This paper aims to contribute to th

This paper aims to contribute to the literature in terms
of both theory development and furthering understanding
of management accounting in practice. It combines insights
of structuration theory and institutional theory to provide
a holistic analysis of change, given their capacity to reveal
the origins of contradiction faced by actors at the structural
level, and to highlight the role of performance management
systems in the mediation of power relations at the
action level, as they provide a focal point for conflict and
struggle through the enactment of praxis by organisational
actors.
The paper reveals how new developments in performance
management systems helped to reconstitute
understanding of legitimate organisational activity. Additionally,
it contributes to the understanding of management
accounting practice, by examining consequences of
major change in the NHS. It evaluates the effects, positive
and negative, for NHS Trusts of implementing new developments
in performance measurement and management,
and identifies important factors which facilitate or impede
change.
The study illustrates the value of structuration theory
as a sensitising device for understanding important contextual
factors which give rise to contradiction. It enables
examination of the inter-linking of structures of signification,
legitimation and domination, and how actors draw on
these sometimes to reinforce the status quo and sometimes
to effect change. The introduction of firstly star ratings
and secondly the annual health check are illustrative of an
effort to introduce anewshared language for assessing performance,
which could potentially enhance understanding
and co-operation between accountants, managers and clinicians.
Sanctioning of such change (legitimation) by all
actors was sought by combining in one performance management
system measures of both financial performance
and quality standards. New domination structures were
evident in the form of new regulatory bodies to oversee
performance and with power to allocate or withhold
resources. The most successful Trusts were rewarded with
more freedom and resources when they were granted
FT status, whereas the least successful were branded as
‘failing’, management was replaced and new leadership
imposed. These developments were legitimated in part by
the rhetoric of patient choice.
A performance management system incorporating
financial measures typically constitutes one of an organisation’s
major meaning systems, with managers having
shared understanding of accounting concepts. They are an
important foundation for sanctioning of managers’ actions,
legitimating the rights of some to hold others to account,
and are also crucial in relations of power and domination
(Roberts and Scapens, 1985). Structuration theory revealshow the shift from a focus on cost, which had characterised
the earlier introduction of NRCI, to a new focus on
income under PbR endeavoured to give a new legitimacy to
the language of accounting as a means of communication
about hospital activity. Accounting as the language of business
was increasingly prominent in praxis in some Trusts
as discussions between accountants and clinicians about
organisational activity came to require a more commercial
focus. While the shortcomings of NRCI information had
enabled some resistance on the part of clinicians to efforts
to exert more financial discipline over their practice, the
reality of PbR was becoming apparent to clinicians and
necessitating closer working relationships with accountants
to ensure maximisation of tariff income. The balance
of power appeared to have shifted in some institutions,
at least for the short-term, as clinicians acknowledged the
possible threat to their livelihood from possible cutting of
service provision in some hospitals if costs were too high
