เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน ที่

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ผมได้เข้าร่วมวิ่งงาน standard chartered bangkok marathon 2014 ซึ่งรายการนี้ผมลงวิ่งในระยะทาง 21.100 km. โดยเป็นการวิ่งฮาร์ฟมาราธอนครั้งที่สองของผม เวลา 02.00 น. ผมตื่นมาวอร์มร่างกายและอาบน้ำหลังจากนั้นผมก็ออกเดินทางไปยังสถานที่จัดงานที่สนามหลวง ซึ่งผมมีเวลาเหลืออีก 40 นาทีก่อนที่จะถึงเวลาปล่อยตัวเวลา 04.00 น. ณ ตอนนั้นผมตื่นเต้นมากเพราะในภาพที่ผมเห็นคือมีคนเกินกว่า 1,000 คนที่กำลังวอร์ม ร่างกายให้พร้อมสำหรับการวิ่ง ผมจึงไม่รอช้ารีบเดินไปยังจุดรับฝากของ โดยระหว่างทางนั้นผมได้เจอคนรู้จักหลายคนที่วิ่งในประเภทเดียวกันกับผม ซึ่งก็ได้พูดคุยตามประสานักวิ่งด้วยกัน เหลือเวลาอีก 10 นาที ก่อนปล่อยตัว ผมรู้สึกหวั่นใจกับเป้าหมายในการวิ่งครั้งนี้พอสมควร เพราะเป้าหมายของผมคือวิ่ง 21.100 km. ต้องทำเวลาให้ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง โดยสนามแรกที่ผมวิ่งในระยะทางเดียวกัน ผมทำเวลาไป 2 ชั่วโมง 3 นาที ซึ่งเส้นทางที่วิ่งนั้นเป็นทางเรียบภูเขา แต่ในวันนั้นเส้นทางมันต่างกันยังไงแล้วมันต้องทำได้อยู่แล้ว ผมจึงทำสมาธิอยู่พักใหญ่เพื่อให้จิตใจพร้อมที่จะพิชิตเป้าหมายให้ได้ พอถึงเวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่ก็ส่งสัญญาณปล่อย ผมวิ่งทะยานออกไปโดยไม่ลังเล ในช่วง 10 km. แรก ผมทำเวลาไป 58 นาที ซึ่งเป็นไปตามที่คาดหมายไว้ และเหลือระยะทางอีก 11.100 km. กับเวลาอีก 1 ชั่วโมง 2 นาที แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างระยะทางที่ 16 km. ผมสะดุดล้มซึ่งสาเหตุเกิดจากพื้นถนนในช่วงนั้นมีฝาท่อระบายน้ำที่ต่ำกว่าพื้นถนนจึงทำให้ผมสะดุดเข้ากับพื้นถนน ผมเสียเวลาในการปฐมพยาบาลไปเกือบ 15 นาที ซึ่งตอนนั้นผมใช้เวลาไปแล้ว 1 ชั่วโมง 24 นาที บวกกับเวลาในการปฐมพยาบาลอีก 15 นาที เท่ากับว่าผมใช้เวลาไปแล้ว 1 ชั่วโมง 39 นาที ทำให้ผมเครียดมาก เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 21 นาที กับระยะทางอีก 5.1 km. ที่จะถึงเส้นชัย หลังจากปฐมพยาบาลเสร็จเรียบร้อยผมก็ออกวิ่งต่อทันที เพราะคิดว่ายังไงต้องทำให้ได้ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บในตอนนั้นบวกกับอาการล้าของร่างกาย ทำให้ผมไม่สามารถทำเวลาให้ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้ โดยเวลาที่ทำได้คือ 2 ชั่วโมง 14 นาที ซึ่งผมเองก็พอใจแล้วกับเวลาที่ทำได้ แต่ก็ทำให้ผมต้องหยุดวิ่งไปเกือบสองอาทิตย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมาผมได้เข้าร่วมวิ่งงานมาตรฐานดชาร์เตอร์ดกรุงเทพมาราธอน 2014 ซึ่งรายการนี้ผมลงวิ่งในระยะทาง 21.100 กม.โดยเป็นการวิ่งฮาร์ฟมาราธอนครั้งที่สองของผมเวลา 02.00 น.