาลจะให้นางฟื้นขึ้นมาอีก แต่ไม่สําเร็จพุทเสนเสียใจมาก เขาล้มฟุบลงบน
ร่างของนางกินนา และขาดใจตายตามไปอีกคนหนึ่ง
ร่างของนางกินนาและพุทเสน คงอยู่ริมแม่น้ําแห่งนั้น และเมื่อหลายร้อนปีผ่านไป ร่างของทั้งสองก็
กลายเป็นภูเขาสองลูก ซึ่งเรียกกันว่า ภูท้าว และ ภูนาง ยังคงมีอยู่ใกล้ ๆ กับหลวงพระบางในเวลานี้
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
นิทานอาเซียนประเทศลาว
เรื่องภูท้าวภูนางมีนางยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่ากินนาอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ใกล้ภูเขานางกินนายังเป็น

กาลครั้งหนึ่งสาวไม่มีผัวอยู่ตัวเดียวเดี่ยวโดดทุกจะเช้านางกินนาจะเดินไปตามป่าจะกลับมาบ้านต่อเมื่อถึงเวลาอาหารบ่อยครั้งที่นางจะนั่งอยู่ใต้ต้นไทรที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไป

นางจะเฝ้าดูน้ําที่ไหลไปตามซอกหินและต้นหญ้ากว้างทําให้ร่มเย็นแสนสบายทําให้นางคุ้นเคยกับสัตว์ป่านานาชนิดบางครั้งจะ

การที่นางกินนาใช้ชีวิตส่วนมากอยู่ในป่าเช่นนั้นเห็นนางนั่งเล่นอยู่กับนกจํานวนมากนกเหล่านั้นจะร้องเพลงให้หล่อนฟังและบางครั้งหล่อนก็จะขึ้นไปนั่ง

บนคอช้างป่าเช้าวันหนึ่งนางกินนาได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกําลังเดินเข้ามาในป่าชายหนุ่มคนนั้นมีรูปร่างงดงาม ( ลาวชอบเปรียบคนรูปงามว่างามราวกับอินทาในต้นฉบับอธิบายไว้ว่าอินทาเป็นเทพเจ้า

ราวกับพระอินทร์แห่งความงาม ) หนุ่มผู้นั้นถือปืนไว้ในมือนางกินนาใฝ่ฝันอยู่นานแล้วที่จะมีสามีสักคนหนึ่งหล่อนจึงรู้สึกปลื้ม

ใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อแลเห็นหนุ่มรูปงามคนนี้ขณะที่นางกินนากําลังรําพึงฝันหวานอยู่นั้นนางก็ระลึกขึ้นได้ว่านางเป็นยักษ์รูปร่างหน้าตาน่าเมื่อชายหนุ่มเห็นเข้าก็คงจะไม่หลงรักอย่างแน่นอนอย่ากระนั้นเลยปลอมแปลงกายให้งดงาม

เกลียดเสียก่อนจะดีกว่านางจึงร่ายเวทมนต์กลายร่างจากยักษ์เป็นหญิงสาวรูปงามมีเสน่ห์ยากที่หญิงใดจะ
เทียบเคียงได้เมื่อแปลงกายแล้วนางกินนาก็ออกเดินเข้าไปหาชายหนุ่มแล้วถามว่า

" พี่เข้ามาในป่าจะไปไหนหรือ "" ฉันมาล่าสัตว์ " ชายหนุ่มตอบแล้วถามต่อไปว่า " เธออยู่ที่นี่คนเดียวหรือ "
" จ้ะฉันอยู่คนเดียวอยู่กับนกกับต้นไม้ "

เสน่ห์ของนางกินนาทําให้ชายหนุ่มเริ่มจะหลงรักเขาเดินเข้ามายืนอยู่ใกล้จะแล้วชวนพูดคุยถึงเรื่องต่างจะเมื่อเห็นหญิงสาวไม่รังเกียจก็ชวนไปนั่งคุยที่ลานหญ้าใกล้ลําธารชายหนุ่มได้บอกชื่อของเขาให้หล่อน
ทราบว่าเขาชื่อพุทเสนแล้วเล่าเรื่องราวให้หล่อนฟังนางกินนาได้ขอร้องให้ชายหนุ่มพักอยู่กับหล่อนนานๆพุทเสนก็ยอมตกลงด้วยความยินดีพุทเสนอยู่กับนางกินนาด้วยความสุขสําราญจนทําให้เขาลืม
มารดาที่อยู่อย่างยากจนทางบ้าน

" พี่วันหนึ่งนางกินนาได้บอกความลับของนางให้พุทเสนฟังด้วยความไว้วางใจฉันลืมบอกพี่ไปว่าในหีบใบนี้มีมะนาวที่ไม่รู้จักสุกไม่รู้จักเหี่ยวอยู่หลายผลเป็นมะนาววิเศษที่ตกทอดมาตั้งแต่ครั้งย่าครั้งยายของ
ฉันทีเดียวมะนาวเหล่านี้มีอํานาจวิเศษมากพี่เคยไปเที่ยวสวนของฉันบ้างไหม " ไม่เคยเลย " ชายหนุ่มตอบ
" อยู่ที่ไหนล่ะ " อ๋อ " กินนาตอบ " อยู่ห่างจากนี่สักแปดสิบเส้นเห็นจะได้แต่ฉันขอร้องอย่าได้คิดไปเลยมันมีอันตรายมากพุทเสนไม่ตอบแต่เขาก็ยังคงคิดถึงเรื่องสวนแห่งนี้

