What we see and interact with is in

What we see and interact with is in color and this includes both natural and built environments. About 80% of the information which we assimilate through the sense, is visual. However, color does more than just give us objective information about our world-it affects how we feel. The presence of color become more important in interior environment, since most people spend more time inside than outside.

Is there a gender difference in response to color? Although findings are ambiguous, many investigations have indicated that there are differences between gender in preferences for colors. Early investigations done by by Guilford (1934) on the harmony of color combinations found that a person is likely to see balance in colors that are closely related or the opposite. Guilford also found some evidence that more pleasing results were obtained from either very small or very large differences in hue rather than medium differences, with this tendency more frequent in women than men.

A review of color studies done by Eysenck in early 1940's notes the following results to the relationship between gender and color. Dorcus (1926) found yellow had a higher affective value for the men than women and St. George (1938) maintained that blue for men stands out far more than for women. An even earlier study by Jastrow (1897) found men preferred blue to red and women red to blue. Eysenck's study, however, found only one gender difference with yellow being preferred to orange by women and orange to yellow by men. This finding was reiforced later by Birren (1952) who found men preferred orange to yellow; while women placed orange at the bottom of the list.

Guilford and Smith (1959) found men were generally more tolerant toward achromatic colors than women. Thus, Guilford and Smith proposed that women might be more color-concious and their color tastes more flexible and diverse. Likewise, McInnis and Shearer (1964) found that blue green was more favored among women than men, and women preferred tints more than shades. They also found 56% of men and 76% of women preferred cool colors, and 51% men and 45% women chose bright colors. In a similar study, Plater (1967) found men had a tendency to prefer stronger chromas than women.

Rikard Kuller (1976) conducted a study on the effects of color in two opposite environments. Six men and six women were asked to stay in two rooms, one room was colorful and complex; while the other was gray and sterile. Electroencephalogram (EEG) and pulse rates were recorded throughout the period, as well as the individuals' subjective emotional feelings. The results showed heart rates were faster in the gray room than in the colorful room. Moreover, men were found to have stress reactions more than women. Men also became more bored than did the women in the gray room. Kuller also postulated that men could not achieve the same degree of mental relaxation as women.

Thomas, Curtis, and Bolton (1978) interviewed 72 Nepalese and asked them to list the names all the colors they could think of. There was a significant difference between men and women. Although, the women consistently listed more color names than men did, the cultural context of this study must be noted since Nepalese women traditionally wear more colorful clothing than men do. A similar study by Greene (1995) examined the color identification and vocabulary skills of college students. They were asked to identify the colors of 21 color chips. The results showed that women recognized significantly more elaborate colors than did the men. Findings also indicated that gender different responses in color identification may be attributed to a difference in the socialization of men and women.

Another study examined the appropriateness of colors used on the walls of a simulated domestic interior furnished in one of three styles; Georgian, Art Nouveau and Modern. Whitfield (1984) reported that internal consistency among women is higher than for men. When the study was broadened to include marital status, married women achieve significantly more internal consistency in each condition of the three styles than did the men.

