Accession & ReignIn 1972, his fathe

Accession & Reign
In 1972, his father, King Jigme Dorji Wangchuck died suddenly, and Jigme Singye, aged just 16, succeeded to the throne. The young king continued with his father’s reform and development policies, focusing on infrastructure, education, and health. In addition, he also implemented steps to preserve Bhutan’s rich cultural heritage and natural environment.
During the 1970s, intensive valley projects, cash crops cultivation, and enhancing the economic status of the poor became the main focus of planned development in the country. Several steps were undertaken with the aim of achieving the vision of food self-sufficiency and income generation.
The king felt that “Gross National Happiness is more important than Gross National Product,” and this became the guideline for the measurement of development in the country. Over the years, Bhutan saw unprecedented growth under the leadership of the king.
He focused greatly on infrastructural development. In 1974, there were networks of 1,332 km of roads which had grown to 4,544 km by the end of his reign in 2006. Similarly, communication and technology also grew by leaps during his reign: there were just 24 wireless stations in the country in 1974 with 480 telephone connections compared to 31,526 in 2006.
The king, deeply devoted to the welfare of his subjects promoted educational and training facilities in the nation which benefitted thousands of young students. The number of students enrolled in schools rose from a meager 13,410 in 1974 to 151,260 or so in 2006. He launched a free education policy due to which school enrolment touched 90% by 2006.
During his reign better health services, safe drinking water and better nutrition have led to an average life expectancy of 66 years. By 2006, there was 90% free primary health coverage in Bhutan. The country also registered drastic decline in infant and maternal mortality rates due to improved medical facilities.
Over the period of his 34-year reign, the national income of the nation grew manifold and Bhutan fostered friendly relations with several countries around the world. Jigme Singye Wangchuk also initiated measures to preserve the country’s rich heritage and natural resources. His environmental policies resulted in vast areas of the country being devoted to parks and sanctuaries.
He was a much loved king to his people and a respected national leader in the international arena. During the 1990s, he began taking steps to lead Bhutan towards democracy, a step that was commended worldwide.
In 2006, King Jigme Singye Wangchuk abdicated the throne in favor of his eldest son, Jigme Khesar Namgyel Wangchuck.

Read more at http://www.thefamouspeople.com/profiles/jigme-singye-wangchuck-7529.php#vqjqqjORc2GUzbQZ.99

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาคยานุวัติและรัชสมัย1972 พ่อ กษัตริย์จิกมี่ดอร์ส่งห้องสมุดประชาชนกษัตริย์กษัตริย์เสียทันที และห้องสมุดประชาชนกษัตริย์ Singye มีอายุเพียง 16 สำเร็จราชบัลลังก์ กษัตริย์หนุ่มยังคง มีพ่อปฏิรูปและพัฒนานโยบาย เน้นโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา และสุขภาพ นอกจากนี้ เขายังดำเนินขั้นตอนในการรักษาสภาพแวดล้อมธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมของภูฏานในช่วงปี 1970 หุบเขาเร่งรัดโครงการ เพาะปลูกพืชเงินสด และการเสริมสร้างสถานะทางเศรษฐกิจของคนจนกลายเป็น โฟกัสหลักของแผนพัฒนาประเทศ มีดำเนินขั้นตอนต่าง ๆ ของการบรรลุวิสัยทัศน์ของอาหารพึ่งตัวเองและสร้างรายได้พระรู้สึกว่า "มวลรวมความสุขชาติสำคัญกว่าผลิตภัณฑ์", และนี้กลายเป็นแนวทางสำหรับการประเมินของการพัฒนาประเทศ ปี ภูฏานเห็นเติบโตเป็นประวัติการณ์ภายใต้การนำของกษัตริย์เขาเน้นอย่างมากในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เครือข่าย 1,332 กิโลเมตรของถนนที่ยังป่วย 4,544 กม.สิ้นรัชกาลในปี 2549 ได้ในปี 1974 ในทำนองเดียวกัน การสื่อสารและเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น โดยการกระโดดพระองค์: มีสถานีไร้สายเพียง 24 ในประเทศในปี 1974 มีการเชื่อมต่อโทรศัพท์ 480 เทียบกับ 31,526 ในปี 2006กษัตริย์ อุทิศให้ลึกกับสวัสดิการของวิชาของเขาส่งเสริมสิ่งอำนวยความสะดวกในการศึกษา และการฝึกอบรมในประเทศที่รับประโยชน์นับพันของนักเรียน จำนวนนักศึกษาลงทะเบียนในโรงเรียนกุหลาบจากเป็น 13,410 ผอมใน 1974 151,260 หรือดังนั้นในปี 2549 เขาได้เปิดตัวนโยบายการศึกษาฟรีเนื่องจากที่ลงทะเบียนเรียนสัมผัสได้ถึง 90% 2006ระหว่างเขาสมัยดีสุขภาพ น้ำดื่มที่ปลอดภัยและโภชนาการที่ดีจะนำไปสู่อายุขัยเฉลี่ย 66 ปี โดย 2006 ได้ครอบคลุมสุขภาพหลัก 90% ในภูฏาน ประเทศยังจดทะเบียนลดลงอย่างมากในอัตราการตายมารดา และทารกเนื่องจากทางการแพทย์ที่ดีขึ้นในช่วงของรัชกาลปี 34 รายได้แห่งชาติของประเทศเติบโตมากมาย และภูฏานส่งเสริมสันถวไมตรีกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ห้องสมุดประชาชนกษัตริย์ Singye Wangchuk ยังเริ่มต้นมาตรการเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติและมรดกของประเทศ นโยบายสิ่งแวดล้อมของเขาส่งผลให้ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศถูกอุทิศให้กับสวนสาธารณะและเขตรักษาพันธุ์เขาเป็นกษัตริย์สนใจมากกับคนของเขาและผู้นำชาติยอมรับในเวทีระหว่างประเทศ ในช่วงปี 1990 เขาเริ่มดำเนินการเพื่อนำไปสู่ภูฏานต่อประชาธิปไตย ขั้นตอนที่ถูกยกย่องทั่วโลกในปี 2549 คิงห้องสมุดประชาชนกษัตริย์ Singye Wangchuk abdicated บัลลังก์ในความโปรดปรานลูกชายคนโตของเขา ห้องสมุดประชาชนกษัตริย์ Khesar Namgyel กษัตริย์จิกมี่ดอร์อ่านเพิ่มเติมที่ http://www.thefamouspeople.com/profiles/jigme-singye-wangchuck-7529.php#vqjqqjORc2GUzbQZ.99

