2.2.1 The Early Period of Neutral E

2.2.1 The Early Period of Neutral Export Promotion
Sentiments surrounding the political turmoil, economic stagnation and constant military threat from North Korea gave rise to a military coup in 1961, led by a two-star general Park Chung Hee. He was elected as the president the following year, and retained his presidency for 18 years until 1979 when he was assassinated during a dinner party. Notably, however, he was the first political leaders to initiate a systematic economic development plan.
The economic situation at the time was entirely unfavorable to development; the capital, technology and natural resources needed to advance were insufficient. The only factor of production Korea had was abundant labor, but such abundance can work as a disadvantage if the population is not adequately educated. Luckily, Korea had a long tradition placing high priority on education, resulting in a people that were relatively better educated than most other developing countries. The political situation was even worse: to the north was the major enemy, North Korea; to the left the major participant in the Korean War, China; to the right the former colonial ruler, Japan. Korea and Japan had not even been able to re-establish normal diplomatic relations until 1965. The resulted in a 20 year vacuum between the two countries. To the south, was the Pacific Ocean. In a sense, Korea was completely segregated from its neighbors, and the only ally they could rely on was the US.
The main trade and economic development policy during this period was export promotion. This distinguished Korea from many other developing countries as most developing countries focused on import substitution as they did not have enough capital and foreign reserves for import. Instead,Korea looked outward and adopted export-oriented policies. Import was, however, not freely allowed; but, in as much as such import was related to export, import was also allowed under favorable regulations. On one hand, Korea rightfully chose an open-door trade policy based on Ricardo's Comparative Advantage Theory. But, on the other, she did not have many choices as foreign currency earning was a pre-requisite to import factors of production such as capital goods, raw materials and technology.
During this period, the export of any product was given incentives by the government including tax and financial support. Important to note was that the banks were nationalized during the military coup. This made possible the wide-spread financial support by government; policy loans were extended at much lower interest rates. For the business firms, this access to loans was very attractive and also provided an implicit guarantee by the government for a bail out if the investment failed. All governmental agencies actively supported export, and surprisingly export grew at close to 30% a year during this period while the economy grew by almost 10% a year. The catch phrase at the time was "we can live better," and "re-building the country through export.