the water droplets that come togeth

the water droplets that come together to form clouds are very small. they are usually less than 0.02 mm in diameter. the average raindrop is a hundred times bigger, with a diameter ot 2 mm. How does a microscopic cloud droplet grow into a raindrop that is so much bigger? In middle latitudes, precipitation often begins to form high in the tops of clouds where temperatures are below freezing. Water droplets in the tops of clouds are supercooled. This means that they do not freeze at 0°C. Instead, they may not freeze until temperatures reach -40°C. Ice crystals are also present in the cold tops of clouds. When the air is saturated and can hold no more water vapor, the vapor in the air begins to condense. It turns to ice and accumulates on the ice crystals. The ice crystals grow in size until they become too heavy to remain aloft. As they fall through the cloud, the ice crystals come into contact with more water droplets. The water droplets freeze onto the ice crystals. The ice crystals grow into delicate snowflakes. Nearly all precipitation begins as snow in the high parts of clouds. The kind of precipitation that reaches the ground depends mainly on temperatures in the lower parts of clouds and near Earth's surface. Rain is precipitation that falls in the form of liquid water. Raindrops are at least 0.5 mm in diameter. Precipitation less than 0.5 mm is called drizzle. Do you think the precipitation shown in the photograph on the front of this card is rain or drizzle? Scientists use an instrument called a rain gauge to measure rainfall. A rain gauge has an opening at the top. Rain falls into this opening and is funneled down into a measuring tube. The measuring tube is marked with a scale measuring to the nearest 0.035 cm. Sometimes a layer of cold air occurs near the ground. If this air is cold enough it can freeze rain. Rain that freezes is called sleet. If the layer of cold air is thin, the rain may not freeze until it hits a cold object on Earth's surface, such as a tree, telephone line, or sidewalk. Rain that freezes when it strikes an object on Earth's surface is called freezing rain. Snow is precipitation in the form of spheres, or balls, of ice. Hail is usually associated with thunderstorms. Hail begins as a tiny ice crystal in a dark, towering cumulonimbus cloud. Updrafts and downdrafts are characteristic of cumulonimbus clouds. Swirling winds carry hailstones up and down through different ragions of the cloud. Every time a hailstone goes through the lower part of the cloud it picks up a fresh coating of moisture. This moisture freezes as the gailstone is carried to the upper part of the cloud. The hailstone grows larger as it travels up and down. This gives hail a layered look, similar to an onion. Eventually the hailstone becomes heavy enough to fall to Earth's surface. Hail can be as large as 10 cm in diameter. As you might guess, hail can cause a lot of damage to crops and property. In fact, all types of precipitation can cause damage. Heavy rains cause powerful floods. Heavy snowfalls can blanket a city and shut down services. Freezing rain and sleet make travel very dangerous

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หยดน้ำที่มารวมกันเพื่อฟอร์มเมฆมีขนาดเล็กมาก พวกเขามักน้อยกว่า 0.02 มม.เส้นผ่านศูนย์กลาง raindrop เฉลี่ยเป็นร้อยครั้งใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางเป็น ot 2 มม. วิธีหยดเมฆด้วยกล้องจุลทรรศน์ไม่ขยายเป็น raindrop ที่ใหญ่มาก ในกลาง latitudes ฝนมักเริ่มต้นแบบสูงในท็อปส์ของเมฆอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หยดน้ำในท็อปส์ของเมฆมี supercooled หมายความ ว่า พวกเขาไม่ตรึงที่ 0 องศาเซลเซียส แทน พวกเขาอาจไม่ตรึงจนอุณหภูมิถึง-40 องศาเซลเซียส ยังอยู่ในท็อปส์ซูเย็นของเมฆผลึกน้ำแข็งได้ เมื่ออากาศจะอิ่มตัว และสามารถเก็บไอน้ำไม่มาก ไอน้ำในอากาศเริ่มจับตัวกันแน่น มันเป็นน้ำแข็ง และสะสมบนผลึกน้ำแข็ง ผลึกน้ำแข็งขยายขนาดจนพวกเขากลายเป็นหนักเกินไปยังโรงแรมอลอฟท์ เป็นพวกเขาตกผ่านเมฆ ผลึกน้ำแข็งมาเติมหยดน้ำไปยังฝั่ง หยดน้ำตรึงลงบนผลึกน้ำแข็ง ผลึกน้ำแข็งเติบโตเป็นเกล็ดหิมะละเอียดอ่อน ฝนเกือบทั้งหมดเริ่มเป็นหิมะในส่วนสูงของเมฆ ชนิดของฝนที่มาถึงพื้นดินขึ้นอยู่กับอุณหภูมิในส่วนล่าง ของก้อนเมฆ และพื้นผิวของโลกส่วนใหญ่ ฝนเป็นฝนที่ตกในรูปของน้ำของเหลว ฝนน้อย 0.5 มม.เส้นผ่านศูนย์กลางได้ ฝนน้อยกว่า 0.5 มม.เรียกว่า drizzle คุณคิดว่า ฝนที่แสดงภาพบนหน้าบัตรนี้เป็นฝน drizzle นักวิทยาศาสตร์ใช้เครื่องมือที่เรียกว่าวัดฝนตกวัดปริมาณน้ำฝน วัดฝนมีการเปิดที่ด้านบน ฝนตกอยู่ในนี้เปิด และ funneled ลงในหลอดตรวจวัด หลอดวัดไว้กับสเกลที่วัดซม. 0.035 ที่ใกล้ที่สุด บางครั้งชั้นอากาศเย็นเกิดใกล้พื้นดิน ถ้าอากาศนี้จะเย็น พอก็สามารถตรึงฝน ฝนที่ตอบสนองเรียกว่า sleet ถ้าชั้นของอากาศเย็นเป็นบาง ฝนอาจไม่ตรึงจนมันฮิตวัตถุเย็นบนพื้นผิวแผ่นดิน เช่นต้นไม้ โทรศัพท์ หรือสารพัด ฝนที่ตอบสนองเมื่อมันนัดวัตถุบนผิวโลก เรียกว่าฝนตรึง หิมะฝนในรูปแบบของทรงกลม ลูก น้ำแข็งได้ Hail มักเกี่ยวข้องกับคะนองได้ Hail เริ่มเป็นผลึกน้ำแข็งเล็ก ๆ ในเมฆมืด สูง cumulonimbus Updrafts และ downdrafts เป็นลักษณะของเมฆ cumulonimbus ลมหมุนรอบยก hailstones ขึ้นและลงผ่าน ragions ต่าง ๆ ของเมฆ ทุกครั้ง hailstone ไปผ่านส่วนล่างของเมฆ จะหยิบค่าเคลือบสดของความชื้น ความชื้นนี้ตอบสนองเป็น gailstone จะดำเนินการไปส่วนบนของเมฆ Hailstone การเติบใหญ่ในขณะที่ส่งขึ้นและลง นี้ให้ตะโกนเรียกดูชั้น คล้ายกับหัวหอมเป็น ในที่สุด hailstone จะหนักพอที่จะตกสู่พื้นผิวโลก Hail สามารถใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 ซม. คุณอาจคาดเดา hail อาจทำให้เกิดความเสียหายของพืชผลและทรัพย์สินมาก ในความเป็นจริง ฝนทุกชนิดอาจทำให้เกิดความเสียหาย เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพ Snowfalls หนักสามารถแบบครอบคลุมเมือง และปิดบริการ ฝนและ sleet ตรึงทำให้การเดินทางอันตรายมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หยดน้ำที่มากันเป็นรูปเมฆมีขนาดเล็กมาก