The first handheld mobile cell phon

The first handheld mobile cell phone was demonstrated by Motorola in 1973. The first commercial automated cellular network was launched in Japan by Nippon Telegraph and Telephone in 1979. This was followed in 1981 by the simultaneous launch of the Nordic Mobile Telephone (NMT) system in Denmark, Finland, Norway and Sweden.[6] Several other countries then followed in the early to mid-1980s. These first-generation (1G) systems could support far more simultaneous calls, but still used analog technology.

In 1991, the second-generation (2G) digital cellular technology was launched in Finland by Radiolinja on the GSM standard. This sparked competition in the sector as the new operators challenged the incumbent 1G network operators.

Ten years later, in 2001, the third generation (3G) was launched in Japan by NTT DoCoMo on the WCDMA standard.[7] This was followed by 3.5G, 3G+ or turbo 3G enhancements based on the high-speed packet access (HSPA) family, allowing UMTS networks to have higher data transfer speeds and capacity.

By 2009, it had become clear that, at some point, 3G networks would be overwhelmed by the growth of bandwidth-intensive applications, such as streaming media.[8] Consequently, the industry began looking to data-optimized fourth-generation technologies, with the promise of speed improvements up to ten-fold over existing 3G technologies. The first two commercially available technologies billed as 4G were the WiMAX standard, offered in North America by Sprint, and the LTE standard, first offered in Scandinavia by TeliaSonera.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แรกมือถือโมบายโทรศัพท์มือถือที่แสดง โดยโมโตโรล่าใน 1973 แรกอัตโนมัติโทรศัพท์มือถือเครือข่ายเชิงพาณิชย์ถูกเปิดตัวในญี่ปุ่น โดยนิปปอนส่งโทรเลขและโทรศัพท์ในปีค.ศ. 1979 นี้ถูกตามในปี 1981 โดยเปิดตัวพร้อมระบบโทรศัพท์นอร์ดิค (NMT) ในเดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน [6] หลายประเทศอื่น ๆ แล้วตามในช่วงกลางทศวรรษ 1980 การ ระบบเหล่านี้ (1G) รุ่นสามารถสนับสนุนพร้อมเรียกเพิ่มเติมไกล แต่ยังคง ใช้เทคโนโลยีแบบแอนะล็อกในปีพ.ศ. 2534, second-generation (2 กรัม) ดิจิตอลเซลลูลาร์เทคโนโลยีเปิดฟินแลนด์ โดย Radiolinja บนมาตรฐาน GSM แข่งขันนี้ sparked ในภาคที่เป็นผู้ประกอบการใหม่ท้าทายผู้ประกอบการเครือข่าย 1G incumbentสิบปีต่อมา ในปีค.ศ. 2001 รุ่นที่สาม (3G) เปิดญี่ปุ่น โดยเอ็นทีทีโดโคโมในมาตรฐานตัว WCDMA [7] นี้ถูกตาม ด้วย 3.5G ทรีจี + หรือเทอร์โบ 3 G เพิ่มประสิทธิภาพตามเข้าแพคเก็ตที่ความเร็วสูง (HSPA) ครอบครัว ช่วยให้เครือข่าย UMTS ให้ข้อมูลความเร็วสูงและกำลังการผลิตโดย 2009 มันได้กลายเป็นที่ชัดเจนว่า บางจุด เครือข่าย 3G จะถูกจม โดยการเติบโตของการใช้งานแบนด์วิดท์มาก เช่นการส่งกระแสข้อมูลสื่อ [8] ดังนั้น อุตสาหกรรมเริ่มมองเห็นการปรับข้อมูลสี่เทคโนโลยีการผลิต กับการปรับปรุงความเร็วถึง ten-fold เทคโนโลยี 3G ที่มีอยู่ เทคโนโลยีใช้ได้ในเชิงพาณิชย์สองเรียกเป็น 4G ได้ WiMAX มาตรฐาน เสนอในอเมริกาเหนือ โดยวิ่ง LTE มาตรฐานก่อน นำเสนอในสแกนดิเนเวีย โดย TeliaSonera