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.2.1 ช่วงระยะกลางของส่งออกโปรโมชั่นรู้สึกรอบความวุ่นวายทางการเมือง ความซบเซาทางเศรษฐกิจและการคุกคามทางทหารคงจากเกาหลีเหนือให้การประหารใน 1961 โดยสองดาวทั่วไปปาร์คชุสัง เขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในปีต่อไปนี้ และรักษาประธานาธิบดีของเขา 18 ปีจนถึงปี 1979 เมื่อเขาได้ถูกลอบปลงพระชนม์ในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำ ยวด อย่างไรก็ตาม เป็นผู้นำทางการเมืองแรกที่เริ่มต้นแผนการพัฒนาระบบเศรษฐกิจสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในเวลาถูกทั้งร้ายพัฒนา ทุน เทคโนโลยี และทรัพยากรธรรมชาติต้องล่วงหน้าได้ไม่เพียงพอ ปัจจัยเฉพาะของผลิตที่เกาหลีก็มีแรงงานมาก ได้มากมายเช่นสามารถทำงานเป็นผลเสียถ้าประชากรมีไม่เพียงพอศึกษา โชคดี เกาหลีได้นานศึกษาวางความสำคัญในการศึกษา ในคนที่ค่อนข้างดีกว่าประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ส่วนใหญ่ สถานการณ์ทางการเมืองยิ่งแย่ลง: ทางเหนือเป็นศัตรูสำคัญ เกาหลีเหนือ ทางด้านซ้ายส่วนร่วมสำคัญในสงครามเกาหลี จีน การดูไม้บรรทัดอดีตอาณานิคม ญี่ปุ่น เกาหลีและญี่ปุ่นมีแม้ยังไม่ได้สร้างความสัมพันธ์ทางการทูตปกติอีกครั้งจนถึงปี 1965 การเกิดในสุญญากาศ 20 ปีระหว่างสองประเทศ ใต้ เป็นมหาสมุทรแปซิฟิก ในความรู้สึก เกาหลีถูกแยกจากเพื่อนบ้านของสมบูรณ์ และพันธมิตรเท่านั้นที่จะสามารถพึ่งพา สหรัฐอเมริกานั้นการค้าหลักและพัฒนาเศรษฐกิจนโยบายในช่วงเวลานี้ได้ส่งเสริมการ เกาหลีนี้แตกต่างจากประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ จำนวนมากเป็นประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่มุ่งเน้นในการนำเข้าแทนพวกเขาไม่มีทุนพอ และต่างประเทศจองสำหรับการนำเข้า แทน เกาหลีมองออกข้างนอก และนำนโยบายที่มุ่งเน้นการส่งออก นำเข้า อย่างไรก็ตาม ได้อย่างอิสระไม่ได้ ได้ ในเท่าที่นำเข้าดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการส่งออก นำเข้าได้รับอนุญาตภายใต้ระเบียบข้อบังคับอัน หนึ่งคง เกาหลีเลือกนโยบายการเปิดประตูทางการค้าตามทฤษฎีประโยชน์เปรียบเทียบของ Ricardo พวก แต่,,เธอไม่ได้มีตัวเลือกเป็นสกุลเงินต่างประเทศรายได้ แบบ requisite ก่อนการนำเข้าปัจจัยการผลิตเช่นทุนสินค้า วัตถุดิบ และเทคโนโลยีในช่วงเวลานี้ การส่งออกของผลิตภัณฑ์ใด ๆ ได้รับแรงจูงใจจากรัฐบาลรวมทั้งสนับสนุนทางการเงินและภาษี สิ่งสำคัญโปรดทราบได้ว่า ธนาคารมี nationalized ในระหว่างการรัฐประหาร นี้ได้สนับสนุนเงินแพร่กระจายทั้ง โดยรัฐบาล นโยบายสินเชื่อที่ขยายในอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก สำหรับบริษัทธุรกิจ นี้เข้าถึงสินเชื่อน่าสนใจมาก และยัง ให้การค้ำประกันนัย โดยรัฐบาลจนออกถ้าลงทุนล้มเหลว หน่วยงานของรัฐทุกอย่างสนับสนุนการส่งออก แล้วจู่ ๆ ส่งออกเติบโตที่ใกล้ 30% ปีในช่วงเวลานี้ในขณะที่เศรษฐกิจเติบโตเกือบ 10% ต่อปี มีวลีตามเวลา "เราสามารถมีชีวิตอยู่ดีกว่า" และ "สร้างประเทศผ่านการส่งออก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.2.1
ระยะเวลาเริ่มต้นของการส่งเสริมการส่งออกเป็นกลางความรู้สึกรอบความวุ่นวายทางการเมืองเมื่อยล้าทางเศรษฐกิจและภัยคุกคามทางทหารคงที่จากเกาหลีเหนือก่อให้เกิดการทำรัฐประหารในปี1961 นำโดยนายพลสองดาวปาร์คจุงฮี เขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในปีต่อไปและเก็บไว้เป็นประธานาธิบดีของเขาสำหรับ 18 ปี 1979 จนกระทั่งเมื่อเขาถูกลอบสังหารในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำ สะดุดตา แต่เขาเป็นผู้นำทางการเมืองเป็นครั้งแรกที่จะเริ่มต้นแผนพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ.
