time. The R2 for these two periods

time. The R2 for these two periods are higher than those for the whole period of 2000e2012. The R2 of spatial SUR with spatially autocorrelated dependent variables is even over 0.5. All these imply the spatial-temporal patterns of biomass consumption are heterogeneous
over time. As expected, the biomass price has significant negative impact on biomass consumption and the total disposable personal income has significant positive impact on biomass consumption
(Tables 1e6), regardless of the time periods, which is consistent with classical economic theory. Such results prove the correctness of applying the spatial SUR models to investigate the spatialtemporal patterns of biomass consumption. The magnitude of the coefficient of biomass price is decreasing over time during the recession period of 2009e2012 and the period of 2000e2008, indicating the fading impact of biomass price on biomass consumption. This also happens to the total disposable personal income. However, there is relatively small variation in the magnitude of the coefficient of total disposable personal income, and therefore the impact of total disposable personal income on biomass consumption is relatively stable.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ครั้ง R2 สำหรับสองรอบระยะเวลาเหล่านี้อยู่สูงกว่าระยะเวลาทั้งหมดของ 2000e2012 การ R2 ของ spatial ซูร์มี spatially autocorrelated ขึ้นอยู่กับตัวแปรจะยิ่งกว่า 0.5 ทั้งหมดเหล่านี้บ่งบอกถึงรูปแบบ spatial temporal ของชีวมวลปริมาณการใช้จะแตกต่างกันช่วงเวลานี้ ตามที่คาดไว้ ราคาชีวมวลมีผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญในการใช้ชีวมวล และรายได้ส่วนบุคคลทิ้งทั้งหมดมีผลกระทบในเชิงบวกที่สำคัญการใช้ชีวมวล(ตาราง 1e6), โดยไม่คำนึงถึงช่วงเวลา ซึ่งจะสอดคล้องกับทฤษฎีทางเศรษฐกิจที่คลาสสิก ผลลัพธ์ดังกล่าวพิสูจน์ความถูกต้องของใช้รุ่นซูร์เชิงพื้นที่เพื่อตรวจสอบรูปแบบของการใช้ชีวมวล spatialtemporal ขนาดของค่าสัมประสิทธิ์ของชีวมวลราคาลดช่วงเวลาในระหว่างรอบระยะเวลาของภาวะถดถอยของ 2009e2012 และ 2000e2008 ระยะเวลาแสดงผลกระทบของการใช้ชีวมวลชีวมวลราคาซีดจาง นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นกับรายได้ส่วนบุคคลทั้งหมดทิ้ง อย่างไรก็ตาม จะมีขนาดเล็กความหลากหลายของค่าสัมประสิทธิ์ของรายได้รวมส่วนบุคคล และดังนั้น ผลรวมการใช้ชีวมวลส่วนบุคคลรายได้จึงค่อนข้างเสถียร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เวลา. R2 สำหรับทั้งสองช่วงเวลาที่มีความสูงกว่าตลอดระยะเวลาของ 2000e2012 R2 ของ SUR เชิงพื้นที่กับตัวแปรตามอัตสหสัมพันธ์เชิงพื้นที่จะยิ่งกว่า 0.5 ทั้งหมดเหล่านี้บ่งบอกถึงรูปแบบการกระจาย-ชั่วขณะของการบริโภคพลังงานชีวมวลมีความแตกต่างกัน
ในช่วงเวลา เป็นไปตามคาดราคาชีวมวลที่มีผลกระทบทางลบอย่างมากในการบริโภคและชีวมวลรวมรายได้ส่วนบุคคลที่ใช้แล้วทิ้งที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในเชิงบวกในการบริโภคพลังงานชีวมวล
(ตาราง 1e6) โดยไม่คำนึงถึงช่วงเวลาที่มีความสอดคล้องกับทฤษฎีเศรษฐศาสตร์คลาสสิก ผลดังกล่าวพิสูจน์ความถูกต้องของการใช้แบบจำลองเชิงพื้นที่ SUR เพื่อศึกษารูปแบบของการบริโภค spatialtemporal ชีวมวล ขนาดของค่าสัมประสิทธิ์ของราคาพลังงานชีวมวลจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไปในช่วงเวลาที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของ 2009e2012 และระยะเวลาการ 2000e2008 แสดงให้เห็นถึงผลกระทบต่อการซีดจางของราคาพลังงานชีวมวลในการบริโภคพลังงานชีวมวล นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นกับรายได้ส่วนบุคคลทั้งหมดทิ้ง แต่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเล็กในขนาดของค่าสัมประสิทธิ์ของรายได้ส่วนบุคคลทั้งหมดทิ้งและดังนั้นผลกระทบจากรายได้ส่วนบุคคลรวมทิ้งการบริโภคชีวมวลค่อนข้างมีเสถียรภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เวลา R2 สำหรับสองช่วงสูงกว่าสำหรับระยะเวลาทั้งหมดของ 2000e2012 . R2 ของพื้นที่ซูร์กับตัวแปรตามคือเปลี่ยน 52 แม้ 0.5 ทั้งหมดเหล่านี้บ่งบอกถึงรูปแบบของการ spatial-temporal ชีวมวลเป็นวิวิธพันธ์เมื่อเวลาผ่านไป ตามที่คาดไว้ , ราคาชีวมวลได้ผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อปริมาณชีวมวลและรวมรายได้ที่มีผลกระทบในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญในการบริโภคมวล( ตาราง 1e6 ) โดยไม่คำนึงถึงระยะเวลา ซึ่งจะสอดคล้องกับทฤษฎีเศรษฐศาสตร์คลาสสิก ผลดังกล่าวพิสูจน์ความถูกต้องของการใช้แบบจำลองเพื่อศึกษารูปแบบการสร้าง spatialtemporal พลังงานชีวมวล ขนาดของสัมประสิทธิ์ของราคาชีวมวลลดลงตลอดเวลาในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยของ 2009e2012 และระยะเวลาของ 2000e2008 แสดงผลกระทบของการจางหายราคาชีวมวล ชีวมวล นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นเพื่อรวมรายได้ . อย่างไรก็ตาม มีการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างเล็กในขนาดของสัมประสิทธิ์ของรายได้รวม และดังนั้น ผลกระทบของการใช้ชีวมวลรวมรายได้ที่ค่อนข้างมั่นคง