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนังสือ & รัชกาลในปี 1972 , พ่อ , กษัตริย์จิกมี ดอร์จิ วังจุกตายอย่างกระทันหัน และ จิกมี ซิงเย อายุแค่ 16 ปี ก็ประสบความสำเร็จในบัลลังก์ กษัตริย์หนุ่มยังคงมีนโยบายปฏิรูปของบิดาของเขา และพัฒนา เน้นโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา และสุขภาพ นอกจากนี้เขายังดำเนินการตามขั้นตอนการรักษามรดกทางวัฒนธรรมของภูฏานที่อุดมไปด้วยและสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติในช่วงปี 1970 , โครงการหมู่บ้านเร่งรัด , พืชเศรษฐกิจ การเพาะปลูก และการส่งเสริมฐานะทางเศรษฐกิจของคนจนเป็นโฟกัสหลักของการวางแผนการพัฒนาในประเทศ หลายขั้นตอนได้ดำเนินการกับเป้าหมายของการบรรลุวิสัยทัศน์ของอาหารที่พอเพียง และสร้างรายได้กษัตริย์รู้สึกว่า " ความสุขมวลรวมประชาชาติสำคัญกว่าผลผลิตรวมของประเทศ และเป็นแนวทางในการวัดผลของการพัฒนาในประเทศ ปีของภูฏานเห็นการเจริญเติบโตอย่างภายใต้ การนำของกษัตริย์เขาตั้งใจอย่างมากในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน . ในปี 1974 มีเครือข่ายของ 1891 กม. จากถนนซึ่งได้เติบโตขึ้น 4544 km โดยสิ้นรัชสมัยของพระองค์ในปี 2006 ในทํานองเดียวกัน การสื่อสาร และ เทคโนโลยีก็เติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงรัชสมัยของพระองค์มีเพียง 24 สถานีไร้สายในประเทศปี 480 การเชื่อมต่อโทรศัพท์เมื่อเทียบกับ 31526 ในปี 2006กษัตริย์ อย่างทุ่มเทเพื่อสวัสดิการของประชาชน ส่งเสริมการศึกษาและการฝึกฝนในประเทศที่ได้รับประโยชน์นับพันของนักเรียนสาว จำนวนนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนเพิ่มขึ้นจากน้อย 13410 ในปี 1974 เพื่อ 151260 หรือดังนั้นในปี 2006 เขาเปิดตัวนโยบายการศึกษาฟรีเนื่องจากที่ลงทะเบียนเรียนที่โรงเรียนได้ร้อยละ 90 โดย 2006ในระหว่างการครองราชย์ของสุขภาพที่ดี การบริการน้ำดื่มที่ปลอดภัย และโภชนาการที่ดีจะนำไปสู่อายุขัยเฉลี่ย 66 ปี โดยปี 2006 มี 90% ฟรีหลักประกันสุขภาพในภูฏาน ประเทศยังจดทะเบียนลดลงอย่างรุนแรงในทารกและอัตราการตายของมารดาเนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ที่ดีขึ้นในช่วงรัชสมัยของพระองค์ 34 ปี รายได้ประชาชาติของประเทศเติบโตมากมายและภูฏานเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับหลายประเทศรอบโลก จิกมี ซิงเย วังชุก ยังได้ริเริ่มมาตรการอนุรักษ์มรดกของประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ นโยบายของเขาสิ่งแวดล้อมมีผลในพื้นที่อันกว้างใหญ่ของประเทศถูกอุทิศให้กับสวนสาธารณะ และเสฉวนเขาเป็นกษัตริย์ของเขามากที่รักและเคารพชาติผู้นำในเวทีระหว่างประเทศ ในช่วงปี 1990 เขาเริ่มก้าวนำภูฏานไปสู่ประชาธิปไตย ขั้นตอนที่ถูกยกย่องทั่วโลกกษัตริย์จิกมี ซิงเย วังชุก ในปี พ.ศ. 2549 สละราชสมบัติในความโปรดปรานของลูกชายคนโตของเขา จิกมีเคซาร์นัมเกลวังชุก .อ่านเพิ่มเติมที่ http : / / www.thefamouspeople . com / โปรไฟล์ / jigme-singye-wangchuck-7529 PHP # vqjqqjorc2guzbqz.99