More recently, Radeloff (1990) has found that women were more likely than men to have a favorite color. In expressing the preferences for light versus dark colors, there was no significant differences between men and women; however, in expressing the preference for bright and soft colors, there was a difference, with women preferring soft colors and men preferring bright ones.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สิ่งที่เราดู และโต้ตอบกับสี และรวมถึงสภาพแวดล้อมทั้งธรรมชาติ และสร้างขึ้น ประมาณ 80% ของข้อมูลที่เราสะท้อนผ่านความรู้สึก เป็นภาพ อย่างไรก็ตาม สีมากกว่าเพียงแค่ให้ข้อมูลวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการมีผลต่อโลกไอทีของเราว่าเรารู้สึก ของสีเป็นสิ่งที่สำคัญในสภาพแวดล้อมภายใน เนื่องจากคนส่วนใหญ่ใช้เวลาเพิ่มเติมภายในมากกว่าภายนอกมีความแตกต่างเพศสีเพื่อตอบสนอง แม้ว่าผลการวิจัยไม่ชัดเจน สืบสวนหลายได้ระบุว่า มีความแตกต่างระหว่างเพศในลักษณะสำหรับสี ตรวจสอบก่อนโดยโดย Guilford (1934) ในความกลมกลืนของสีชุดพบว่า บุคคลมีแนวโน้มเพื่อดูยอดดุลในสีที่มีความสัมพันธ์หรือตรงข้าม Guilford พบหลักฐานบางอย่างที่ได้รับผลพอใจมากจากความแตกต่างที่ขนาดเล็กมาก หรือใหญ่มากวมากกว่าความแตกต่างปานกลาง มีแนวโน้มนี้บ่อยกว่าในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายทบทวนศึกษาสีโดย Eysenck ใน 1940's ต้นเหตุผลความสัมพันธ์ระหว่างเพศและสี Dorcus (1926) พบสีเหลืองมีผลค่าสำหรับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงและเซนต์จอร์จ (1938) รักษาที่สีฟ้าสำหรับผู้ชายยืนออกมากกว่าในผู้หญิง การศึกษาก่อนหน้านี้แม้ โดยแจสตรอล (1897) พบผู้ชายต้องสีฟ้าผู้หญิงสีแดงเป็นสีน้ำเงินและสีแดง การศึกษาของ Eysenck ไร พบต่างเพศเดียวกับเหลืองส้มถูกต้องตามสีส้มกับเหลืองโดยผู้ชายและผู้หญิง ค้นหานี้ถูก reiforced ในภายหลัง โดย Birren (1952) ที่พบผู้ชายต้องสีส้มเหลือง ในขณะที่ผู้หญิงทำสีส้มที่ด้านล่างของรายการGuilford และสมิธ (1959) พบผู้ชายโดยทั่วไปมากขึ้นทนกับไปทางสี achromatic มากกว่าผู้หญิงได้ ดังนั้น Guilford และสมิธเสนอว่า ผู้หญิงอาจเติมสี-concious และสีของรสชาติหลากหลาย และยืดหยุ่นมากขึ้น ในทำนองเดียวกัน McInnis และเชียเรอร์ (1964) พบว่า สีฟ้าสีเขียวชื่นชอบมากในหมู่ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และผู้หญิงต้อง tints สี พวกเขายังพบ 56% ของผู้ชายและ 76% ของผู้หญิงที่ต้องการสีเย็น และ 51% และ 45% เลือกสีสดใส ในการศึกษาคล้ายกัน Plater (1967) พบผู้ชายมีแนวโน้มที่จะต้อง chromas แข็งแกร่งมากกว่าผู้หญิงRikard Kuller (1976) ดำเนินการศึกษาผลของสีในสภาพแวดล้อมตรงข้ามสอง 6 คนและหญิง 6 ถูกต้องอยู่ในห้อง ห้องมีสีสันสวยงาม และ ซับซ้อน ในขณะที่อีกคนใส่ และสีเทา Electroencephalogram (EEG) และอัตราชีพจรถูกบันทึกตลอดระยะเวลา ตลอดจนความรู้สึกทางอารมณ์ตามอัตวิสัยของแต่ละบุคคล ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า ราคาห้องพักได้เร็วในห้องสีเทากว่าในห้องมีสีสัน นอกจากนี้ คนพบว่ามีปฏิกิริยาความเครียดมากกว่าผู้หญิง ผู้ชายยังเป็นเบื่อมากขึ้นกว่าไม่ได้ผู้หญิงในห้องสีเทา Kuller postulated ที่ มนุษย์สามารถบรรลุระดับเดียวกันพักผ่อนจิตใจเป็นหญิงThomas เคอร์ทิส โบลตัน (1978) สัมภาษณ์นั่งเอนหลัง 72 และขอให้รายชื่อสีพวกเขาสามารถคิด มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างชายและหญิง แม้ว่า ผู้หญิงอย่างสม่ำเสมอแสดงชื่อสีมากขึ้นกว่าคนไม่ได้ ต้องสังเกตบริบทวัฒนธรรมของการศึกษานี้เนื่องจากผู้หญิงเนปาลดั้งเดิมสวมเสื้อผ้าที่มีสีสันมากขึ้นมากกว่าผู้ชาย การศึกษาที่คล้ายกัน โดย Greene (1995) ตรวจสอบรหัสสีและคำศัพท์ทักษะของนักเรียน พวกเขาถูกขอให้ระบุสี 21 สีชิ ผลพบว่า ผู้หญิงรับรู้สีอย่างประณีตมากขึ้นกว่าคนไม่ได้ ผลการวิจัยระบุว่า เพศการตอบสนองแตกต่างกันในรหัสสีอาจเกิดจากความแตกต่างในสังคมของผู้ชายและผู้หญิงศึกษาอื่นตรวจสอบความหมายของสีที่ใช้บนผนังภายในประเทศจำลองตกแต่งในลักษณะที่สาม จอร์เจีย ศิลปะสมัยใหม่ และทันสมัย Whitfield (1984) ได้รายงานว่า สอดคล้องกันภายในผู้หญิงสูงกว่าผู้ชาย เมื่อการศึกษาถูกขยายเพื่อรวมสถานภาพ สตรีที่สมรสแล้วบรรลุมากภายในความสอดคล้องในแต่ละเงื่อนไขของลักษณะสามกว่าได้คนเมื่อเร็ว ๆ นี้ Radeloff (1990) พบว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มมากกว่าผู้ชายจะมีสีที่ชอบ ในการแสดงลักษณะเบาเมื่อเทียบกับสีดำ มีไม่แตกต่างกันระหว่างชายและหญิง อย่างไรก็ตาม ในการแสดงการกำหนดลักษณะสำหรับสีที่สดใส และอ่อนนุ่ม มีความแตกต่าง มีผู้หญิงร่วมสีอ่อน และคนพลุกพล่านคนสดใส

