Public policy making can be charact

Public policy making can be characterized as a dynamic, complex, and interactive system through which public problems are identified and countered by creating new public policy or by reforming existing public policy.[4] Public problems can originate in endless ways and require different policy responses (such as regulations, subsidies, quotas, and laws) on the local, national, or international level.[5]

Public policy making is a continuous process that has many feedback loops. Verification and evaluation are essential to the functioning of this system.[6] The public problems that influence public policy making can be of economic, social, or political nature.[7] Each system is influenced by different public problems and thus requires different public policy.[6]

In public policy making, numerous individuals and interest groups compete and collaborate to influence policymakers to act in a particular way.[8] The large set of actors in the public policy process, such as politicians, civil servants, lobbyists, domain experts, and industry representatives, use a variety of tactics and tools to advance their aims, including advocating their positions publicly, attempting to educate supporters and opponents, and mobilizing allies on a particular issue.[5] Many actors can be important in the public policy process, however, government officials ultimately choose the ‘public policy’ in response to the public issue or problem at hand. In doing so, government officials are expected to meet public sector ethics and take the needs of all stakeholders into account.[6]

Since societies have changed in the past decades the public policy making system changed too. Today public policy making is increasingly goal-oriented, aiming for measurable results and goals, and decision-centric, focussing on decisions that must be taken immediately.[6] Furthermore, mass communications and technological changes have caused the public policy system to become more complex and interconnected.[9] These changes pose new challenges to the current public policy systems and pressure them to evolve in order to remain effective and efficient.[

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การกำหนดนโยบายสาธารณะสามารถจะมีลักษณะเป็นแบบไดนามิกที่ซับซ้อนและระบบการโต้ตอบผ่านที่ปัญหาของประชาชนจะมีการระบุและตอบโต้โดยการสร้างนโยบายสาธารณะใหม่หรือโดยการปฏิรูปนโยบายสาธารณะที่มีอยู่. [4] ปัญหาประชาชนสามารถมาในรูปแบบที่ไม่มีที่สิ้นสุดและจำเป็นต้องมีการตอบสนองนโยบายที่แตกต่างกัน (เช่นระเบียบเงินอุดหนุนโควต้าและกฎหมาย) ในระดับท้องถิ่นระดับชาติหรือระดับนานาชาติ. [5] การกำหนดนโยบายสาธารณะเป็นกระบวนการต่อเนื่องที่มีข้อเสนอแนะหลายลูป การตรวจสอบและการประเมินผลมีความจำเป็นต่อการทำงานของระบบนี้. [6] ปัญหาของประชาชนที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายสาธารณะสามารถของเศรษฐกิจสังคมหรือลักษณะทางการเมือง. [7] แต่ละระบบได้รับอิทธิพลจากปัญหาของประชาชนที่แตกต่างกันจึงต้องใช้ของประชาชนที่แตกต่างกัน นโยบาย. [6] ในการกำหนดนโยบายสาธารณะที่ประชาชนจำนวนมากและกลุ่มผลประโยชน์ที่แข่งขันและการทำงานร่วมกันจะมีอิทธิพลต่อผู้กำหนดนโยบายที่จะทำหน้าที่ในทางหนึ่ง. [8] ชุดใหญ่ของนักแสดงในกระบวนการนโยบายสาธารณะเช่นนักการเมืองข้าราชการ lobbyists ผู้เชี่ยวชาญโดเมนและผู้แทนอุตสาหกรรมใช้ความหลากหลายของกลยุทธ์และเครื่องมือที่จะก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายของพวกเขารวมถึงการเรียกร้องตำแหน่งของพวกเขาต่อสาธารณชนพยายามให้ความรู้แก่ผู้สนับสนุนและฝ่ายตรงข้ามและพันธมิตรระดมเกี่ยวกับปัญหาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง. [5] นักแสดงหลายคนจะมีความสำคัญใน กระบวนการนโยบายสาธารณะอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ของรัฐในที่สุดเลือก 'นโยบายสาธารณะในการตอบสนองต่อปัญหาของประชาชนหรือปัญหาที่อยู่ในมือ ในการทำเช่นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่คาดว่าจะตอบสนองความจริยธรรมภาครัฐและใช้ความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดเข้าบัญชี. [6] เนื่องจากสังคมมีการเปลี่ยนแปลงในทศวรรษที่ผ่านมานโยบายสาธารณะทำให้ระบบเปลี่ยนเกินไป ทำวันนี้นโยบายสาธารณะเป็นเป้าหมายที่มุ่งเน้นมากขึ้นเล็งสำหรับผลการวัดและเป้าหมายและการตัดสินใจเป็นศูนย์กลางมุ่งเน้นการตัดสินใจที่ต้องดำเนินการทันที. [6] นอกจากนี้การสื่อสารมวลและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้ก่อให้เกิดระบบการกำหนดนโยบายสาธารณะที่จะกลายเป็นมากขึ้น ที่ซับซ้อนและเชื่อมต่อระหว่างกัน. [9] การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก่อให้เกิดความท้าทายใหม่กับระบบปัจจุบันนโยบายสาธารณะและการกดดันให้พวกเขาที่จะพัฒนาเพื่อให้ยังคงมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิภาพ. [