ผมตื่นมาวอร์มร่างกายและอาบน้ำหลังจากนั้นผมก็ออกเดินทางไปยังสถานที่จัดงานที่สนามหลวงซึ่งผมมีเวลาเหลืออีก 40 นาทีก่อนที่จะถึงเวลาปล่อยตัวเวลา 04.00 น.ณตอนนั้นผมตื่นเต้นมากเพราะในภาพที่ผมเห็นคือมีคนเกินกว่า 1000 คนที่กำลังวอร์มร่างกายให้พร้อมสำหรับการวิ่งผมจึงไม่รอช้ารีบเดินไปยังจุดรับฝากของโดยระหว่างทางนั้นผมได้เจอคนรู้จักหลายคนที่วิ่งในประเภทเดียวกันกับผมซึ่งก็ได้พูดคุยตามประสานักวิ่งด้วยกันเหลือเวลาอีก 10 นาทีก่อนปล่อยตัวผมรู้สึกหวั่นใจกับเป้าหมายในการวิ่งครั้งนี้พอสมควรเพราะเป้าหมายของผมคือวิ่ง 21.100 กม.ต้องทำเวลาให้ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงโดยสนามแรกที่ผมวิ่งในระยะทางเดียวกันผมทำเวลาไป 2 ชั่วโมง 3 นาทีซึ่งเส้นทางที่วิ่งนั้นเป็นทางเรียบภูเขาแต่ในวันนั้นเส้นทางมันต่างกันยังไงแล้วมันต้องทำได้อยู่แล้วผมจึงทำสมาธิอยู่พักใหญ่เพื่อให้จิตใจพร้อมที่จะพิชิตเป้าหมายให้ได้พอถึงเวลา 04.00 น.เจ้าหน้าที่ก็ส่งสัญญาณปล่อยผมวิ่งทะยานออกไปโดยไม่ลังเลในช่วง 10 กม.แรกผมทำเวลาไป 58 นาทีซึ่งเป็นไปตามที่คาดหมายไว้และเหลือระยะทางอีกกม. 11.100 กับเวลาอีก 1 ชั่วโมง 2 นาทีแต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างระยะทางที่กม. 16 ผมสะดุดล้มซึ่งสาเหตุเกิดจากพื้นถนนในช่วงนั้นมีฝาท่อระบายน้ำที่ต่ำกว่าพื้นถนนจึงทำให้ผมสะดุดเข้ากับพื้นถนนผมเสียเวลาในการปฐมพยาบาลไปเกือบ 15 นาทีซึ่งตอนนั้นผมใช้เวลาไปแล้ว 1 ชั่วโมง 24 นาทีบวกกับเวลาในการปฐมพยาบาลอีก 15 นาทีเท่ากับว่าผมใช้เวลาไปแล้ว 1 ชั่วโมง 39 นาทีทำให้ผมเครียดมากเพราะเหลือเวลาอีกแค่ 21 นาทีกับระยะทางอีก 5.1 กม.ที่จะถึงเส้นชัยหลังจากปฐมพยาบาลเสร็จเรียบร้อยผมก็ออกวิ่งต่อทันทีเพราะคิดว่ายังไงต้องทำให้ได้แต่ด้วยอาการบาดเจ็บในตอนนั้นบวกกับอาการล้าของร่างกายทำให้ผมไม่สามารถทำเวลาให้ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้โดยเวลาที่ทำได้คือ 2 ชั่วโมง 14 นาทีซึ่งผมเองก็พอใจแล้วกับเวลาที่ทำได้แต่ก็ทำให้ผมต้องหยุดวิ่งไปเกือบสองอาทิตย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมาผมได้เข้าร่วมวิ่งงานกทม. สแตนดาร์ดชาร์เตอร์มาราธอน 2014 ซึ่งรายการนี​​้ผมลงวิ่งในระยะทาง 21.100 กม. เวลา 02.00 น ซึ่งผมมีเวลาเหลืออีก 40 นาทีก่อนที่จะถึงเวลาปล่อยตัวเวลา 04.00 น ณ 1,000 คนที่กำลังวอร์มร่างกายให้พร้อมสำหรับการวิ่ง เหลือเวลาอีก 10 นาทีก่อนปล่อยตัว เพราะเป้าหมายของผมคือวิ่ง 21.100 กม. ต้องทำเวลาให้ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ผมทำเวลาไป 2 ชั่วโมง 3 นาที พอถึงเวลา 04.00 น เจ้าหน้าที่ก็ส่งสัญญาณปล่อยผมวิ่งทะยานออกไปโดยไม่ลังเลในช่วง 10 กม แรกผมทำเวลาไป 58 นาทีซึ่งเป็นไปตามที่คาดหมายไว้และเหลือระยะทางอีก 