Growth variables such as total biom

Growth variables such as total biomass and relative growth rate
were not modified by soil compaction or by soil type (Table 2).
In general, most of the growth and morphology variables showed
a significant interaction between soil compaction and soil type,
which means that the effect of soil compaction varies depending
on soil type. Specific leaf area, leaf mass ratio and leaf area ratio
showed an increase with bulk density in the richer soil (loam soil,
type I) (Table 2). However, the same variables showed a decrease
with soil compaction in the poorer soil (sandy-loam soil, type II).
Root mass ratio was affected by soil type with a significant interaction
with bulk density due to a different response depending on the
soil type. For sandy-loam soil, bulk density produced a significant
increase in root mass ratio, whereas in loam soil there was no effect
of bulk density (Table 2). The ratio of root length to plant biomass
(root length ratio, RLR) was negatively affected by bulk density,
but, also, soil type showed a significant interaction with bulk density.
This is because, in loam soil, RLR was negatively affected by
compaction while in sandy-loam it was not significantly affected
(Table 2).
Chemical composition of some tissues was also affected by soil
compaction. Leaf N concentration was slightly incremented with
bulk density in loam soil (r = 0.50; P = 0.06), and root C was negatively
affected by bulk density in loam soil (r =
−0.65; P = 0.01).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตัวแปรการเจริญเติบโตเช่นชีวมวลรวมและอัตราการเติบโตที่สัมพันธ์กันถูกแก้ไข โดยการกระชับข้อมูลดิน หรือดินชนิด (ตารางที่ 2)พบมากที่สุดของตัวแปรเจริญเติบโตและสัณฐานวิทยาทั่วไปการโต้ตอบอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการกระชับข้อมูลดินและชนิดของดินซึ่งหมายความ ว่า ผลของการกระชับข้อมูลดินแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับในชนิดของดิน เฉพาะใบตั้ง อัตราส่วนมวลของใบไม้ และอัตราส่วนของพื้นที่ใบแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นกับความหนาแน่นจำนวนมากในดินดีขึ้น (loam ดินพิมพ์ฉัน) (ตารางที่ 2) อย่างไรก็ตาม ตัวแปรเดียวกันพบว่าลดลงมีการกระชับข้อมูลดินในดินย่อม (sandy loam ดิน พิมพ์ครั้งที่สอง)อัตราส่วนมวลชนรากได้รับผลจากชนิดของดินด้วยการโต้ตอบอย่างมีนัยสำคัญมีความหนาแน่นจำนวนมากเนื่องจากการตอบสนองที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับการชนิดของดิน ผลิตสำคัญสำหรับ sandy loam ดิน ความหนาแน่นจำนวนมากเพิ่มอัตราส่วนมวลชนราก ในขณะที่ในดิน loam มีผลไม่ของจำนวนมากความหนาแน่น (ตาราง 2) อัตราส่วนของความยาวรากกับพืชชีวมวล(รากยาวอัตราส่วน RLR) ได้รับผลลบจากความหนาแน่นจำนวนมากแต่ ยัง ชนิดดินแสดงให้เห็นการโต้ตอบที่สำคัญ มีความหนาแน่นจำนวนมากเนื่องจาก loam ดิน RLR มีส่งผลกระทบโดยกระชับข้อมูลในขณะที่ใน sandy loam จึงมีไม่มากได้รับผลกระทบ(ตารางที่ 2)องค์ประกอบทางเคมีของเนื้อเยื่อบางยังได้รับผลกระทบจากดินกระชับข้อมูล เข้มข้นใบ N ถูกเพิ่มด้วยเล็กน้อยจำนวนมากความหนาแน่นในดิน loam (r = 0.50 P = 0.06), และราก C ถูกส่งรับผลกระทบจากความหนาแน่นจำนวนมาก loam ดิน (r =−0.65 P = 0.01) การ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตัวแปรการเจริญเติบโตเช่นชีวมวลรวมและอัตราการเจริญเติบโตเมื่อเทียบไม่ได้ถูกแก้ไขโดยการบดอัดดินหรือชนิดของดิน (ตารางที่ 2). โดยทั่วไปมากที่สุดของการเจริญเติบโตและตัวแปรลักษณะทางสัณฐานวิทยาพบปฏิสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างการบดอัดดินและชนิดของดิน, ซึ่งหมายความว่า ผลกระทบของการบดอัดดินที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของดิน พื้นที่ใบเฉพาะใบอัตราส่วนโดยมวลและอัตราพื้นที่ใบพบว่าเพิ่มขึ้นกับความหนาแน่นในดินที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น (ดินร่วน, ประเภท I) (ตารางที่ 2) อย่างไรก็ตามตัวแปรเดียวกันแสดงให้เห็นว่าการลดลงด้วยการบดอัดดินในดินยากจน (ดินทรายดินร่วนปนชนิด II). รากอัตราส่วนมวลรับผลกระทบจากชนิดของดินที่มีการทำงานร่วมกันอย่างมีนัยสำคัญที่มีความหนาแน่นเนื่องจากมีการตอบสนองที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของดิน. สำหรับดินทรายดินร่วนปนความหนาแน่นที่ผลิตอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มขึ้นในอัตราส่วนมวลรากในขณะที่ในดินร่วนมีไม่มีผลกระทบของความหนาแน่น(ตารางที่ 2) อัตราส่วนของความยาวรากพืชชีวมวล(อัตราส่วนความยาวราก, RLR) ได้รับผลกระทบทางลบจากความหนาแน่นแต่ยังชนิดของดินแสดงให้เห็นว่าการทำงานร่วมกันอย่างมีนัยสำคัญที่มีความหนาแน่น. นี้เป็นเพราะในดินร่วน, RLR ได้รับผลกระทบทางลบจากการบดอัดขณะที่อยู่ในดินร่วนปนทรายมันก็ไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ(ตารางที่ 2). องค์ประกอบทางเคมีของเนื้อเยื่อบางส่วนได้รับผลกระทบจากดินบดอัด ใบความเข้มข้นยังไม่มีได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยกับความหนาแน่นในดินร่วนปนดิน (r = 0.50; p = 0.06) และราก C ถูกลบผลกระทบจากความหนาแน่นในดินร่วนปนดิน(r = -0.65; p = 0.01)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเจริญเติบโตของตัวแปรเช่นมวลชีวภาพรวม และอัตราการเจริญเติบโตสัมพัทธ์
ไม่ได้ถูกแก้ไขโดยการบดอัดดิน หรือชนิดของดิน ( ตารางที่ 2 ) .
โดยทั่วไปมากที่สุดของตัวแปรการเจริญเติบโตและสัณฐานวิทยาพบ
ปฏิสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างการบดอัดดิน และชนิดของดิน
ซึ่งหมายความ ว่า ผลของการบดอัดดินแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ
ชนิดดิน . พื้นที่ใบจำเพาะ อัตราส่วนมวลใบ
อัตราส่วนพื้นที่แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นกับความหนาแน่นยิ่งขึ้นดิน ( ดินร่วนดิน
ประเภท ) ( ตารางที่ 2 ) อย่างไรก็ตาม ตัวแปรเดียวกันพบว่าลดลง
ด้วยการบดอัดดินในกลุ่มดิน ( ดินร่วนปนทราย ชนิดที่ 2 ) อัตราส่วนมวล
รากได้รับผลกระทบจากชนิดของดินกับ
ปฏิสัมพันธ์ร่วมกันกับความหนาแน่น เนื่องจากมีการตอบสนองที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ
ประเภทดิน สำหรับดินร่วนปนทราย ,ความหนาแน่นที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ในอัตราส่วนมวลในราก ส่วนดินร่วนไม่มีผล
ความหนาแน่น ( ตารางที่ 2 ) อัตราส่วนของความยาวรากพืชชีวมวล
( rlr อัตราส่วน ความยาวราก ) ก็มีผลต่อความหนาแน่น
แต่เป็นกลุ่ม โดย ชนิดของดิน พบว่ามีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันกับความหนาแน่น .
เพราะในดินร่วน rlr ถูกกระทบโดย
,การบดอัดดินร่วนปนทราย ในขณะที่มันไม่มีผลต่อค่า

( ตารางที่ 2 ) องค์ประกอบทางเคมีของทิชชู่ก็ยังได้รับผลกระทบจากการบดอัดดิน

ใบ N มีค่าเล็กน้อย
สั่งกับความหนาแน่นดินร่วน ( r = 0.50 ; p = 0.06 ) , และราก C ใน
มีผลต่อความหนาแน่นดินร่วน ( r =
− 0.65 ; p = 0.01 )