Between 1933 and 1934, the British

Between 1933 and 1934, the British chemists Sir Walter Norman Haworth and Sir Edmund Hirst and, independently, the Polish chemist Tadeus Reichstein, succeeded in synthesizing the vitamin, making it the first to be artificially produced. This made possible the cheap mass-production of what was by then known as vitamin C. Only Haworth was awarded the 1937 Nobel Prize in Chemistry for this work, but the "Reichstein process" retained Reichstein's name.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระหว่างปี 1933 และ 1934 นักเคมีชาวอังกฤษ Sir Walter นอร์แมนแฮร์เวิร์ดและ Sir Edmund Hirst และ อิสระ นักเคมีโปแลนด์ Tadeus Reichstein ความสำเร็จในการสังเคราะห์วิตามิน ทำครั้งแรกจะผลิตเหือด นี้ได้บราที่ประหยัดอะไรได้โดยวิตามินซีเป็นที่รู้จักแล้ว แฮร์เวิร์ดเท่านั้นได้รับรางวัลโนเบลในปีค.ศ. 1937 ที่เคมีสำหรับงานนี้ แต่ "Reichstein การ" รักษาชื่อของ Reichstein

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระหว่าง 1933 และ 1934 นักเคมีชาวอังกฤษเซอร์วอลเตอร์เวิร์ ธ และนอร์แมนเซอร์เอ็ดมันด์เฮิรสท์และอิสระนักเคมีโปแลนด์ Tadeus Reichstein ประสบความสำเร็จในการสังเคราะห์วิตามินทำให้มันเป็นครั้งแรกที่จะผลิตเทียม นี่เองที่ทำให้เป็นไปได้มวลผลิตราคาถูกในสิ่งที่เป็นที่รู้จักกันโดยจากนั้นก็เป็นเพียงวิตามินซีเวิร์ ธ ได้รับรางวัล 1937 รางวัลโนเบลสาขาเคมีสำหรับงานนี้ แต่ "กระบวนการ Reichstein" สะสม Reichstein ชื่อของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระหว่าง 1933 และ 1934 , นักเคมีชาวอังกฤษ เซอร์วอลเตอร์ นอร์แมนเวิร์ธและเซอร์เอ็ดมันด์ มัน และ อิสระ นักเคมีชาวโปแลนด์ tadeus ไรค์สไตน์ ก็ประสบความสำเร็จในวิตามินสังเคราะห์ ทำครั้งแรกจะถูกผลิต นี้ได้ถูกการผลิตมวลของอะไรแล้วที่รู้จักกันเป็นวิตามิน C เท่านั้น แฮร์เวิร์ด ได้รับรางวัล 2480 รางวัลโนเบลสาขาเคมีสำหรับงานนี้แต่ " กระบวนการ " ไรค์สไตน์ประกาศชื่อไรค์สไตน์ได้