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งที่เราเห็นและโต้ตอบกับอยู่ในสีและรวมถึงทั้งธรรมชาติและสร้างสภาพแวดล้อมที่ ประมาณ 80% ของข้อมูลที่เราดูดซึมผ่านความรู้สึกที่เป็นภาพ แต่สีไม่มากกว่าการให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของเราทั่วโลกจะมีผลต่อวิธีการที่เรารู้สึก การปรากฏตัวของสีเป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้นในสภาพแวดล้อมภายในเนื่องจากคนส่วนใหญ่ใช้เวลามากขึ้นภายในกว่านอก. มีความแตกต่างทางเพศในการตอบสนองต่อสี? แม้ว่าผลการวิจัยมีความคลุมเครือการสืบสวนหลายคนได้แสดงให้เห็นว่ามีความแตกต่างระหว่างเพศในการตั้งค่าสำหรับสี การตรวจสอบในช่วงต้นทำโดยโดย Guilford (1934) เกี่ยวกับความสามัคคีของการผสมสีที่พบว่าคนที่มีโอกาสที่จะเห็นความสมดุลของสีที่มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดหรือตรงข้าม Guilford นอกจากนี้ยังพบหลักฐานบางอย่างที่ผลการชื่นชอบมากขึ้นที่ได้รับจากทั้งความแตกต่างของขนาดเล็กมากหรือมีขนาดใหญ่มากในสีมากกว่าความแตกต่างขนาดกลางที่มีแนวโน้มมากขึ้นบ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย. ทบทวนการศึกษาสีทำโดย Eysenck ในหมายเหตุประกอบในช่วงต้น 1940 ดังต่อไปนี้ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพศและสี Dorcus (1926) พบว่าสีเหลืองมีค่าอารมณ์ที่สูงขึ้นสำหรับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงและเซนต์จอร์จ (1938) ยืนยันว่าสีฟ้าสำหรับผู้ชายที่ยืนออกไปไกลกว่าสำหรับผู้หญิง การศึกษาก่อนหน้านี้ได้โดย Jastrow (1897) พบว่าผู้ชายที่ต้องการสีน้ำเงินเป็นสีแดงและผู้หญิงสีแดงสีน้ำเงิน การศึกษา Eysenck อย่างไรพบว่ามีเพียงหนึ่งความแตกต่างทางเพศที่มีความเป็นสีเหลืองที่ต้องการให้สีส้มโดยผู้หญิงและสีส้มเป็นสีเหลืองโดยผู้ชาย การค้นพบนี้ได้รับการ reiforced ในภายหลังโดย Birren (1952) ที่พบว่าผู้ชายที่ต้องการสีส้มเป็นสีเหลือง; ในขณะที่ผู้หญิงวางส้มที่ด้านล่างของรายการ. Guilford และสมิ ธ (1959) พบว่าผู้ชายมักใจกว้างขึ้นต่อสีไม่มีสีมากกว่าผู้หญิง ดังนั้น Guilford สมิ ธ และเสนอว่าผู้หญิงอาจจะมีสีสติมากขึ้นและสีของพวกเขารสชาติความยืดหยุ่นมากขึ้นและมีความหลากหลาย ในทำนองเดียวกัน McInnis และเชียเรอร์ (1964) พบว่าสีเขียวสีฟ้าได้รับการสนับสนุนมากขึ้นในหมู่ผู้หญิงมากกว่าผู้ชายและผู้หญิงที่ต้องการอ่อนกว่าสี นอกจากนี้ยังพบ 56% ของผู้ชายและ 76% ของผู้หญิงที่ต้องการสีเย็นและผู้ชาย 51% และ 45% ผู้หญิงเลือกสีสดใส