11.100 กม. กับเวลาอีก 1 ชั่วโมง 2 นาที 16 กม. ผมเสียเวลาในการปฐมพยาบาลไปเกือบ 15 นาทีซึ่งตอนนั้นผมใช้เวลาไปแล้ว 1 ชั่วโมง 24 นาทีบวกกับเวลาในการปฐมพยาบาลอีก 15 นาทีเท่ากับว่าผมใช้เวลาไปแล้ว 1 ชั่วโมง 39 นาทีทำให้ผมเครียดมากเพราะเหลือเวลาอีก แค่ 21 นาทีกับระยะทางอีก 5.1 กม. ที่จะถึงเส้นชัย เพราะคิดว่ายังไงต้องทำให้ได้ ทำให้ผมไม่สามารถทำเวลาให้ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้โดยเวลาที่ทำได้คือ 2 ชั่วโมง 14 นาที

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมาผมได้เข้าร่วมวิ่งงานสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดกรุงเทพมาราธอนปี 2014 ซึ่งรายการนี้ผมลงวิ่งในระยะทาง 21.100 กม. โดยเป็นการวิ่งฮาร์ฟมาราธอนครั้งที่สองของผมเวลา 14.00 น .ผมตื่นมาวอร์มร่างกายและอาบน้ำหลังจากนั้นผมก็ออกเดินทางไปยังสถานที่จัดงานที่สนามหลวงซึ่งผมมีเวลาเหลืออีก 40 นาทีก่อนที่จะถึงเวลาปล่อยตัวเวลา 04.00 น .ณตอนนั้นผมตื่นเต้นมากเพราะในภาพที่ผมเห็นคือมีคนเกินกว่า 1000 คนที่กำลังวอร์มร่างกายให้พร้อมสำหรับการวิ่งผมจึงไม่รอช้ารีบเดินไปยังจุดรับฝากของโดยระหว่างทางนั้นผมได้เจอคนรู้จักหลายคนที่วิ่งในประเภทเดียวกันกับผมซึ่งก็ได้พูดคุยตามประสานักวิ่งด้วยกัน10 นาทีก่อนปล่อยตัวผมรู้สึกหวั่นใจกับเป้าหมายในการวิ่งครั้งนี้พอสมควรเพราะเป้าหมายของผมคือวิ่ง 21100 กิโลเมตรต้องทำเวลาให้ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงโดยสนามแรกที่ผมวิ่งในระยะทางเดียวกันผมทำเวลาไป 2 ชั่วโมง 3 นาทีซึ่งเส้นทางที่วิ่งนั้นเป็นทางเรียบภูเขาแต่ในวันนั้นเส้นทางมันต่างกันยังไงแล้วมันต้องทำได้อยู่แล้วพอถึงเวลา 0400 น . เจ้าหน้าที่ก็ส่งสัญญาณปล่อยผมวิ่งทะยานออกไปโดยไม่ลังเล said studies 10 กิโลเมตร แรกผมทำเวลาไป 58 นาทีซึ่งเป็นไปตามที่คาดหมายไว้และเหลือระยะทางอีก 11.100 kmกับเวลาอีก 1 ชั่วโมง 2 นาทีแต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างระยะทางที่ 16 กิโลเมตรผมสะดุดล้มซึ่งสาเหตุเกิดจากพื้นถนนในช่วงนั้นมีฝาท่อระบายน้ำที่ต่ำกว่าพื้นถนนจึงทำให้ผมสะดุดเข้ากับพื้นถนนผมเสียเวลาในการปฐมพยาบาลไปเกือบ 15 นาทีซึ่งตอนนั้นผมใช้เวลาไปแล้ว 1 ชั่วโมง 24 นาที15 นาทีเท่ากับว่าผมใช้เวลาไปแล้ว 1 ชั่วโมง 39 นาทีทำให้ผมเครียดมากเพราะเหลือเวลาอีกแค่ 21 นาทีกับระยะทางอีก 51 กิโลเมตรที่จะถึงเส้นชัยหลังจากปฐมพยาบาลเสร็จเรียบร้อยผมก็ออกวิ่งต่อทันทีเพราะคิดว่ายังไงต้องทำให้ได้แต่ด้วยอาการบาดเจ็บในตอนนั้นบวกกับอาการล้าของร่างกายทำให้ผมไม่สามารถทำเวลาให้ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้2 ชั่วโมง 14 นาทีซึ่งผมเองก็พอใจแล้วกับเวลาที่ทำได้แต่ก็ทำให้ผมต้องหยุดวิ่งไปเกือบสองอาทิตย์