This study presents how Thailand ap

This study presents how Thailand applied an integrated approach to tackle erosion problems by using a case study in Nakorn Si Thammarat province.

Communities along 36 km of coastline suffered from continual erosion. Community members believed the erosion was a natural phenomenon that was intensified by human actions.

Historical erosion rate estimated by overlaying aerial photographs was about 5 m per year, while LITPROF simulations suggested that approximately 5 m of beach dune would be eroded by storm waves.

Stakeholders were identified based on power and legitimacy criteria.

Their past attempts to mitigate the erosion were analyzed.

Conflicts arose from how they selected erosion protection methods.

Lessons learnt from previous management failures taught that addressing needs of the stakeholders and consulting them throughout the design process were of importance.

Finally, a combination of detached nearshore breakwaters and beach nourishment was the selected protection
measure and was welcome by the communities.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้นำเสนอวิธีการที่ประเทศไทยใช้วิธีการแบบบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะ โดยใช้กรณีศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช ชุมชนตาม 36 กม.ของชายฝั่งจากการกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง สมาชิกในชุมชนเชื่อว่า การพังทลายเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่รุนแรงได้ โดยการกระทำของมนุษย์ อัตราการกัดเซาะทางประวัติศาสตร์ที่ประเมิน โดยการซ้อนภาพถ่ายทางอากาศได้ประมาณ 5 เมตรต่อปี ในขณะที่แบบจำลอง LITPROF แนะนำที่เนินทรายชายหาดประมาณ 5 เมตรจะถูกเซาะพายุ ผู้ถูกระบุตามเกณฑ์อำนาจและความชอบธรรม ความพยายามที่ผ่านมาเพื่อลดการพังทลายได้วิเคราะห์ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากวิธีการที่พวกเขาเลือกวิธีการป้องกันการกัดเซาะ บทเรียนที่ได้เรียนรู้จากความล้มเหลวก่อนหน้านี้จัดการสอนว่า ปรึกษาได้ตลอดกระบวนการออกแบบ และจัดการกับของเสียมีความสำคัญ ในที่สุด breakwaters ทางเดี่ยวและหาดบำรุงแก้ไขการป้องกันเลือกวัด และถูกต้อนรับ โดยชุมชน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้นำเสนอวิธีการที่ประเทศไทยใช้วิธีการแบบบูรณาการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะโดยใช้กรณีศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช.

ชุมชนพร้อม 36 กิโลเมตรจากชายฝั่งได้รับความเดือดร้อนจากการกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง สมาชิกในชุมชนเชื่อว่าการกัดเซาะเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นโดยการกระทำของมนุษย์.

อัตราการชะล้างพังทลายของประวัติศาสตร์ประมาณโดยซ้อนภาพถ่ายทางอากาศเป็นประมาณ 5 เมตรต่อปีในขณะที่การจำลอง LITPROF บอกว่าประมาณ 5 เมตรของเนินทรายชายหาดจะถูกกัดเซาะจากคลื่นพายุ.

ผู้มีส่วนได้เสีย ที่ถูกระบุตามเกณฑ์อำนาจและถูกต้องตามกฎหมาย.

ที่ผ่านมาของพวกเขาพยายามที่จะลดการกัดเซาะวิเคราะห์.

ความขัดแย้งเกิดขึ้นจากวิธีที่พวกเขาเลือกวิธีการป้องกันการชะล้างพังทลาย.

บทเรียนจากความล้มเหลวในการจัดการก่อนหน้านี้สอนว่าตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียและให้คำปรึกษาพวกเขาไปตลอดขั้นตอนการออกแบบได้ ความสำคัญ.

ในที่สุดการรวมกันของแฝดเขื่อนกันคลื่น nearshore และบำรุงชายหาดได้รับความคุ้มครองที่เลือก
วัดและได้รับการต้อนรับจากชุมชน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษานี้เสนอว่า ไทยประยุกต์แบบบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะโดยการใช้กรณีศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราชชุมชนตาม 36 กม. แนวรับความเดือดร้อนจากการกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง สมาชิกชุมชนที่เชื่อว่าการเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ประวัติศาสตร์อัตราการชะล้างพังทลายประมาณโดยการซ้อนภาพถ่ายทางอากาศประมาณ 5 เมตรต่อปี ในขณะที่จำลอง litprof แนะนำว่าประมาณ 5 เมตร หาดทราย จะถูกกัดเซาะโดยคลื่นพายุผู้เกี่ยวข้องระบุขึ้นอยู่กับอำนาจและเกณฑ์ความถูกต้องตามกฎหมายความพยายามที่ผ่านมาของพวกเขาเพื่อลดการชะล้างพังทลายของข้อมูลความขัดแย้งเกิดขึ้นจากวิธีที่พวกเขาเลือกวิธีการป้องกันการกัดเซาะบทเรียนจากความล้มเหลวของการจัดการก่อนสอนว่า การจัดการกับความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและที่ปรึกษาตลอดกระบวนการออกแบบเป็นสำคัญในที่สุด , การรวมกันของบ้านเดี่ยวและเขื่อนกันคลื่นชายหาด nearshore โภชนาเป็น การป้องกัน เลือกการวัดและการต้อนรับจากชุมชน