Methods: This study used an intent-

Methods: This study used an intent-to-treat design to compare foster home integration and adoption likelihood for 31 foster children with histories of abuse and neglect whose foster parents received a behavioral parenting intervention or usual services. Random effect regression analyses were used to estimate outcomes across four time points.

4. Methods
4.1. Overall design
This study used data from an intent-to-treat pilot study of an adaptation of Chamberlain's Keeping Foster Parents Trained and Supported intervention.The sample was drawn from a single large child welfare agency in an urban area. Children were eligible for the study if they were
(1) in a foster home that received a specialized foster care rate for the selected child and (2) ages 4 to 12 at the time of selection. To receive a specialized foster care rate, children must have significant documented behavioral, medical, or developmental needs.
The majority of the children included had behavioral needs, and the few children who primarily had medical or developmental needs also had behavior problems. Although history of abuse was not measured,

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธี: การศึกษานี้ใช้แบบเจตนารักษาเปรียบเทียบรวมบ้านบ้างและยอมรับความเป็นไปได้สำหรับเด็ก 31 บ้างมีของละเมิดและละเลยในการพ่อแม่เลี้ยงได้รับการแทรกแซงพฤติกรรมไปหรือบริการปกติ วิเคราะห์การถดถอยแบบสุ่มผลก็จะประเมินผลทั้งสี่เวลาจุด4. วิธี4.1 โดยรวมการออกแบบการศึกษานี้ใช้ข้อมูลจากการศึกษานำร่องเจตนาการรักษาของการปรับตัวของแชมเบอร์เลนให้ฟอสเตอร์ผู้ปกครองการฝึกอบรมและรองรับแทรกแซง ตัวอย่างที่มาจากหน่วยงานสวัสดิการเป็นลูกเดียวขนาดใหญ่ในเมือง เด็กมีสิทธิได้รับการศึกษาก็ได้(1) ในบ้านบ้างที่ได้รับอัตราพิเศษผู้ปกครองในการเลือกเด็กและ (2) อายุ 4 ถึง 12 ครั้งเลือก จะได้รับอัตราพิเศษผู้ปกครอง เด็กต้องมีสำคัญเอกสารพฤติกรรม แพทย์ หรือพัฒนาความต้องการส่วนใหญ่เด็กรวมมีความต้องการพฤติกรรม และเด็กบางคนที่มีความต้องการทางการแพทย์ หรือพัฒนาหลักยังมีปัญหาพฤติกรรม ถึงแม้ว่าไม่มีวัด ประวัติของการละเมิดสิทธิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการ: การศึกษาครั้งนี้ใช้ความตั้งใจที่จะรักษาเพื่อเปรียบเทียบการออกแบบบูรณาการบ้านอุปถัมภ์และโอกาสในการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม 31 อุปถัมภ์เด็กที่มีประวัติของการล่วงละเมิดและละเลยที่มีพ่อแม่อุปถัมภ์ได้รับการอบรมเลี้ยงดูพฤติกรรมแทรกแซงหรือบริการตามปกติ ผลการวิเคราะห์การถดถอยสุ่มถูกนำมาใช้ในการประมาณการผลข้ามสี่จุดเวลา. 4 วิธี4.1 การออกแบบโดยรวมการศึกษาครั้งนี้ใช้ข้อมูลจากความตั้งใจที่จะรักษาการศึกษานำร่องของการปรับตัวของผู้ปกครองอุปถัมภ์รักษาแชมเบอร์เลนของการฝึกอบรมและสนับสนุนตัวอย่าง intervention.The ถูกดึงออกมาจากเด็กขนาดใหญ่หน่วยงานสวัสดิการในเขตเมือง เด็กมีสิทธิในการศึกษาว่าพวกเขา(1) ในบ้านอุปถัมภ์ที่ได้รับการอุปการะเลี้ยงดูอัตราพิเศษสำหรับเด็กที่เลือกและ (2) วัย 4-12 ในช่วงเวลาของการเลือก จะได้รับการส่งเสริมให้เกิดอัตราการดูแลเฉพาะเด็ก ๆ ที่สำคัญจะต้องมีการบันทึกพฤติกรรมทางการแพทย์หรือการพัฒนาความต้องการ. ส่วนใหญ่ของเด็กรวมถึงมีความต้องการพฤติกรรมและเด็กไม่กี่คนที่มีหลักความต้องการทางการแพทย์หรือการพัฒนายังมีปัญหาพฤติกรรม แม้ว่าประวัติศาสตร์ของการล่วงละเมิดไม่ได้วัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีการศึกษา : การศึกษานี้ใช้ความตั้งใจในการรักษาแบบบูรณาการและการเปรียบเทียบบ้านอุปถัมภ์โอกาส 31 เด็กอุปถัมภ์กับประวัติของการละเมิดและได้รับการอบรมเลี้ยงดูที่พ่อแม่ละเลยพฤติกรรมการแทรกแซงหรือบริการปกติ สุ่มผลถดถอยพหุ ถูกใช้เพื่อประเมินผลในเวลาสี่จุด

4 . วิธีการ
4.1 .
ออกแบบโดยรวมการศึกษานี้ใช้ข้อมูลจากความตั้งใจในการรักษา การศึกษานำร่องการปรับตัวของแชมเบอร์เลนเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์และสนับสนุนการฝึกกลุ่ม ตัวอย่างได้มาจากเดี่ยวขนาดใหญ่หน่วยงานสงเคราะห์เด็กในเขตเมือง เด็กมีสิทธิในการศึกษา ถ้าพวกเขา
( 1 ) ในบ้านอุปถัมภ์ที่ได้รับความอุปถัมภ์ดูแลเท่ากัน เพราะเด็กที่เลือกและ ( 2 ) อายุ 4 ถึง 12 ในเวลาที่เลือก ได้รับความอุปถัมภ์ดูแลเท่ากัน เด็กจะต้องมีเอกสารที่สำคัญทาง การแพทย์ หรือตามความต้องการ
ส่วนใหญ่ของรวมเด็กมีความต้องการ พฤติกรรมและเด็กบางคนที่ส่วนใหญ่มีความต้องการทางการแพทย์ หรือพัฒนาการ มีปัญหาพฤติกรรม แม้ว่าประวัติของการละเมิดไม่ได้วัด