"วันหนึ่งเมื่อนางกินนาไม่อยู่พุทเสนก็ถือโอกาสตอนที่นางกินนาไม่อยู่นั้นไปที่สวนที่นางกินนาห้ามพุทเสนนึกเดาเรื่องได้ตลอดนางกินนา

ในสวนแห่งนั้นพุทเสนได้พบกระดูกมนุษย์ทับถมอยู่ในคูเกือบเต็มไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอนเขาเกิดความกลัวขึ้นมาจึงวิ่งกลับมาบ้านแล้วเข้าไปในห้องเปิดหีบหยิบเขาไม่รีรอให้เสียเวลารีบวิ่งออกจากป่าไปทันที

มะนาววิเศษออกมาหลังจากที่พุทเสนหนีไปได้ไม่นานเท่าไรนักนางได้เข้าไปดูที่เก็บมะนาวไว้พอรู้ว่ามะนาวหายก็นึกรู้นางจึงกลับกลายเป็นยักษ์ตามเดิมแล้วไล่ตามพุทเสนไป

ได้ทันทีว่าพุทเสนรู้ความลับและหนีไปแล้วด้วยกําลังยักษ์นางกินนาวิ่งตามเพียงพักเดียวก็แลเห็นหลังพุทเสนไวจะนางกินนาร้องเรียกให้พุทธแต่พุทเสนไม่ยอมฟังเสียงเมื่อเห็นนางกินนาใกล้เข้ามาพุทเสนก็ล้วงเอามะนาวในย่าม

เสนหยุดพูดกันก่อนออกมาผลหนึ่งแล้วขว้างไปตรงหน้านางกินนาทันใดนั้นก็เกิดเป็นกองไฟกองมหึมาลุกลามกั้นนางกินนาไว้เพราะเปลวไฟลุกโพลง

ได้ยินแต่เสียงนางกินนาร้องเรียกแต่มองไม่เห็นตัวพุทเสนไม่รอช้าขณะที่ไฟกําลังลุกโชติช่วงอยู่นั้นเขาก็วิ่งหนีต่อไปแต่หนีไปไม่ได้ไกลเท่าไรก็ได้ยินนางกินนาได้ใช้เวทมนต์ดับไฟสามารถไล่ตามเขามาได้อีกพุทเสนเห็น

เสียงนางกินนาร้องเรียกใกล้เข้ามาจวนตัวจึงหยิบมะนาวอีกผลหนึ่งออกมาจากย่ามแล้วขว้างไปคราวนี้เป็นทะเลสาบกว้างใหญ่มองแทบไม่เห็น


ฝั่งนางกินนาถึงจะเหนื่อยอ่อนแต่ก็ยังไม่ละความพยายามกระโจนลงน้ําว่ายข้ามทะเลสาบมาอย่างกล้าหาญเมื่อนางกินนามาถึงฝั่งตรงข้ามนางก็เหนื่อยอ่อนเต็มทีนอนหลับอยู่ริมตลิ่งนั่นเองนางไม่สามารถจะขยับเขยื้อนกายต่อไปได้อีกนางได้อ้อนวอนต่อสวรรค์ขอให้ลงโทษต่อสามีที่ไม่ซื่อสัตย์ของนางเมื่อนางอ้อน
วอนสิ้นสุดลงดวงตาของนางก็ปิดสนิทนางกินนาขาดใจตายเสียแล้วอ่อนกําลังไม่

เมื่อพุทเสนแลเห็นนางกินนานอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนกายเช่นนั้นก็นึกว่านางคงจะเหนื่อยสามารถจะทําอะไรเขาได้แล้วนึกจะไปพุทเสนก็เกิดสงสารนางกินนาขึ้นมาเพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันนางกินนารักพุทเสนด้วยใจจริงเมื่อคิดถึงความหลังขึ้นมาอีกพุทเสนก็

นางกินนาได้เอาอกเอาใจเป็นอย่างดีใจอ่อนเดินกลับไปหานางกินนาที่นอนอยู่และพอรู้ว่านางกินนาขาดใจตายไปแล้วพุทเสนก็ทรุดตัวลงข้างจะพยายามพยาบาลจะให้นางฟื้นขึ้นมาอีกแต่ไม่สําเร็จพุทเสนเสียใจมากเขาล้มฟุบลงบน

ร่างของนางกินนาร่างของนางกินนาและขาดใจตายตามไปอีกคนหนึ่งคงอยู่ริมแม่น้ําแห่งนั้นและเมื่อหลายร้อนปีผ่านไปร่างของทั้งสองก็

ร่างของนางกินนาและพุทเสนกลายเป็นภูเขาสองลูกซึ่งเรียกกันว่าภูท้าวและภูนางยังคงมีอยู่ใกล้จะกับหลวงพระบางในเวลานี้
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: