Aim: The aim of this study was to e

Aim: The aim of this study was to evaluate changes and predictive factors of anxiety and depression in patients with chronic obstructive pulmonary disease (COPD) before and up to 3 months after pulmonary rehabilitation (PR). Methods: A single group longitudinal design of patients with COPD underwent a PR programme. The measurements took place at baseline (T1: N = 100), immediately before (T2: N = 66), immediately after (T3: N = 54) and 3 months after (T4: N = 43) the programme. The programme was a 6-week outpatient programme, including education, psychosocial support and training sessions. Anxiety and depression were measured by the Hospital Anxiety and Depression Scale, self-efficacy by the COPD self-efficacy scale, lung function by spirometry and exercise capacity by incremental shuttle walking test. Mixed effect model analyses were used. Results: Results showed a tendency of less anxiety and depression immediately after (T3) compared with immediately before (T2) the PR programme, but the changes were not significant. Results also showed that female reported significantly more anxiety than male (p = 0.019), better exercise capacity predicted significantly less depression (p = 0.049), and higher self-efficacy predicted both significantly less anxiety (p = 0.001) and less depression (p = 0.005). Conclusions: A tendency of less anxiety and depression during the PR programme was found, but the changes were not significant. Higher level of self-efficacy and better exercise capacity are suggested to relieve anxiety and depression

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมาย: จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการ ประเมินการเปลี่ยนแปลงและปัจจัยทำนายความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยที่มีผิวสวยภายใต้ระบบทางเดินหายใจโรคเรื้อรัง (แอนเดอรส์) ก่อน และค่า 3 เดือนหลังจากการฟื้นฟูระบบทางเดินหายใจ (PR) วิธีการ: แบบกลุ่มเดียวการระยะยาวของผู้ป่วยที่มีแอนเดอรส์ผ่านโครงการ PR การประเมินเกิดขึ้นในพื้นฐาน (T1: N = 100), ทันทีก่อน (T2: N = 66), ทันทีหลัง (T3: N = 54) และ 3 เดือนหลัง (T4: N = 43) โปรแกรม โครงการโครงการ 6 สัปดาห์ผู้ป่วยนอก การศึกษา สนับสนุน psychosocial และฝึกอบรมได้ ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าที่วัด โดยโรงพยาบาลความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าระดับ ประสิทธิภาพตนเองตามมาตราส่วนแอนเดอรส์ประสิทธิภาพตนเอง การทำงานของปอด โดย spirometry และออกกำลังกายผลิตโดยทดสอบการเดินรถเพิ่มขึ้น วิเคราะห์รูปแบบลักษณะพิเศษผสมใช้ ผลลัพธ์: ผลลัพธ์พบว่าแนวโน้มของความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าน้อยลงทันที (T3) เปรียบเทียบกับก่อน (T2) โครงการ PR แต่นั้นไม่สำคัญ ผลยังพบว่า เพศหญิงที่รายงานความวิตกกังวลมากกว่าเพศชาย (p = 0.019), ดีกำลังกายทำนายภาวะซึมเศร้าอย่างมีนัยสำคัญน้อย (p = 0.049), และทำนายตนเองประสิทธิภาพสูงทั้งสองอย่างมีนัยสำคัญน้อยกว่าความวิตกกังวล (p = 0.001) และภาวะซึมเศร้าน้อย (p = 0.005) บทสรุป: แนวโน้มของความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าระหว่างโครงการ PR น้อยพบ แต่นั้นไม่สำคัญ มีการแนะนำระดับสูงของตนเองประสิทธิภาพและดีกว่าการออกกำลังกายผลิตเพื่อบรรเทาความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เล็ง: จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้เพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลงและปัจจัยทำนายของความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ก่อนและได้ถึง 3 เดือนหลังจากการฟื้นฟูสมรรถภาพปอด (PR) วิธีการ: กลุ่มเดียวที่ออกแบบตามยาวของผู้ป่วยที่มีปอดอุดกั้นเรื้อรังเปลี่ยนโปรแกรมการประชาสัมพันธ์ วัดที่เกิดขึ้นที่ baseline (T1: ยังไม่มี = 100) ทันทีก่อน (T2: ยังไม่มี = 66) ทันทีหลังจาก (T3: ยังไม่มี = 54) และ 3 เดือนหลัง (T4: ยังไม่มี = 43) โปรแกรม โปรแกรมเป็นโปรแกรมที่ผู้ป่วยนอก 6 สัปดาห์รวมทั้งการศึกษาการสนับสนุนทางจิตสังคมและการฝึกอบรม ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าถูกวัดโดยความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าโรงพยาบาลขนาดตนเองประสิทธิภาพโดยปอดอุดกั้นเรื้อรังระดับการรับรู้ความสามารถของตนเองโดยการทำงานของปอด spirometry และความสามารถในการออกกำลังกายโดยการทดสอบรถรับส่งที่เพิ่มขึ้นเดิน ผสมรูปแบบการวิเคราะห์ผลกระทบที่ถูกนำมาใช้ ผลการศึกษา: ผลการศึกษาพบแนวโน้มของความวิตกกังวลน้อยลงและภาวะซึมเศร้าในทันทีหลังจากที่ (T3) เมื่อเทียบกับก่อน (T2) โปรแกรมการประชาสัมพันธ์ แต่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ ผลยังพบว่าเพศหญิงรายงานความวิตกกังวลอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าชาย (p = 0.019) ความสามารถในการออกกำลังกายที่ดีกว่าที่คาดการณ์ภาวะซึมเศร้าอย่างมีนัยสำคัญน้อยกว่า (p = 0.049) และสูงกว่าการรับรู้ความสามารถตนเองคาดการณ์ทั้งความวิตกกังวลอย่างมีนัยสำคัญน้อยกว่า (p = 0.001) และภาวะซึมเศร้าน้อย (พี = 0.005) สรุปแนวโน้มของความวิตกกังวลน้อยลงและภาวะซึมเศร้าในช่วงโปรแกรมการประชาสัมพันธ์ก็พบ แต่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ ระดับที่สูงขึ้นของการรับรู้ความสามารถของตนเองและความสามารถในการออกกำลังกายที่ดีขึ้นมีข้อเสนอแนะในการบรรเทาความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ : วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลงและปัจจัยพยากรณ์ความวิตกกังวลและความซึมเศร้าในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ( COPD ) ก่อนที่จะถึง 3 เดือน หลังจากการฟื้นฟูสมรรถภาพปอด ( PR ) วิธีการ : กลุ่มเดียวตามยาวของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเข้ารับออกแบบงานโครงการ วัดเอาสถานที่ที่ baseline ( T1 : n = 100 ) ทันทีก่อน ( T2 :N = 66 ) , ทันทีหลังจาก ( T3 : N = 54 ) และ 3 เดือน ( T4 : N = 43 ) โปรแกรม โปรแกรมเป็นโปรแกรม 6 สัปดาห์ผู้ป่วย รวมทั้งการสนับสนุนด้านจิตสังคม การศึกษา และการฝึกอบรม ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้ โดยโรงพยาบาลความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าระดับความสามารถของตนเอง โดยไม่มีความสามารถขนาดโดยความจุปอดพบและออกกำลังกายเพิ่มขึ้นรับเดินแบบ ผสมผลรูปแบบการวิเคราะห์แบบ ผล : ผลที่แสดงแนวโน้มของความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า ทันทีหลังน้อย ( T3 ) เทียบกับทันทีก่อน ( T2 ) PR โครงการ แต่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ พบว่า เพศหญิงมากกว่าเพศชายมีความวิตกกังวลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p = 0019 ) , ความจุการออกกำลังกายดีกว่าคาดการณ์มากน้อยกว่าภาวะซึมเศร้า ( p = 0.049 ) และสูงกว่าที่คาดการณ์ ทั้งแรงน้อยกว่าความกังวล ( p = 0.001 ) และน้อยกว่าภาวะซึมเศร้า ( p = 0.005 ) สรุป แนวโน้มความวิตกกังวลน้อยลง และ depression ในระหว่าง PR โครงการ พบ แต่การเปลี่ยนแปลงความระดับของการรับรู้ความสามารถของตนเองและความสามารถในการออกกำลังกายที่ดีกว่าแนะนำเพื่อบรรเทาความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า