vis-à-vis tariff income.
Institutional theory is shown to offer potential for
understanding processes of change, as actors in specific
organisational settings deal with contradictions through
enactment of praxis, and how transformation of institutionally
– embedded practices does or does not occur.
Empirical analysis reveals how endeavours by actors to
overcome contradictions between more traditional understandings
of objectives of hospitals, and those engendered
as a result of new structures led to different outcomes
for different Trusts. Seo and Creed (2002) offer four
propositions for understanding how actors effect change,
highlighting four facets of institutional contradiction
which can result in actors mobilising for change to varying
degrees. In this study, considerable support was found
for their propositions. Perceived inefficiencies of institutionalised
practices in the running of the NHS, combined
with limited resources, constituted a contradiction that
provided an important initial impetus for change, and
was set in a broader political and economic context of
pressure to reform public s

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระดาษนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนวรรณคดีในทฤษฎีการพัฒนาและแสวงหาความเข้าใจการบัญชีบริหารในทางปฏิบัติ ผสมผสานข้อมูลเชิงลึกstructuration ทฤษฎีและทฤษฎีสถาบันเพื่อให้การวิเคราะห์องค์รวมของการเปลี่ยนแปลง กำหนดความจุให้เหมาะมาของความขัดแย้งที่ต้องเผชิญกับนักแสดงที่โครงสร้างการระดับ และเน้นบทบาทของการจัดการประสิทธิภาพระบบไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์อำนาจในการการดำเนินการระดับ ความขัดแย้งจุดโฟกัส และต่อสู้ผ่านของเรื่อง โดยองค์กรนักแสดงกระดาษเผยพัฒนาวิธีใหม่ในการทำงานระบบการจัดการที่ช่วยในการสร้างขื้นใหม่ทำความเข้าใจกิจกรรมองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้มันก่อให้เกิดความเข้าใจในการจัดการวิธีการบันทึกบัญชี โดยตรวจสอบผลกระทบของเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการ NHS ประเมินผล บวกและ ลบ สำหรับ NHS Trusts ของการพัฒนาใหม่ในการวัดประสิทธิภาพการทำงานและการจัดการและระบุถึงปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริม หรือเป็นอุปสรรคต่อการการเปลี่ยนแปลงการศึกษาแสดงให้เห็นถึงค่าของทฤษฎี structurationเป็นอุปกรณ์ sensitising เพื่อความเข้าใจที่สำคัญบริบทปัจจัยที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ช่วยให้การการตรวจสอบในระหว่างการเชื่อมโยงของโครงสร้างของ significationlegitimation และปกครอง และวิธีนักวาดบนบางครั้งการเสริมสร้างสภาพเหล่านี้ และบางครั้งการเปลี่ยนแปลงมีผล การแนะนำการจัดอันดับดาวครั้งแรกและประการที่สอง การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นตัวอย่างของการความพยายามในการแนะนำภาษา anewshared สำหรับการประเมินประสิทธิภาพซึ่งอาจจะเพิ่มความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างนักบัญชี ผู้จัดการ และแพทย์Sanctioning การ (legitimation) โดยทั้งหมดนักแสดงที่ถูกต้อง โดยรวมในการจัดการประสิทธิภาพการทำระบบการวัดของทั้งทางการเงินและมาตรฐานคุณภาพ โครงสร้างการปกครองใหม่ได้ในแบบของใหม่กำกับดูแลประสิทธิภาพการทำงานและ มีอำนาจในการจัดสรร หรือหักณที่จ่ายทรัพยากร การลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้รับรางวัลอิสรภาพและทรัพยากรเมื่อได้รับสถานะ FT ในขณะที่ประสบความสำเร็จอย่างน้อยถูกตราเป็น'ล้มเหลว' จัดการได้เป็นผู้นำแทน และใหม่กำหนด การพัฒนาเหล่านี้ถูก legitimated ในส่วนโดยสำนวนของผู้ป่วยมีประสิทธิภาพการจัดการระบบผสมผสานมาตรการทางการเงินโดยทั่วไปถือเป็นหนึ่งในองค์กรความหมายหลักระบบ ผู้จัดการที่มีความเข้าใจแนวคิดการบัญชีร่วมกัน พวกเขาจะมีรากฐานสำคัญสำหรับ sanctioning ของผู้จัดการการดำเนินการlegitimating สิทธิบางอย่างค้างไว้อื่น ๆ บัญชีและนอกจากนี้ความสัมพันธ์ของอำนาจและการปกครอง(โรเบิร์ตและ Scapens, 1985) Structuration ทฤษฎี revealshow การเปลี่ยนแปลงจากเน้นบนต้นทุน ซึ่งมีลักษณะแนะนำก่อนหน้านี้ของ NRCI การเน้นใหม่รายได้ภายใต้ PbR endeavoured ให้ความชอบธรรมใหม่เพื่อภาษาของบัญชีเป็นวิธีการสื่อสารเกี่ยวกับกิจกรรมของโรงพยาบาล