ในการศึกษาที่คล้ายกัน Plater (1967) พบว่าผู้ชายมีแนวโน้มที่จะชอบ Chromas แข็งแรงกว่าผู้หญิง. Rikard Küller (1976) ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของสีในสองสภาพแวดล้อมตรงข้าม หกผู้ชายและผู้หญิงหกถูกถามจะอยู่ในสองห้องห้องหนึ่งเป็นสีสันและซับซ้อน ในขณะที่คนอื่น ๆ เป็นสีเทาและผ่านการฆ่าเชื้อ อิเล็คโทร (EEG) และอัตราการเต้นของชีพจรที่ถูกบันทึกไว้ตลอดระยะเวลาเช่นเดียวกับบุคคล 'ความรู้สึกทางอารมณ์อัตนัย ผลการศึกษาพบอัตราการเต้นของหัวใจได้เร็วในห้องสีเทากว่าในห้องที่มีสีสัน นอกจากนี้คนที่พบว่ามีปฏิกิริยาความเครียดมากกว่าผู้หญิง ผู้ชายก็กลายเป็นเบื่อมากขึ้นกว่าผู้หญิงในห้องสีเทา Küllerยังตั้งสมมติฐานว่ามนุษย์ไม่สามารถประสบความสำเร็จในระดับเดียวกับการผ่อนคลายทางจิตเป็นผู้หญิง. โทมัสเคอร์ติโบลตันและ (1978) ให้สัมภาษณ์ 72 เนปาลและขอให้พวกเขารายชื่อสีทั้งหมดที่พวกเขาอาจคิดว่า มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างผู้ชายและผู้หญิงเป็น แม้ว่าผู้หญิงอย่างต่อเนื่องจดทะเบียนเพิ่มเติมชื่อสีกว่าผู้ชายได้บริบททางวัฒนธรรมการศึกษาครั้งนี้จะต้องมีการตั้งข้อสังเกตตั้งแต่ผู้หญิงเนปาลประเพณีสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันมากขึ้นกว่าผู้ชายทำ การศึกษาที่คล้ายกันโดยกรีน (1995) การตรวจสอบบัตรประจำตัวสีและทักษะการเรียนรู้คำศัพท์ของนักศึกษา พวกเขาถูกขอให้ระบุสีของชิป 21 สี ผลการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสีที่ซับซ้อนกว่าผู้ชาย . ผลการวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าการตอบสนองที่แตกต่างกันทางเพศในตัวสีอาจนำมาประกอบกับความแตกต่างในการขัดเกลาทางสังคมของผู้ชายและผู้หญิงอีกการศึกษาการตรวจสอบความเหมาะสมของสีที่ใช้บนผนังของภายในประเทศจำลองการตกแต่งในหนึ่งในสามรูปแบบ; จอร์เจียอาร์ตนูโวและโมเดิร์น วิ ธ ฟิลด์ (1984) รายงานว่าความสอดคล้องภายในกลุ่มผู้หญิงที่สูงกว่าสำหรับผู้ชาย เมื่อการศึกษาได้รับการขยายเพื่อรวมสถานภาพสมรสแต่งงานกับผู้หญิงบรรลุความสอดคล้องภายในอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นในแต่ละสภาพของสามรูปแบบกว่าผู้ชาย. เมื่อเร็ว ๆ นี้ Radeloff (1990) พบว่าผู้หญิงมีแนวโน้มมากกว่าผู้ชายที่จะมีสีที่ชื่นชอบ . ในการแสดงการตั้งค่าสำหรับแสงกับสีเข้มไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างชายและหญิง; แต่ในการแสดงการตั้งค่าสำหรับสีที่สดใสและอ่อนนุ่มมีความแตกต่างกับผู้หญิงเลือกสีอ่อนและคนเลือกคนที่สดใส