พวกเขามักจะน้อยกว่า 0.02 มม น้ำฝนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยครั้งใหญ่มีเส้นผ่าศูนย์กลางม่ 2 มิลลิเมตร หยดเมฆโมเลกุลอย่างไรเติบโตเป็นน้ำฝนที่มีมากที่ใหญ่กว่าหรือไม่? ในละติจูดกลางฝนมักจะเริ่มต้นในรูปแบบที่สูงในท็อปส์ซูของเมฆที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หยดน้ำในท็อปส์ซูของเมฆที่มี supercooled ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ได้หยุดที่ 0 ° C แต่พวกเขาอาจจะไม่หยุดจนกว่าอุณหภูมิถึง -40 ° C ผลึกน้ำแข็งนอกจากนี้ยังมีอยู่ในท็อปส์ซูเย็นของเมฆ เมื่ออากาศอิ่มตัวและไม่สามารถถือไอน้ำมากขึ้นไอในอากาศจะเริ่มรวมตัว มันหันไปน้ำแข็งและสะสมบนผลึกน้ำแข็ง ผลึกน้ำแข็งเติบโตในขนาดจนกว่าพวกเขาจะกลายเป็นหนักเกินไปที่จะยังคงสูงขึ้น ขณะที่พวกเขาตกผ่านเมฆผลึกน้ำแข็งเข้ามาติดต่อกับหยดน้ำมากขึ้น หยดน้ำแช่แข็งไปยังผลึกน้ำแข็ง ผลึกน้ำแข็งเติบโตเป็นเกล็ดหิมะที่ละเอียดอ่อน เร่งรัดเกือบทั้งหมดเริ่มต้นเป็นหิมะในส่วนสูงของเมฆ ชนิดของฝนที่มาถึงพื้นดินขึ้นอยู่กับอุณหภูมิในส่วนล่างของเมฆและใกล้พื้นผิวโลก ฝนฝนที่ตกอยู่ในรูปแบบของน้ำที่เป็นของเหลว เม็ดฝ​​นอย่างน้อย 0.5 มม ปริมาณน้ำฝนน้อยกว่า 0.5 มมเรียกว่าฝนตกปรอยๆ คุณคิดว่าการเร่งรัดที่แสดงในภาพที่ด้านหน้าของการ์ดใบนี้เป็นฝนหรือฝนตกปรอยๆ? นักวิทยาศาสตร์ใช้เครื่องมือที่เรียกว่าวัดปริมาณน้ำฝนที่จะวัดปริมาณฝน วัดปริมาณน้ำฝนมีการเปิดที่ด้านบนได้ ฝนตกอยู่ในนี้เปิดและคลีนิคลงไปในหลอดวัด หลอดวัดถูกทำเครื่องหมายด้วยการวัดขนาดที่ใกล้ที่สุด 0.035 เซนติเมตร บางครั้งชั้นของอากาศเย็นเกิดขึ้นใกล้พื้นดิน ถ้าอากาศเย็นพอที่จะสามารถหยุดฝน ฝนที่ค้างเรียกว่าลูกเห็บ ถ้าชั้นของอากาศเย็นเป็นบางฝนอาจจะไม่หยุดจนฮิตวัตถุเย็นบนพื้นผิวโลกเช่นต้นไม้, สายโทรศัพท์หรือทางเท้า ฝนที่ค้างเมื่อมันนัดวัตถุบนพื้นผิวโลกจะถูกเรียกว่าฝนแช่แข็ง หิมะตกตะกอนในรูปแบบของทรงกลมหรือลูกของน้ำแข็ง ลูกเห็บมักจะเกี่ยวข้องกับพายุฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บเริ่มเป็นผลึกน้ำแข็งเล็ก ๆ ในที่มืดสูงตระหง่านเมฆ cumulonimbus updrafts และ downdrafts มีลักษณะของเมฆ cumulonimbus ลมหมุนลูกเห็บดำเนินการขึ้นและลงผ่าน ragions แตกต่างกันของระบบคลาวด์ ทุกครั้งที่ลูกเห็บผ่านไปที่ส่วนล่างของเมฆหยิบเคลือบสดของความชื้น ความชื้นนี้ค้างเป็น gailstone จะดำเนินการไปยังส่วนบนของเมฆ ลูกเห็บขนาดใหญ่เติบโตขึ้นขณะที่เดินทางขึ้นและลง นี้จะช่วยให้ลูกเห็บดูชั้นคล้ายกับหัวหอม ในที่สุดก็จะกลายเป็นลูกเห็บหนักพอที่จะตกอยู่กับพื้นผิวโลก ลูกเห็บอาจมีขนาดใหญ่ถึง 10 ซม. ในเส้นผ่าศูนย์กลาง ในขณะที่คุณอาจคาดเดาลูกเห็บอาจทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมากให้กับพืชและทรัพย์สิน ในความเป็นจริงทุกประเภทของการตกตะกอนสามารถทำให้เกิดความเสียหาย ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพ หิมะหนักสามารถผ้าห่มเมืองและปิดบริการ ฝนหนาวและการเดินทางทำให้ลูกเห็บที่อันตรายมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เคล็ดลับระดับความมั่งคั่งเคล็ดลับระดับความมั่งคั่งเคล็ดลับระดับความมั่งคั่งเคล็ดลับระดับความมั่งคั่งเคล็ดลับระดับความมั่งคั่งเคล็ดลับระดับความมั่งคั่งเคล็ดลับระดับความมั่งคั่งเคล็ดลับระดับความมั่งคั่งเคล็ดลับระดับความมั่งคั่ง