The glory Hut Foundation ,which hel

The glory Hut Foundation ,which help provide care for HIV patients ,is calling on the help settle disputes between the foundation’s staff and chon Buri residents over a shelter for people with HIV.
Foundation chairwoman Kristhirak yesterday made her plea after resident of Lang Nern community, Moo 3 of tambon Nong Prue in Bang Lamung district of Chon Buri relaunched their opposition to the charity housing 30 HIV positive patients in its care in facility there.
Ms. Pornsawan said chairman of the community Wichien Werawan led the residents to put up posters and placards pressuring the charity to take the HIV patients out of the area by June 12.
She said Mr Wichien claimed most Lang Nern residents voted to expel the HIV patients and the foundation, s staff from the community when they held a referendum
Last December.
The Foundation had been told to move out of the community within six month.
Ms. Pornsawan said that shortly after learning the campaign had been relaunched, the foundation’s staff called a meeting and greet they would not move out of the community to live somewhere else. “Residents of Lang Nern community had no right to be invalid,” she said.
“Instead we need the government to help broker future talks between us and resident as quickly as possible. We will move the HIV patients out of the community when the Nong Prue municipality can find better accommodation for them.
“It must not be where the Nong Prue municipality proposed because it is located near a garbage dump site. We fear that a foul odour emanating from the site could effect the livelihoods of the patients and the rubbish could affect the livelihoods of the patients and the rubbits could cause local water supplies to be polluted.”
Ms. Pornsawan said the foundation had written to the government, the National Human Rights Commission (NHRC) and the Lawyears Council of Thailand (LCT) in the past six months.
The NHRC representative had travelled to the area to get first-hand information in the community . but the foundation had not heard of any solution by the NHRC, she said.
She said the charity was told to leave the community because residents claimed the presence of the HIV patients had caused accumulated garbage problems and waste water pollution.
However, she said the foundation has solved these problems by taking the rub-bish to a site out of the community every day and installing a sewage or wastewater treatment system inside the foundation area.
Mr. Wichien insisted the foundation must move its HIV patients out of the community in line with the results of the referendum.
“If the foundation still ignores residents, demands we will use extreme measures [to push the HIV patients out of our community],” he said without outlining what the measures would be.
But he said residents will not resort to violence to expel the HIV patients. He said the presence of the HIV patients was affecting land values and business. The charity, s facility was set up in the community about a year ago.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กลอรี่ฮัทมูลนิธิ ซึ่งช่วยให้การดูแลผู้ป่วยเอชไอวี โทรในวิธีใช้จ่ายข้อโต้แย้งระหว่างเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิและชลบุรีคนมากกว่าพักอาศัยสำหรับคนที่มีเอชไอวีมูลนิธิ chairwoman Kristhirak ทำวอนเธอเมื่อวานนี้หลังจากที่อาศัยของชุมชนเนินทองหลาง หมู่ที่ 3 ตำบลหนองปรือในบางละมุงอำเภอของชลบุรี relaunched ของพวกเขาต่อต้านการกุศลบ้าน 30 เอชไอวีบวกผู้ป่วยในการดูแลของในมีสิ่งอำนวยความสะดวกนางสาวพรสวรรค์กล่าวว่า ประธานชุมชน Werawan วิเชียรนำคนวางโปสเตอร์และ placards pressuring กุศลเพื่อพาผู้ป่วยเอชไอวีออกจากพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนเธอกล่าวว่า นายวิเชียรอ้างอาศัยอยู่หลังเนินส่วนใหญ่โหวตปล่อยผู้ป่วยเอชไอวี และมูลนิธิ s พนักงานจากชุมชนเดิมการลงประชามติ ธันวาคมล่าสุดมูลนิธิได้รับบอกจะย้ายออกจากชุมชนภายใน 6 เดือนนางสาวพรสวรรค์กล่าวว่า หลังจากเรียนรู้ที่มีการ relaunched การส่งเสริมการขาย เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเรียกประชุม และทักทายพวกเขาจะไม่ไปจากชุมชนบางแห่งอยู่บ้าง "ชาวชุมชนหลังเนินก็ไม่มีสิทธิที่จะไม่ถูกต้อง เธอกล่าว"แต่เราได้รัฐบาลเพื่อช่วยนายหน้าเจรจาในอนาคต ระหว่างเรา และอยู่ได้อย่างรวดเร็วที่สุด เราจะย้ายผู้ป่วยเอชไอวีจากชุมชนเมื่อเทศบาลหนองปรือสามารถค้นหาที่พักที่ดีสำหรับพวกเขา"มันต้องไม่ได้ที่เทศบาลตำบลหนองปรืออำเภอเสนอเนื่องจากอยู่ใกล้กับไซต์การถ่ายโอนข้อมูลขยะ เรากลัวว่า กลิ่นเหม็นที่เกิดจากเว็บไซต์สามารถผลกระทบวิถีชีวิตของผู้ป่วย และขยะอาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้ป่วย และ rubbits อาจทำให้เกิดอุปกรณ์น้ำท้องถิ่นจะสามารถเสีย"นางสาวพรสวรรค์กล่าวว่า มูลนิธิได้เขียนรัฐบาล สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม) และสภา Lawyears ของไทย (LCT) ใน 6 เดือนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กสมได้เดินทางไปในพื้นที่เพื่อรับข้อมูลแก่ชุมชน แต่มูลนิธิไม่ได้ยินการแก้ปัญหาใด ๆ โดยกสม เธอบอกเธอกล่าวว่า องค์กรการกุศลที่บอกจะออกจากชุมชน เพราะคนอ้างสิทธิของผู้ป่วยเอชไอวีได้ทำให้เกิดปัญหาขยะและน้ำเสียมลพิษอย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่า มูลนิธิมีแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยการถู-bish ไปจากชุมชนทุกวัน และติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียหรือน้ำเสียภายในบริเวณมูลนิธินายวิเชียรยืนยันพื้นฐานต้องย้ายผู้ป่วยเป็นเอชไอวีจากชุมชนโดยผลการลงประชามติ"ถ้าพื้นฐานยังละเว้นคน ความต้องการของเราจะใช้มาตรการมาก [เพื่อผลักดันผู้ป่วยเอชไอวีจากชุมชนของเรา]," เขากล่าวว่า ไม่ว่ามาตรการอะไรที่จะจัดเค้าร่างแต่เขากล่าวว่า คนจะหันไปเพื่อขับไล่ผู้ป่วยเอชไอวี เขากล่าวว่า สถานะของผู้ป่วยเอชไอวีมีผลต่อค่าที่ดินและธุรกิจ กุศล สินเชื่อ s ถูกตั้งค่าไว้ในชุมชนเกี่ยวกับปีที่ผ่านมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พระสิริฮัทมูลนิธิซึ่งช่วยให้การดูแลผู้ป่วยเอชไอวีเรียกร้องให้ความช่วยเหลือระงับข้อพิพาทระหว่างเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิและประชาชนชลบุรีมากกว่าที่พักพิงสำหรับคนที่มีเอชไอวี.
ประธานมูลนิธิ Kristhirak เมื่อวานนี้ทำให้ข้ออ้างของเธอหลังจากที่มีถิ่นที่อยู่ของชุมชนแลงเนิน, หมู่ที่ 3 ตำบลหนองปรือในย่านบางละมุงชลบุรี relaunched ฝ่ายค้านของพวกเขาเพื่อที่อยู่อาศัยการกุศล 30 ผู้ป่วยเอชไอวีบวกในการดูแลในสิ่งอำนวยความสะดวกมี.
นางสาว พรสวรรค์กล่าวว่าประธานชุมชนวิเชียรวีระนำชาวบ้านที่จะนำขึ้นโปสเตอร์และใบปลิวกดดันการกุศลที่จะมีผู้ป่วยเอชไอวีออกจากพื้นที่โดย 12 มิถุนายน
เธอกล่าวว่านายวิเชียรอ้างว่าอาศัยอยู่ในแลงเนินการโหวตมากที่สุดที่จะขับไล่ผู้ป่วยเอชไอวีและ มูลนิธิพนักงาน s จากชุมชนที่จัดขึ้นเมื่อพวกเขาลงประชามติ
เมื่อเดือนธันวาคม.
มูลนิธิได้รับการบอกว่าจะย้ายออกจากชุมชนภายในหกเดือน.
นางสาว พรสวรรค์กล่าวว่าการเรียนรู้ไม่นานหลังจากที่แคมเปญที่ได้รับการ relaunched พนักงานของมูลนิธิเรียกประชุมและทักทายพวกเขาจะไม่ย้ายออกจากชุมชนไปอาศัยอยู่ที่อื่น "ที่อาศัยอยู่ในชุมชนหลังสวนเนินมีสิทธิที่จะไม่ถูกต้องไม่มี" เธอกล่าว.
"แต่เราต้องการรัฐบาลที่จะช่วยให้นายหน้าการเจรจาในอนาคตระหว่างเราและมีถิ่นที่อยู่ให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เราจะย้ายผู้ป่วยเอชไอวีจากชุมชนเมื่อเทศบาลหนองปรือสามารถหาที่พักที่ดีสำหรับพวกเขา.
"มันจะต้องไม่เป็นที่เทศบาลเมืองหนองปรือเสนอเพราะมันตั้งอยู่ใกล้กับที่ทิ้งขยะ เรากลัวว่ากลิ่นเหม็นเล็ดลอดออกมาจากเว็บไซต์ที่อาจมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของผู้ป่วยและขยะอาจมีผลต่อการดำรงชีวิตของผู้ป่วยและ rubbits อาจก่อให้เกิดแหล่งน้ำในท้องถิ่นจะได้รับการปนเปื้อน. "
นางสาว พรสวรรค์กล่าวว่ามูลนิธิได้เขียนถึงรัฐบาลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม) และ Lawyears สภาแห่งประเทศไทย (LCT) ในอดีตที่ผ่านมาหกเดือน.
ตัวแทนกสมได้เดินทางไปยังพื้นที่ที่จะได้รับข้อมูลมือแรกในชุมชน . แต่รากฐานที่ไม่เคยได้ยินของการแก้ปัญหาใด ๆ โดยกสมที่เธอบอกว่า.
เธอกล่าวว่าองค์กรการกุศลที่ได้รับการบอกว่าจะออกจากที่อาศัยอยู่ในชุมชนเพราะอ้างว่าการปรากฏตัวของผู้ป่วยเอชไอวีได้ก่อให้เกิดการสะสมปัญหาขยะและมลพิษทางน้ำเสีย.
อย่างไรก็ตามเธอกล่าวว่า รากฐานที่มีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยการถู bish ออกไปยังเว็บไซต์ของชุมชนทุกวันและการติดตั้งน้ำเสียหรือระบบบำบัดน้ำเสียภายในพื้นที่มูลนิธิ.
นาย วิเชียรยืนยันรากฐานที่จะต้องย้ายผู้ป่วยเอชไอวีออกจากชุมชนที่สอดคล้องกับผลของการลงประชามติ.
"ถ้ารากฐานที่ยังคงไม่สนใจประชาชนเรียกร้องเราจะใช้มาตรการที่รุนแรง [ที่จะผลักดันผู้ป่วยเอชไอวีจากชุมชนของเรา]" เขา กล่าวโดยไม่มีการสรุปสิ่งที่มาตรการจะเป็น.
แต่เขากล่าวว่าผู้อยู่อาศัยจะไม่หันไปใช้ความรุนแรงที่จะขับไล่ผู้ป่วยเอชไอวี เขากล่าวว่าการปรากฏตัวของผู้ป่วยเอชไอวีได้รับผลกระทบต่อค่าที่ดินและธุรกิจ การกุศลสิ่งอำนวยความสะดวกของถูกจัดตั้งขึ้นในชุมชนเกี่ยวกับปีที่ผ่านมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มูลนิธิสิริท ซึ่งช่วยให้การดูแลผู้ป่วยเอดส์ เรียกร้องให้ช่วยระงับข้อพิพาทระหว่างเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ และ ชลบุรี ชาวบ้านกว่าที่พักอาศัยสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี ประธานมูลนิธิ kristhirak
เมื่อวานทำให้ข้ออ้างของเธอหลังจากที่มีถิ่นที่อยู่ของชุมชนเนินแลง ,หมู่ 3 ตำบลหนองปรืออำเภอบางละมุงจังหวัดชลบุรีใน relaunched ฝ่ายค้านของพวกเขาเพื่อที่อยู่อาศัยการกุศล 30 จำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอดส์ในการดูแลในสถานที่มี .
