Albert BanduraStanford UniversityTh

Albert Bandura
Stanford University
The present article presents an integrative theoretical framework to explain
and to predict psychological changes achieved by different modes of treatment.
This theory states that psychological procedures, whatever their form, alter the
level and strength of self-efficacy. It is hypothesized that expectations of personal
efficacy determine whether coping behavior will be initiated, how much
effort will be expended, and how long it will be sustained in the face of obstacles
and aversive experiences. Persistence in activities that are subjectively
threatening but in fact relatively safe produces, through experiences of mastery,
further enhancement of self-efficacy and corresponding reductions in defensive
behavior. In the proposed model, expectations of personal efficacy are derived
from four principal sources of information: performance accomplishments,
vicarious experience, verbal persuasion, and physiological states. The more dependable
the experiential sources, the greater are the changes in perceived selfefficacy.
A number of factors are identified as influencing the cognitive processing
of efficacy information arising from enactive, vicarious, exhortative, and emotive
sources. The differential power of diverse therapeutic procedures is analyzed in
terms of the postulated cognitive mechanism of operation. Findings are reported
from microanalyses of enactive, vicarious, and emotive modes of treatment that
support the hypothesized relationship between perceived self-efficacy and behavioral
changes. Possible directions for further research are discussed

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Albert Banduraมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดบทความนำเสนอนำเสนอเป็นกรอบทฤษฎีแบบบูรณาการเพื่ออธิบายและการทำนายการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจสำเร็จ โดยรักษารูปแบบต่าง ๆทฤษฎีนี้ระบุว่า จิตวิทยาขั้นตอน สิ่งของแบบฟอร์ม เปลี่ยนระดับความแข็งของตนเองประสิทธิภาพ มีการตั้งสมมติฐานว่าที่ความคาดหวังของบุคคลประสิทธิภาพกำหนดว่า พฤติกรรมเผชิญเริ่มต้น จำนวนจะใช้ความพยายาม และระยะจะยั่งยืนหน้าอุปสรรคและประสบการณ์ aversive มีอยู่ในกิจกรรมที่ subjectivelyคุกคามแต่ในความเป็นจริงค่อนข้างปลอดภัยผลิต ผ่านประสบการณ์เป็นครูการเพิ่มประสิทธิภาพของการลด ประสิทธิภาพตนเอง และสอดคล้องกันในการตั้งรับลักษณะการทำงาน ได้รับความคาดหวังของบุคคลประสิทธิภาพในรูปแบบการนำเสนอจากสี่หลักแหล่งข้อมูล: ประสิทธิภาพการทำงานสำเร็จประสบการณ์กิยามะฮ์ จูงใจวาจา และอเมริกาสรีรวิทยา เชื่อถือได้มากขึ้นแหล่งผ่าน ยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงใน selfefficacy รับรู้ระบุเป็นการประมวลผลที่รับรู้มีอิทธิพลต่อปัจจัยข้อมูลประสิทธิภาพเกิดจาก enactive กิยามะฮ์ exhortative และมากแหล่งที่มา พลังงานส่วนที่แตกต่างของขั้นตอนการรักษาที่หลากหลายเป็นวิเคราะห์ในเงื่อนไขการรับรู้กลไก postulated การ รายงานการค้นพบจาก microanalyses ของ enactive กิยามะฮ์ และโดยมากวิธีการรักษาที่สนับสนุนความสัมพันธ์ค่า ประสิทธิภาพตนเองรับรู้ และพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลง มีการกล่าวถึงทิศทางเป็นไปได้สำหรับการวิจัยเพิ่มเติม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อัลเบิร์บันดูระ
Stanford University
บทความปัจจุบันนำเสนอกรอบทฤษฎีแบบบูรณาการที่จะอธิบาย
และทำนายการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจประสบความสำเร็จโดยโหมดที่แตกต่างของการรักษา.
ทฤษฎีนี้ระบุว่าวิธีการทางจิตวิทยารูปแบบใดของพวกเขาเปลี่ยนแปลง
ระดับและความแข็งแรงของการรับรู้ความสามารถตนเอง มันคือการตั้งสมมติฐานว่าการคาดการณ์ของใช้ส่วนบุคคล
การรับรู้ความสามารถตรวจสอบว่าพฤติกรรมการเผชิญความเครียดจะเริ่มต้นเท่าใด
ความพยายามที่จะมีการใช้จ่ายและระยะเวลาที่จะได้รับการอย่างต่อเนื่องในการเผชิญกับอุปสรรค
และประสบการณ์ aversive ความคงทนในการจัดกิจกรรมที่มีจิตใจ
ขู่ แต่ในความเป็นจริงค่อนข้างปลอดภัยผลิตผ่านประสบการณ์ของการเรียนรู้,
การเพิ่มประสิทธิภาพต่อการรับรู้ความสามารถของตนเองและการลดที่สอดคล้องกันในการป้องกัน
พฤติกรรม ในรูปแบบที่นำเสนอความคาดหวังของการรับรู้ความสามารถส่วนบุคคลที่จะได้มา
จากแหล่งที่สี่ที่สำคัญของข้อมูล: ความสำเร็จของการปฏิบัติงาน
ประสบการณ์ชะลอชักชวนด้วยวาจาและรัฐทางสรีรวิทยา เชื่อถือมากขึ้น
แหล่งที่มาจากประสบการณ์ที่มากขึ้นมีการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้สมรรถนะแห่งตนหลัง.
จำนวนของปัจจัยที่มีการระบุว่าเป็นที่มีอิทธิพลต่อการประมวลผลองค์ความรู้
ของข้อมูลที่เกิดจากการรับรู้ความสามารถ Enactive, ชะลอ, exhortative และอารมณ์
แหล่งที่มา อำนาจความแตกต่างของวิธีการรักษาโรคที่มีความหลากหลายมีการวิเคราะห์ใน
แง่ของความรู้ความเข้าใจกลไกการตั้งสมมติฐานของการดำเนินงาน จะมีการรายงานผลการวิจัย
จาก microanalyses ของ Enactive, ชะลอและโหมดอารมณ์ของการรักษาที่
สนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างสมมติฐานรับรู้ความสามารถของตนเองและพฤติกรรม
การเปลี่ยนแปลง ทิศทางที่เป็นไปได้สำหรับการวิจัยต่อไปจะกล่าวถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อัลเบิร์ตแบนดูร่า

บทความมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดปัจจุบัน ที่มีการบูรณาการกรอบทฤษฎีเพื่ออธิบายและทำนายการเปลี่ยนแปลง
จิตได้โดยโหมดที่แตกต่างกันของการรักษา ระบุว่า กระบวนการทางจิตวิทยา
ทฤษฎีนี้ ไม่ว่าแบบ เปลี่ยน
ระดับและความแข็งแรงของตนเอง . คือ ความคาดหวังของบุคคล
ประสิทธิภาพ ตรวจสอบว่า พฤติกรรมการเผชิญปัญหาจะเริ่มต้นความพยายามแค่ไหน
จะใช้จ่าย และนานก็จะได้รับในการเผชิญกับอุปสรรค
และประสบการณ์ aversive . คงอยู่ในกิจกรรมที่จิตใจ
ขู่แต่ในความเป็นจริงค่อนข้างปลอดภัย ผลิต ผ่านประสบการณ์ของรอบรู้
เพิ่มเติมเพิ่มประสิทธิภาพของตนเองและพฤติกรรมที่สอดคล้องกันซึ่งรับ

ในแบบจำลอง , ความคาดหวังของประสิทธิภาพส่วนบุคคลได้มาจาก 4 แหล่งหลักของข้อมูล

: ความสำเร็จ , ประสบการณ์ , การชักชวนด้วยวาจาอ้อมและรัฐทางสรีรวิทยา ต่อเพิ่มเติม
แหล่งประสบการณ์ ยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ selfefficacy .
มีหลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกระบวนการคิด
ระบุประสิทธิภาพของข้อมูลที่เกิดจากการอ้อม exhortative , และแหล่งอารมณ์

ค่าพลังของขั้นตอนการรักษามีการใช้ในแง่ของการคิดค้น
กลไกการดําเนินการ ข้อมูลจากการรายงาน
microanalyses ของอ้อมและอารมณ์ , โหมดของการรักษาที่
สนับสนุนสมมติฐานความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความสามารถของตนเองและพฤติกรรมเปลี่ยนไป

ทิศทางที่เป็นไปได้สำหรับการวิจัยต่อไปจะกล่าวถึง