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ่งที่เราเห็นและมีปฏิสัมพันธ์กับเป็นสี และมีทั้งธรรมชาติและสร้างสภาพแวดล้อม ประมาณ 80% ของข้อมูลที่เราใช้ผ่านความรู้สึกที่เป็นภาพ แต่สีมันมากกว่าแค่ให้ข้อมูล เกี่ยวกับ โลก ของเรามันมีผลต่อวิธีการที่เรารู้สึก มีสีกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นในสภาพแวดล้อมภายในเนื่องจากคนส่วนใหญ่ใช้เวลาภายในมากกว่าภายนอก

มีเพศในการตอบสนองต่อสี แม้ว่าผลจะไม่สอบสวนหลายคน พบว่า มีความแตกต่างระหว่างเพศในการตั้งค่าสำหรับสีก่อนการตรวจสอบทำโดย Guilford ( 1934 ) ในการผสมสี พบว่า บุคคลที่มีแนวโน้มที่จะเห็นความสมดุลสี ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด หรือตรงข้าม นอกจากนี้ยังพบหลักฐานบางอย่างที่ Guilford ผลลัพธ์ที่น่ารื่นรมย์มากขึ้นได้จากทั้งขนาดเล็กมากหรือขนาดใหญ่มาก ความแตกต่างของสี มากกว่าความแตกต่าง กลาง นี้แนวโน้มมากขึ้นบ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย .

รีวิวสีการศึกษาทำโดย ยเซงก์ในช่วงต้น 1940 ของบันทึกต่อไปนี้ในความสัมพันธ์ระหว่างเพศและสี ดอร์เคิส ( 1926 ) พบสีเหลืองมีพิสัยค่าสูงสำหรับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และ เซนต์ จอร์จ ( 1938 ) ยืนยันว่าสีฟ้าสำหรับผู้ชายเด่นกว่าผู้หญิง แม้ก่อนหน้านี้การศึกษาโดย จาซโทรว์ ( 1897 ) พบว่าผู้ชายชอบผู้หญิง สีฟ้า สีแดงสีฟ้าสีแดงและของไอแซงค์ที่มีการศึกษา แต่พบเพียงหนึ่งเพศ มีสีเหลือง สีส้ม เป็นที่ต้องการโดยผู้หญิงและสีส้มเหลืองด้วยคน ผลการวิจัยพบว่า reiforced ในภายหลัง โดย birren ( 1952 ) ที่พบว่า ผู้ชายต้องการผู้หญิง สีส้ม สีเหลือง ในขณะที่วางส้มที่ด้านล่างของรายการ