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โทรศัพท์มือถือเป็นครั้งแรกที่มีด้ามจับโทรศัพท์มือถือที่ได้รับการแสดงให้เห็นโดยโมโตโรล่าในปี 1973 เครือข่ายโทรศัพท์มือถืออัตโนมัติเชิงพาณิชย์แห่งแรกที่เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นโดย บริษัท นิปปอนเทเลกราฟแอนด์เทเลโฟนในปี 1979 นี้ตามมาในปี 1981 โดยการเปิดตัวพร้อมกันของโทรศัพท์มือถือนอร์ดิก (NMT) ระบบ เดนมาร์กฟินแลนด์นอร์เวย์และสวีเดน. [6] หลายประเทศอื่น ๆ แล้วใช้ในช่วงต้นถึงกลางทศวรรษที่ 1980 เหล่านี้รุ่นแรก (1G) ระบบจะสนับสนุนมากขึ้นสายพร้อมกัน แต่เทคโนโลยีอะนาล็อกยังคงใช้. ในปี 1991, รุ่นที่สอง (2G) เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือดิจิตอลเปิดตัวในฟินแลนด์ Radiolinja มาตรฐานระบบ GSM นี้จุดประกายการแข่งขันในภาคการเป็นผู้ประกอบการใหม่ที่ท้าทายผู้ประกอบการเครือข่าย 1G หน้าที่. สิบปีต่อมาในปี 2001 รุ่นที่สาม (3G) ที่เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นโดย NTT DoCoMo มาตรฐาน WCDMA ได้. [7] ตามด้วย 3.5 G, 3G + หรือเทอร์โบปรับปรุง 3G บนพื้นฐานของการเข้าถึงแพ็กเก็ตความเร็วสูง (HSPA) ในครอบครัวที่ช่วยให้เครือข่าย UMTS จะมีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่สูงขึ้นและกำลังการผลิต. 2009 โดยมันได้กลายเป็นที่ชัดเจนว่าในบางจุดที่เครือข่าย 3G จะจม จากการเติบโตของการใช้งานแบนด์วิดธ์มากเช่นสตรีมมิ่งสื่อ. [8] ดังนั้นอุตสาหกรรมเริ่มมองหาข้อมูลที่ดีที่สุดเทคโนโลยีรุ่นที่สี่กับสัญญาของการปรับปรุงความเร็วได้ถึงสิบเท่ามากกว่า 3G เทคโนโลยีที่มีอยู่ สองคนแรกเทคโนโลยีที่สามารถใช้ได้ในเชิงพาณิชย์ที่เรียกว่า 4G เป็นมาตรฐานไวแมกซ์ที่นำเสนอในทวีปอเมริกาเหนือโดย Sprint และมาตรฐาน LTE ที่นำเสนอครั้งแรกในสแกนดิเนเวีโดย TeliaSonera

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ครั้งแรกที่โทรศัพท์มือถือโทรศัพท์มือถือที่แสดงโดยโมโตโรล่าใน 1973 พาณิชย์แรกอัตโนมัติเครือข่ายมือถือได้เปิดตัวในญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นโทรเลขและโทรศัพท์ในปี 1979 นี้ตามใน 1981 โดยการเปิดตัวพร้อมกันของโทรศัพท์มือถือ Nordic ( NMT ) ระบบในเดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน [ 6 ] ในอีกหลายประเทศแล้วตามในช่วงต้นถึงกลางทศวรรษที่ 1980 - .นี้รุ่นแรก ( 1 ) ระบบสามารถรองรับสายได้ไกลมากขึ้น แต่ยังใช้เทคโนโลยีอนาล็อก

ใน 1991 , รุ่นที่สอง ( 2G ) เทคโนโลยีเซลลูลาร์ดิจิตอลเปิดตัวในฟินแลนด์โดย radiolinja บนมาตรฐาน GSM นี้จุดประกายการแข่งขันในภาคเป็นผู้ประกอบการใหม่ท้าทายผู้ประกอบการเครือข่าย 1G หน้าที่

สิบปีต่อมาในปี 2001รุ่นที่สาม ( 3G ) ได้เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นโดย NTT DoCoMo บนมาตรฐาน WCDMA [ 7 ] ตามมาด้วย Game , 3G หรือ Turbo 3G การปรับปรุงตามการเข้าถึงข้อมูลความเร็วสูง ( HSPA ) ครอบครัวให้ UMTS เครือข่ายให้มีการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงและความจุ .

โดย 2009 , มันได้กลายเป็นชัดเจน นั้น ในบางจุดเครือข่าย 3G จะแพ้ โดยการเติบโตของการใช้งานแบนด์วิดธ์ที่เข้มข้น เช่น สตรีมมิ่งสื่อ [ 8 ] ดังนั้นอุตสาหกรรมเริ่มมองหาข้อมูลเทคโนโลยีรุ่นที่สี่ให้เหมาะกับสัญญาของความเร็วในการปรับปรุงได้ถึงสิบเท่ามากกว่า 3G เทคโนโลยีที่มีอยู่ สองคนแรกที่สามารถใช้ได้ในเชิงพาณิชย์ เทคโนโลยีการเรียกเก็บเงินเป็น 4G ได้มาตรฐานไวแมกซ์ ,เสนอในทวีปอเมริกาเหนือโดย Sprint และ LTE มาตรฐานแรกเสนอในสแกนดิเนเวีย โดยหัวเว่ย .