Vitamin D3 deficiency is a global h

Vitamin D3 deficiency is a global health problem that has
considerable impact on health [1,2,3]. It is suggested that up to
50% of young adults suffer from vitamin D insufficiency
worldwide [4]. Vitamin D 3 promotes calcium and phosphate
absorption in the intestine, decreases the clearance of these
minerals from the kidney and is needed for bone mineralization
and bone growth [5,6]. In the last years, more attention has been
paid to vitamin D3 due to its multiple health benefits. More than
220 genes are identified that significantly changed in expression in
response to vitamin D3 [3], particularly those that are involved in
cell proliferation, cell differentiation, and immune function [5,7,8],
and vitamin D deficiency is associated with several diseases such as
cancer and autoimmune disorders [3,7,9]. Thus, the maintenance
of an adequate vitamin D3 status seems to provide a great
preventive health potential. The main source (80–90%) of vitamin
D 3 is the endogenous synthesis of vitamin D3 in the skin by
exposure to natural sunlight, whereas nutrition contributes to only
10–20% of the vitamin D 3 supply [6,10]. Failing outdoor activities,
seasonal variations, air pollution, pigmented skin, and the use of
sunscreens affect the efficacy of UVB radiation for cutaneous
vitamin D3 synthesis. Therefore, an increasing number of people
depend on dietary sources of vitamin D3 to prevent vitamin D3
deficiency or inadequacy. With the exception of fatty fish species,

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การขาดวิตามิน D3 เป็นปัญหาสุขภาพระดับโลกที่มี
ผลกระทบต่อสุขภาพ [1,2,3] มันก็บอกว่าได้ถึง
50% ของคนหนุ่มสาวที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากวิตามินดีไม่เพียงพอ
ทั่วโลก [4] วิตามิน D 3 ส่งเสริมแคลเซียมและฟอสเฟต
ดูดซึมในลำไส้ลดการกวาดล้างของเหล่านี้
แร่ธาตุจากไตและเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกระดูก
และการเจริญเติบโตของกระดูก [5,6] ในปีที่ผ่านมาความสนใจมากขึ้นได้รับการ
จ่ายเงินให้กับวิตามิน D3 เนื่องจากประโยชน์ต่อสุขภาพหลาย มากกว่า
220 ยีนจะมีการระบุที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในการแสดงออกใน
การตอบสนองต่อวิตามิน D3 [3] โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีส่วนร่วมใน
การเพิ่มจำนวนเซลล์แตกต่างของเซลล์และการทำงานของภูมิคุ้มกัน [5,7,8]
และการขาดวิตามินดีมีความเกี่ยวข้องกับ หลายโรคเช่น
โรคมะเร็งและโรคภูมิ [3,7,9] ดังนั้นการบำรุงรักษา
ที่มีสถานภาพเป็นวิตามิน D3 เพียงพอดูเหมือนว่าจะให้ดี
ที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพเชิงป้องกัน แหล่งที่มาหลัก (80-90%) ของวิตามิน
D 3 คือการสังเคราะห์ภายนอกของวิตามิน D3 ในผิวโดย
การสัมผัสกับแสงแดดธรรมชาติในขณะที่สารอาหารที่ก่อให้เกิดเพียง
10-20% ของวิตามิน D 3 Supply [6,10] ความล้มเหลวในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง,
การเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล, มลพิษทางอากาศ, เม็ดสีผิวและการใช้
ครีมกันแดดที่มีผลต่อการรับรู้ความสามารถของรังสี UVB สำหรับผิวหนัง
สังเคราะห์วิตามิน D3 ดังนั้นการเพิ่มจำนวนของคน
ขึ้นอยู่กับแหล่งอาหารของวิตามิน D3 เพื่อป้องกันไม่ให้วิตามิน D3
ขาดหรือไม่เพียงพอ ด้วยข้อยกเว้นของสายพันธุ์ปลาที่มีไขมันที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การขาดวิตามิน D3 เป็นปัญหาสุขภาพระดับโลกที่มีผลกระทบมากในสุขภาพ [ 1 , 2 , 3 ] มันชี้ให้เห็นว่า ขึ้น50 % ของผู้ใหญ่ที่ประสบจากวิตามินดีไม่เพียงพอทั่วโลก [ 1 ] วิตามิน D เสริมแคลเซียม และฟอสเฟต 3การดูดซึมในลำไส้ ลดช่องว่างเหล่านี้แร่ธาตุจากไตและเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ mineralization กระดูกการเติบโตของกระดูก และ [ 5 , 6 ] ใน ปี ล่าสุด ได้รับความสนใจมากขึ้นจ่ายวิตามิน D3 เนื่องจากมีหลายประโยชน์ต่อสุขภาพ มากกว่า220 ยีนจะระบุว่า มีการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกในการตอบสนองต่อวิตามิน D3 [ 3 ] โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีส่วนร่วมในเซลล์ proliferation การเปลี่ยนสภาพของเซลล์และระบบภูมิ [ 5,7,8 ]การขาดวิตามิน D และเกี่ยวข้องกับโรคต่าง ๆเช่นโรคมะเร็งและคลังเก็บสินค้า [ 3,7,9 ] ดังนั้น การบำรุงรักษาภาวะวิตามิน D3 ที่เพียงพอจะให้มากศักยภาพด้านสุขภาพเชิงป้องกัน แหล่งหลัก ( 80 - 90 % ) ของวิตามินD 3 เป็นโครงสร้างการสังเคราะห์ของวิตามิน D3 ในผิวหนังโดยการสัมผัสกับแสงแดดธรรมชาติและโภชนาการจัดสรรเท่านั้น10 – 20% ของวิตามินดี 3 จัดหา [ 6,10 ] ความล้มเหลวในกิจกรรมกลางแจ้งการเปลี่ยนแปลง , มลพิษทางอากาศ , ผิวสีตามฤดูกาลและการใช้ครีมกันแดดมีผลต่อประสิทธิภาพของรังสี UVB ผิวหนังD3 วิตามินสังเคราะห์ ดังนั้น การเพิ่มจำนวนของผู้คนขึ้นอยู่กับแหล่งอาหารของวิตามิน D3 วิตามิน D3 เพื่อป้องกันขาด หรือไม่มีประสิทธิภาพ ด้วยข้อยกเว้นของปลาไขมัน