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นช่วงเวลาที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาทั้งหมด; เงินทุนเทคโนโลยีและทรัพยากรทางธรรมชาติที่จำเป็นที่จะก้าวไปไม่เพียงพอ ปัจจัยเดียวของการผลิตเกาหลีได้เป็นแรงงานที่อุดมสมบูรณ์ แต่ความอุดมสมบูรณ์ดังกล่าวสามารถทำงานเป็นข้อเสียถ้าประชากรที่ไม่ได้รับการศึกษาอย่างเพียงพอ โชคดีที่เกาหลีมีความยาวประเพณีการวางลำดับความสำคัญสูงเกี่ยวกับการศึกษาที่เกิดในคนที่ได้รับการศึกษาที่ค่อนข้างดีกว่ามากที่สุดประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ สถานการณ์ทางการเมืองได้แม้แต่เลว: ไปทางทิศเหนือเป็นศัตรูที่สำคัญของเกาหลีเหนือ; ไปทางซ้ายผู้เข้าร่วมที่สำคัญในสงครามเกาหลีจีน ไปทางขวาไม้บรรทัดอดีตอาณานิคมญี่ปุ่น เกาหลีและญี่ปุ่นได้ไม่ได้รับสามารถที่จะสร้างใหม่ความสัมพันธ์ทางการทูตตามปกติจนกระทั่งปี 1965 ส่งผลให้สูญญากาศ 20 ปีระหว่างทั้งสองประเทศ ไปทางทิศใต้เป็นมหาสมุทรแปซิฟิก ในความเป็นเกาหลีได้อย่างสมบูรณ์แยกจากเพื่อนบ้านของตนและพันธมิตรเดียวที่พวกเขาสามารถพึ่งพาเป็นสหรัฐอเมริกา.
การค้าหลักและนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจในช่วงเวลานี้ส่งเสริมการส่งออก นี้โดดเด่นเกาหลีจากประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ อีกมากมายในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การทดแทนการนำเข้าเช่นที่พวกเขาไม่ได้มีเงินทุนเพียงพอและเงินสำรองต่างประเทศเพื่อนำเข้า แต่มองออกไปด้านนอกเกาหลีและนโยบายเน้นการส่งออก นำเข้าได้ แต่ไม่ได้รับอนุญาตได้อย่างอิสระ แต่ในมากที่สุดเท่าที่นำเข้าดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกนำเข้าได้รับอนุญาตภายใต้กฎระเบียบที่ดี หนึ่งในมือเกาหลีอย่างถูกต้องเลือกนโยบายการค้าที่เปิดประตูอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีได้เปรียบโดยเปรียบเทียบของริคาร์โด้ แต่ที่อื่น ๆ เธอไม่ได้มีทางเลือกมากที่สุดเท่าที่มีรายได้เงินตราต่างประเทศเป็นสิ่งจำเป็นก่อนที่จะนำเข้าปัจจัยการผลิตเช่นสินค้าทุนวัตถุดิบและเทคโนโลยี.
ในช่วงเวลานี้การส่งออกของผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่ได้รับแรงจูงใจจาก รัฐบาลรวมทั้งภาษีและการสนับสนุนทางการเงิน สำคัญที่ควรทราบก็คือการที่ธนาคารเป็นของกลางในช่วงที่ทหารทำรัฐประหาร นี้ทำไปได้การสนับสนุนทางการเงินกว้างแพร่กระจายโดยรัฐบาล นโยบายเงินให้กู้ยืมที่กำลังขยายต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ย สำหรับ บริษัท ธุรกิจการเข้าถึงนี้เงินให้สินเชื่อเป็นที่น่าสนใจมากและยังให้การรับประกันโดยปริยายโดยรัฐบาลสำหรับการประกันตัวออกจากการลงทุนในกรณีที่ล้มเหลว หน่วยงานของรัฐทั้งหมดได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันการส่งออกและการส่งออกขยายตัวที่น่าแปลกใจที่ใกล้เคียงกับ 30% ต่อปีในช่วงเวลานี้ในขณะที่เศรษฐกิจขยายตัวเกือบ 10% ต่อปี วลีที่จับในขณะที่เป็น "เราสามารถชีวิตที่ดีขึ้น" และ "ใหม่สร้างประเทศผ่านการส่งออก