Guilford และ Smith ( 1959 ) พบผู้ชายโดยทั่วไปมากขึ้นใจกว้างต่อสีไม่มีสีมากกว่าผู้หญิง ดังนั้นGuilford และสมิธเสนอว่าผู้หญิงอาจจะสติสีและสีของพวกเขารสนิยมมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและมีความหลากหลาย อนึ่ง McInnis เชียเรอร์ ( 1964 ) และพบว่า สีเขียว สีฟ้า เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และผู้หญิงที่ต้องการอ่อนกว่าเฉดสี พวกเขายังพบว่า 56% ของผู้ชายและ 76% ของผู้หญิงที่ต้องการสีเย็นและร้อยละ 51 คนและ 45 % ผู้หญิง เลือกสีที่สดใส ในการศึกษาที่คล้ายคลึงกันผู้พิมพ์ ( 1967 ) พบว่า ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะชอบ Chromas แข็งแกร่งกว่าผู้หญิง

ซึ่งคัลเลอร์ ( 1976 ) ได้ดำเนินการศึกษาผลกระทบของสีที่ 2 ตรงข้ามกับสภาพแวดล้อม 6 ชายและหญิงหกถูกถามอยู่สองห้อง ห้องหนึ่งเป็นสีสัน และซับซ้อน ในขณะที่อีกคนคือ สีเทา และเป็นหมัน คลื่น ( EEG ) และอัตราการเต้นของชีพจรที่ถูกบันทึกไว้ตลอดระยะเวลาเช่นเดียวกับบุคคล ' อัตนัย อารมณ์ ความรู้สึก ผลการศึกษาพบอัตราการเต้นของหัวใจเร็วกว่าในห้องสีเทากว่าในห้องที่มีสีสัน นอกจากนี้ พบว่ามีความเครียดต่อผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ผู้ชายก็ยิ่งเบื่อกว่าพวกผู้หญิงในห้องสีเทา คัลเลอร์ยังซึ่งมนุษย์ไม่สามารถบรรลุระดับเดียวกันของจิตใจ การผ่อนคลายเป็นผู้หญิง

โทมัส เคอร์ติสและ โบลตัน ( 1978 ) สัมภาษณ์ 72 ชาวเนปาล และขอร้องให้พวกเขาเขียนชื่อสีทั้งหมดที่พวกเขาอาจจะคิดว่า มีความแตกต่างกันระหว่างผู้ชายและผู้หญิง แม้ว่าผู้หญิงอย่างต่อเนื่องแสดงชื่อสีมากกว่าผู้ชายทำ บริบททางวัฒนธรรมของการศึกษานี้จะต้องสังเกตเนื่องจากผู้หญิงชาวเนปาลดั้งเดิมสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันมากกว่าผู้ชายการศึกษาที่คล้ายกันโดยกรีน ( 1995 ) ตรวจสอบสีรหัสและทักษะคำศัพท์ของนักเรียนวิทยาลัย พวกเขาถูกถามให้ระบุสี 21 ชิปสี ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่รู้จักสีอย่างซับซ้อนมากขึ้นกว่าผู้ชายผลการวิจัยพบว่าเพศที่แตกต่างกันการตอบสนองในการจำแนกสีอาจจะเกิดจากความแตกต่างในสังคมของผู้ชายและผู้หญิง

การศึกษาอื่นตรวจสอบความเหมาะสมของสีที่ใช้ในผนังของจำลอง ภายในตกแต่งภายในหนึ่งในสามรูปแบบ ; จอร์เจียอาร์ตนูโวและทันสมัยวิตฟิลด์ ( 1984 ) ได้รายงานว่า ความสอดคล้องภายในของผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชาย เมื่อศึกษาพัฒนา ได้แก่ สถานภาพสมรส ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วให้มากขึ้นสอดคล้องภายใน ในแต่ละสภาพของทั้งสามรูปแบบกว่าคน

เมื่อเร็วๆ นี้ radeloff ( 1990 ) พบว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มมากกว่าผู้ชายที่จะมีสีที่ชื่นชอบในการแสดงการตั้งค่าสำหรับแสงและสีเข้ม มีไม่มีความแตกต่างระหว่างชายและหญิง แต่ในการแสดงการตั้งค่าสำหรับสีสดใสและอ่อนนุ่ม มีความแตกต่าง มีผู้หญิงชอบสีอ่อนและคนพอใจ
ที่สดใส