บัญชีเป็นภาษาของธุรกิจไม่โดดเด่นมากในเรื่องในบางความเชื่อถือเป็นการสนทนาระหว่างนักบัญชีแพทย์เกี่ยวกับกิจกรรมองค์กรมาต้องพาณิชย์เพิ่มเติมโฟกัส ขณะที่มีข้อบกพร่องของข้อมูล NRCIเปิดใช้งานความต้านทานบางอย่างในส่วนของแพทย์กับความพยายามออกแรงวินัยทางการเงินเพิ่มเติมผ่านการฝึก การความเป็นจริงของ PbR ที่กลายเป็นปรากฏการแพทย์ และnecessitating ความสัมพันธ์ทำงานใกล้ชิดกับนักบัญชีให้ maximisation ภาษีรายได้ ยอดดุลพลังงานปรากฏให้ ได้เลื่อนขึ้นในบางสถาบันน้อยสำหรับระยะสั้น เป็นที่ยอมรับของแพทย์ภัยคุกคามชีวิตได้จากการตัดเป็นไปได้ของบริการสำรองในโรงพยาบาลบางแห่งถ้าต้นทุนสูงเกินไปรายได้จากภาษีศุลกากรข้อ--พิพาททฤษฎีสถาบันจะแสดงศักยภาพให้ความเข้าใจในกระบวนการของการเปลี่ยนแปลง ในเฉพาะการตั้งค่าองค์กรจัดการกับความขัดแย้งผ่านของเรื่อง และการเปลี่ยนแปลงของ institutionally-ฝังตัว หรือไม่เกิดขึ้นการวิเคราะห์เชิงประจักษ์แสดงให้เห็นว่า เป็นความพยายาม โดยนักแสดงเอาชนะความขัดแย้งระหว่างความเข้าใจดั้งเดิมวัตถุประสงค์ของโรงพยาบาล และผู้ engenderedเป็นผลมาจากโครงสร้างใหม่ที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันสำหรับการลงทุนที่แตกต่างกัน Seo และลัทธิ (2002) มี 4ข้อเสนอสำหรับการแสดงผลการเปลี่ยนแปลง การทำความเข้าใจเน้นแง่มุมทั้งสี่ของสถาบันลงในนักแสดงนำสำหรับการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันองศา พบมากในการสนับสนุนในการศึกษานี้สำหรับข้อเสนอของพวกเขา Institutionalised inefficiencies รับรู้ของแนวทางปฏิบัติในการทำงานของ NHS รวมกับทรัพยากรที่จำกัด constituted ความขัดแย้งที่สัทธิสำคัญเริ่มต้นสำหรับการเปลี่ยนแปลง และตั้งในบริบทที่กว้างขึ้นเป็นการเมือง และเศรษฐกิจของต้องมีการปฏิรูปสาธารณะ s

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระดาษนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปสู่วรรณกรรมในแง่
ของการพัฒนาทั้งด้านทฤษฎีและการเพิ่มขึ้นของความเข้าใจ
ของการจัดการบัญชีในทางปฏิบัติ มันรวมข้อมูลเชิงลึก
ของทฤษฎี structuration และทฤษฎีสถาบันเพื่อให้
การวิเคราะห์แบบองค์รวมของการเปลี่ยนแปลงให้กำลังการผลิตของพวกเขาที่จะเปิดเผย
ถึงที่มาของความขัดแย้งที่ต้องเผชิญกับนักแสดงที่โครงสร้าง
ระดับและเพื่อเน้นบทบาทของการจัดการผลการปฏิบัติงาน
ในระบบการไกล่เกลี่ยของความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่
ระดับการกระทำที่พวกเขาให้เป็นจุดโฟกัสสำหรับความขัดแย้งและการ
ต่อสู้ผ่านการตรากฎหมายของ Praxis โดยองค์กร
นักแสดง.
กระดาษแสดงให้เห็นว่าการพัฒนาใหม่ ๆ ในการทำงานของ
ระบบการจัดการที่ช่วยในการฟื้นฟู
ความเข้าใจในกิจกรรมขององค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้
จะก่อให้เกิดความเข้าใจในการบริหารจัดการ
การปฏิบัติทางบัญชีโดยการตรวจสอบผลกระทบของการ
เปลี่ยนแปลงที่สำคัญในพลุกพล่าน จะประเมินผลกระทบในเชิงบวก
และเชิงลบสำหรับ Trusts พลุกพล่านของการดำเนินการพัฒนาใหม่
ในการวัดประสิทธิภาพและการจัดการ
และระบุปัจจัยที่สำคัญที่อำนวยความสะดวกหรือเป็นอุปสรรคต่อ
การเปลี่ยนแปลง.
การศึกษาแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของทฤษฎี structuration
เป็นอุปกรณ์ไวสำหรับการทำความเข้าใจบริบทที่สำคัญ
ปัจจัยที่ ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งจะช่วยให้
ตรวจสอบการเชื่อมโยงระหว่างกันของโครงสร้างของความหมาย,
ความชอบธรรมและการครอบงำและวิธีการที่นักแสดงวาดบน
เหล่านี้บางครั้งจะเสริมสร้างสถานะเดิมและบางครั้ง
จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การแนะนำของประการแรกการจัดอันดับดาว
และประการที่สองการตรวจสุขภาพประจำปีเป็นตัวอย่างของ
ความพยายามที่จะแนะนำภาษา anewshared สำหรับการประเมินผลการปฏิบัติงาน
ซึ่งอาจจะเสริมสร้างความเข้าใจ
และความร่วมมือระหว่างนักบัญชี, ผู้จัดการและแพทย์.
อนุมัติการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว (บุตร) โดยทั้งหมด
นักแสดงที่ได้รับการขอโดยรวมในการจัดการประสิทธิภาพ
ระบบมาตรการทั้งประสิทธิภาพทางการเงิน
และคุณภาพมาตรฐาน โครงสร้างการปกครองใหม่
ที่เห็นได้ชัดในรูปแบบของหน่วยงานกำกับดูแลใหม่ในการกำกับดูแล
การดำเนินงานและมีอำนาจในการจัดสรรหรือระงับ
ทรัพยากร ไว้ใจความสำเร็จมากที่สุดจะได้รับรางวัลที่มี
เสรีภาพมากขึ้นและทรัพยากรที่เมื่อพวกเขาได้รับ
สถานะ FT, ในขณะที่ประสบความสำเร็จไม่น้อยกว่าถูกตราหน้าว่าเป็น
'ล้มเหลว' การจัดการถูกแทนที่และผู้นำคนใหม่
ที่กำหนด การพัฒนาเหล่านี้ได้รับความชอบธรรมในส่วนของ
สำนวนของทางเลือกของผู้ป่วย.