คุณพรสวรรค์กล่าวว่าประธานของชุมชนวิเชียรนพคุณ นำประชาชนวางโปสเตอร์และใบปลิวกดดันองค์กรการกุศลเพื่อนำผู้ติดเชื้อผู้ป่วยออกจากพื้นที่ โดย 12
Juneเธอบอกว่า นายวิเชียร อ้างว่าชาวบ้านเนินแลงส่วนใหญ่ลงมติขับไล่ผู้ติดเชื้อผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิของชุมชนเมื่อพวกเขาถือประชามติ

เมื่อธันวาคม มูลนิธิได้รับการบอกที่จะย้ายออกจากชุมชนภายในหกเดือน .
คุณพรสวรรค์ กล่าวว่า หลังจากได้รับการ relaunched การเรียนรู้แคมเปญ ,เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ เรียกประชุม และทักทายพวกเขาจะไม่ย้ายออกจากชุมชนไปอยู่ที่อื่น " ชาวชุมชนลางเนินไม่มีสิทธิที่จะไม่ถูกต้อง , " เธอกล่าว .
" แทน เราต้องการรัฐบาลที่จะช่วยให้โบรกเกอร์ในอนาคตการเจรจาระหว่างสหรัฐและมีถิ่นที่อยู่ได้โดยเร็วที่สุดเราจะย้ายผู้ติดเชื้อผู้ป่วยออกจากชุมชน เทศบาลหนองปรือ เมื่อสามารถหาที่พักที่ดีกว่าสำหรับพวกเขา .
" มันคงไม่ใช่ที่หนองปรือเขตเสนอ เพราะตั้งอยู่ใกล้ที่ทิ้งขยะของเว็บไซต์เรากลัวว่ากลิ่นเหม็นเล็ดลอดออกมาจากเว็บไซต์ที่อาจมีผลต่อชีวิตของผู้ป่วย และขยะที่อาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้ป่วยและ rubbits อาจก่อให้เกิดแหล่งน้ำท้องถิ่นที่จะเสีย "
คุณพรสวรรค์ กล่าวว่า มูลนิธิ ได้เขียนถึงรัฐบาล คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ( NHRC ) และ lawyears สภาไทย ชาวไทยเชื้อสายในหกเดือนที่ผ่านมา
NHRC ผู้แทนได้เดินทางไปยังพื้นที่ได้รับข้อมูลมือแรกในชุมชน แต่พื้นฐานไม่ได้ยินของการแก้ปัญหาใด ๆโดย NHRC , เธอกล่าว .
เธอบอกว่าการกุศลบอกให้ออกจากชุมชน เพราะชาวบ้านอ้างว่าตนของผู้ป่วยเอดส์จากปัญหาขยะและของเสียสะสมมลพิษน้ำ .
อย่างไรก็ตามเธอกล่าวว่า มูลนิธิได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยการถูบิชไปยังไซต์ออกชุมชนทุกวัน และติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสีย หรือในบริเวณมูลนิธิ .
คุณวิเชียรยืนยันมูลนิธิต้องย้ายของเอชไอวีผู้ป่วยออกจากชุมชน สอดคล้องกับผลของประชามติ .
" ถ้ามูลนิธิ ยังไม่สนใจชาวบ้านความต้องการที่เราจะใช้มาตรการมาก [ ดันป่วย HIV ออกจาก ] ชุมชนของเรา , " เขากล่าวว่า โดยสรุปแล้ว มาตรการจะ .
แต่เขาบอกว่า ประชาชนจะไม่ใช้ความรุนแรง เพื่อขับไล่ผู้ติดเชื้อผู้ป่วย เขาบอกว่า สถานะของผู้ติดเชื้อผู้ป่วยมีผลต่อค่าที่ดิน และธุรกิจ การกุศล , เป็นสถานที่ตั้งในชุมชนเกี่ยวกับปีที่ผ่านมา