1. หายใจให้ถูกวิธี เพราะสมองใช้ออกซิเจน 20 % ของออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การหายใจเข้าลึกๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงผายหัวไหล่ไปด้านหลัง หายใจเข้าให้ลึกและยาวที่สุด จินตนาการว่าเหมือนลำตัวเรากำลังพองออกมากที่สุด พร้อมกับค่อยๆ หายใจออกช้าๆ ยาวๆ สักประมาณ 3 - 5 รอบ
2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหลับให้สนิท เพราะหากอดหลับอดนอน จะทำให้การทำงานของสมองไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซ้ำร้ายยังอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคความจำเสื่อมและโรคพาร์กินสันอีกด้วย
3. หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ เพราะจะมีสารเอ็นโดรฟินซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้น และขจัดความเครียดซึ่งจะเป็นการลดภาระของสมอง
4. เดินเล่นบ้าง การออกไปเดินเล่นเพียง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยให้ส่วนฮิปโปแคมปัสที่เป็นแหล่งเก็บความทรงจำของสมอง ทำงานอย่างดี
5. ฝึกเต้นรำ การจัดระเบียบร่างกายเพื่อแสดงท่วงท่าและการจดจำจังหวะใหม่ล้วนเป็นกิจกรรมกระตุ้นสมอง นอกจากนี้ยังต้องอาศัยสมาธิและทักษะการแก้ไขปัญหาอีกด้วย
6. ออกกำลังกาย การออกกำลังกาย ไม่ได้มีผลแค่ร่างกายแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สมองหลั่งสารความฉลาด (Fluid intelligence) ที่ช่วยให้เราเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้ดีขึ้น สร้างกลีบสมองด้านหน้าที่ช่วยในการวางแผน และช่วยให้การตัดสินใจได้เร็วขึ้น แค่สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาทีก็เพียงพอ
7. ออกกำลังกายสมอง ใช้ท่า "ขยิบตาซ้ายขยับมือขวา และขยิบตาขวาขยับมือซ้าย" ช่วยให้สมองแข็งแรง ทำงานอย่างสมดุล สมอง 2 ซีกเชื่อมโยงข้อมูลกันได้ดี และเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้อีกด้วย