ระบบการจัดการประสิทธิภาพการทำงานที่ผสมผสาน
มาตรการทางการเงินมักจะถือเป็นหนึ่งในองค์กร
ระบบความหมายที่สำคัญกับผู้จัดการที่มี
ความเข้าใจในแนวคิดการบัญชีที่ใช้ร่วมกัน พวกเขาเป็น
รากฐานสำคัญสำหรับการอนุมัติของการกระทำผู้จัดการ '
ถูกต้องชอบธรรมสิทธิของบางอย่างที่จะถืออื่น ๆ เพื่อบัญชี
และนอกจากนี้ยังมีความสำคัญในความสัมพันธ์ของอำนาจและการปกครอง
(โรเบิร์ตและ Scapens, 1985) ทฤษฎี structuration revealshow เปลี่ยนจากการมุ่งเน้นไปที่ค่าใช้จ่ายซึ่งโดดเด่นที่
แนะนำก่อนหน้านี้ NRCI เพื่อโฟกัสใหม่บน
รายได้ภายใต้ PBR พยายามที่จะให้ถูกต้องตามกฎหมายใหม่ที่จะ
ใช้ภาษาของการบัญชีเป็นวิธีการสื่อสาร
เกี่ยวกับกิจกรรมของโรงพยาบาล บัญชีเป็นภาษาของธุรกิจที่
ประสบความสำเร็จมากขึ้นใน Praxis ใน Trusts บาง
การอภิปรายระหว่างบัญชีและแพทย์เกี่ยวกับ
กิจกรรมขององค์กรมาที่จะต้องใช้ในเชิงพาณิชย์มากขึ้น
โฟกัส ในขณะที่ข้อบกพร่องของข้อมูล NRCI ได้
เปิดใช้งานความต้านทานบางในส่วนของแพทย์ในการพยายาม
ที่จะออกแรงวินัยทางการเงินมากกว่าการปฏิบัติของพวกเขา
เป็นจริงของ PBR ได้กลายเป็นที่ชัดเจนให้กับแพทย์และ
ทั้งนี้สัมพันธ์ในการทำงานใกล้ชิดกับนักบัญชี
เพื่อให้แน่ใจว่าการเพิ่มของรายได้ภาษี ความสมดุล
ของอำนาจดูเหมือนจะขยับในสถาบันการศึกษาบาง
อย่างน้อยในระยะสั้นเป็นแพทย์ที่ได้รับการยอมรับ
เป็นภัยคุกคามที่เป็นไปได้ในการทำมาหากินของพวกเขาจากการตัดเป็นไปได้ของ
การให้บริการในโรงพยาบาลบางอย่างถ้าค่าใช้จ่ายสูงเกินไป
Vis-a-Vis รายได้ภาษี .
ทฤษฎีสถาบันแสดงให้เห็นว่ามีศักยภาพในการ
ทำความเข้าใจกระบวนการของการเปลี่ยนแปลงเป็นนักแสดงในเฉพาะ
การตั้งค่าขององค์กรจัดการกับความขัดแย้งผ่าน
การตรากฎหมายของ Praxis และวิธีการการเปลี่ยนแปลงของ institutionally
-. ฝังปฏิบัติที่จะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น
การวิเคราะห์เชิงประจักษ์ให้เห็นว่าความพยายามโดยนักแสดงที่จะ
เอาชนะความขัดแย้งระหว่างความเข้าใจแบบดั้งเดิมมากขึ้น
ในวัตถุประสงค์ของโรงพยาบาลและผู้ที่พรั่งพรูออกมา
เป็นผลมาจากโครงสร้างใหม่ที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
สำหรับเจ้าที่ที่แตกต่างกัน SEO และ Creed (2002) มีสี่
ข้อเสนอสำหรับการทำความเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงนักแสดงผล
การเน้นสี่แง่มุมของความขัดแย้งสถาบัน
ซึ่งได้ผลในการระดมนักแสดงสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่าง
องศา ในการศึกษานี้สนับสนุนมากก็พบว่า
สำหรับข้อเสนอของพวกเขา ความไร้ประสิทธิภาพการรับรู้ของสถาบัน
การปฏิบัติในการทำงานของพลุกพล่านรวม
ที่มีทรัพยากร จำกัด ประกอบขัดแย้งที่
ให้แรงผลักดันที่สำคัญสำหรับการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงและ
ตั้งอยู่ในบริบททางการเมืองและเศรษฐกิจที่กว้างขึ้นของ
ความดันในการปฏิรูปของประชาชน