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การกำหนดนโยบายสาธารณะสามารถจะมีลักษณะเป็นแบบไดนามิกที่ซับซ้อนและระบบการโต้ตอบผ่านปัญหาสาธารณะที่ระบุ และตอบโต้ด้วยการสร้างนโยบายใหม่ หรือ โดยเฉพาะนโยบายที่มีอยู่ ปัญหาสาธารณะ [ 4 ] เกิดขึ้นไม่มีที่สิ้นสุด วิธีและต้องการการตอบสนองนโยบายที่แตกต่างกัน ( เช่นระเบียบเงินอุดหนุน , โควต้า และกฎหมาย ) ใน ท้องถิ่น ประจำชาติหรือระดับสากล [ 5 ]

นโยบายสาธารณะทำให้เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่มีหลายความคิดเห็นลูป การตรวจสอบและประเมินผลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของระบบนี้ [ 6 ] สาธารณะ ปัญหาที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายสาธารณะสามารถของธรรมชาติ เศรษฐกิจ สังคม หรือการเมือง [ 7 ] แต่ละระบบนั้นได้รับอิทธิพลจากปัญหาสาธารณะที่แตกต่างกันและดังนั้นจึงต้องมีนโยบายที่แตกต่างกัน [ 6 ]

ในการกำหนดนโยบายสาธารณะ บุคคลหลายกลุ่มสนใจแข่งขันและร่วมมือที่จะมีอิทธิพลต่อนโยบายที่จะกระทำในลักษณะเฉพาะ [ 8 ] ชุดใหญ่ของนักแสดงในกระบวนการนโยบายสาธารณะ เช่น นักการเมือง ข้าราชการ นักวิ่งเต้น โดเมนผู้เชี่ยวชาญและผู้แทนอุตสาหกรรม ใช้ความหลากหลายของกลยุทธ์และวัตถุประสงค์ของพวกเขา เครื่องมือล่วงหน้า รวมทั้งสนับสนุนตำแหน่งอย่างเป็นทางการพยายามที่จะให้การศึกษาแก่ผู้สนับสนุนและฝ่ายตรงข้ามและระดมพันธมิตรในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง . [ 5 ] นักแสดงหลายคนสามารถสำคัญในกระบวนการนโยบายสาธารณะอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รัฐบาลสุดเลือก ' ' นโยบายภาครัฐในการตอบสนองต่อปัญหาของประชาชน หรือปัญหาในมือ ในการทำเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลที่คาดว่าจะพบจริยธรรมภาคสาธารณะและความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดเข้าบัญชี [ 6 ]

เพราะสังคมมีการเปลี่ยนแปลงในทศวรรษที่ผ่านมาประชาชนนโยบายระบบเปลี่ยนไปเหมือนกัน วันนี้นโยบายเป้าหมายที่มุ่งเน้นมากขึ้น เล็งผลการวัดและเป้าหมาย และการตัดสินใจ วิพากษ์ โดยการตัดสินใจว่า จะต้องถ่ายทันที[ 6 ] นอกจากนี้ การสื่อสารมวลชนและการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทำให้ระบบนโยบายสาธารณะที่จะกลายเป็นความซับซ้อนมากขึ้นและเชื่อมต่อกัน [ 9 ] การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก่อให้เกิดความท้าทายใหม่กับระบบปัจจุบันนโยบายสาธารณะและกดดันให้พวกเขาวิวัฒนาการเพื่อยังคงมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิภาพ [
.