set its intensity with a brightness

set its intensity with a brightness adjustment. This new process is fundamentally different from the traditional one because the capture session is not concerned with directly producing a visually pleasing image, it only seeks to record useful data for the later editing step. From this perspective, it is related to recent work in computational photography such as coded apertures, e.g., [Levin et al. 2007; Bishop and Favaro 2011], and lightfield cameras, e.g., [Ng et al. 2005; Adelson and Bergen 1991], in which computation is an integral part of the image formation process. This motivates us to name
this modern approach computational lighting design. See [Kelley 2011; Guanzon and Blake 2011] for examples of this workflow from professional photographers that inspired us (unaffiliated with the project). These examples demonstrate the use of this workflow in architectural photography, and product photography. However, one major disadvantage of this workflow is that it is quite cumbersome even for experienced photographers. When the number of images grows to several tens, or even above a hundred, navigating the corresponding layer stack becomes impractical. Further, with
large scenes, most images show the main subject mostly in the dark with only a small part lit (see Figure 1a). Finding the useful images in the stack, setting their relative intensities, and blending them together to get visually pleasing results are highly challenging tasks that require advanced photography and image editing skills.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพราะความเข้มข้น ด้วยการปรับความสว่างได้ กระบวนการนี้ใหม่มีพื้นฐานแตกต่างจากแบบดั้งเดิมเนื่องจากเซสชันการจับภาพไม่เกี่ยวข้องกับโดยตรงผลิตรูปสบายตา มันพยายามบันทึกข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับขั้นตอนการแก้ไขในภายหลัง จากมุมมองนี้ มันจะเกี่ยวข้องกับผลงานล่าสุดในการถ่ายภาพเชิงคำนวณเช่นใส่รหัสช่อง เช่น, [วิน et al. 2007 อธิการและฟาวาโร 2554], และ lightfield กล้อง เช่น, [Ng et al. 2005 Adelson และ Bergen 1991], ในการคำนวณซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างภาพ นี้เป็นชื่อออกแบบคำนวณแสงวิธีทันสมัยนี้ ดู [Kelley 2011 Guanzon และเบลค 2554] สำหรับตัวอย่างของลำดับงานนี้จากช่างภาพมืออาชีพที่เรา (บริษัทกับโครงการ) ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการใช้งานของลำดับงานนี้ในการถ่ายภาพสถาปัตยกรรม ถ่ายภาพสินค้าและ อย่างไรก็ตาม หนึ่งข้อเสียที่สำคัญของลำดับงานนี้คือว่า มันค่อนข้างยุ่งยากแม้จะมีประสบการณ์ช่างภาพ เมื่อจำนวนภาพเติบโตหลายสิบ หรือแม้กระทั่ง บนร้อย นำกองซ้อนชั้นที่สอดคล้องกันจะทำไม่ได้ เพิ่มเติม ด้วยฉากขนาดใหญ่ ภาพส่วนใหญ่แสดงแบบหลักส่วนใหญ่อยู่ในมืด มีเพียงส่วนเล็ก ๆ ไฟ (ดูรูปที่ 1a) ค้นหารูปภาพมีประโยชน์ในกองซ้อน การตั้งค่าความเข้มสัมพัทธ์ของพวกเขา และผสมเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สบายตาจะสูงท้าทายงานที่ต้องการถ่ายภาพขั้นสูงและทักษะในการแก้ไขภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตั้งความรุนแรงของมันที่มีการปรับความสว่าง กระบวนการใหม่นี้เป็นพื้นฐานแตกต่างจากแบบหนึ่งเพราะเซสชั่นการจับภาพที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการผลิตโดยตรงภาพที่ชื่นชอบสายตาก็พยายามที่จะบันทึกข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับขั้นตอนการแก้ไขในภายหลัง จากมุมมองนี้จะเกี่ยวข้องกับการทำงานที่ผ่านมาในการถ่ายภาพการคำนวณเช่นช่องรหัสเช่น [เลวิน, et al 2007 บิชอปและ Favaro 2011] และ lightfield กล้องเช่น [Ng, et al 2005 Adelson และเบอร์เกน 1991] ซึ่งในการคำนวณเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการสร้างภาพ นี้กระตุ้นให้เราตั้งชื่อ
วิธีการนี้การออกแบบแสงที่ทันสมัยในการคำนวณ ดู [เคลลี่ 2011 Guanzon และเบลค 2011] สำหรับตัวอย่างของเวิร์กโฟลว์นี้จากช่างภาพมืออาชีพที่เป็นแรงบันดาลใจเรา (เกี่ยวพันกับโครงการ) ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการใช้งานของเวิร์กโฟลว์นี้ในการถ่ายภาพสถาปัตยกรรมและการถ่ายภาพสินค้า แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งที่สำคัญของขั้นตอนการทำงานนี้ก็คือว่ามันค่อนข้างยุ่งยากมากยิ่งสำหรับช่างภาพที่มีประสบการณ์ เมื่อจำนวนของภาพขึ้นอยู่กับหลายสิบหรือแม้กระทั่งข้างต้นร้อยการนำกองชั้นที่สอดคล้องกันจะกลายเป็นทำไม่ได้ เพิ่มเติมกับ
ฉากที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาพแสดงให้เห็นเรื่องหลักส่วนใหญ่ในที่มืดมีเพียงส่วนเล็ก ๆ สว่าง (ดูรูปที่ 1a) หาภาพที่มีประโยชน์ในกองการตั้งค่าความเข้มของญาติของพวกเขาและการผสมเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชื่นชอบสายตาเป็นงานที่ท้าทายอย่างมากที่ต้องใช้ขั้นสูงการถ่ายภาพและภาพทักษะการแก้ไข

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตั้งค่าความเข้มของมันด้วยการปรับความสว่าง . กระบวนการใหม่นี้เป็นพื้นฐานที่แตกต่างจากเดิมหนึ่งครั้งเพราะจับไม่ได้เกี่ยวข้องกับการผลิตโดยตรง ภาพที่เห็น ใจ , มันเพียง แต่พยายามที่จะบันทึกข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับขั้นตอนการแก้ไขในภายหลัง จากมุมมองนี้จะเกี่ยวข้องกับผลงานล่าสุดในการคำนวณการถ่ายภาพ เช่น รหัสแสงเช่น [ Levin et al . 2007 ; บิชอปและ favaro 2011 ] และไลท์ฟิลด์กล้อง เช่น [ NG et al . 2005 ; Adelson และ Bergen 1991 ] ซึ่งในการคำนวณเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการสร้างภาพ . นี้กระตุ้นให้เราชื่อนี้ทันสมัย วิธีการคำนวณออกแบบแสงสว่าง . ดู [ เคลลี่ 2011 ; guanzon และเบลค 2011 ] สำหรับตัวอย่างของเวิร์กโฟลว์นี้จากช่างภาพมืออาชีพที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรา ( ด้านศาสนกับโครงการ ) ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการใช้เวิร์กโฟลว์นี้ในการถ่ายภาพทางสถาปัตยกรรม และถ่ายภาพสินค้า แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งที่สำคัญของโปรแกรมนี้คือว่ามันค่อนข้างยุ่งยากสำหรับช่างภาพที่มีประสบการณ์ เมื่อจำนวนของภาพที่จะเติบโตหลายสิบ หรือแม้แต่สูงกว่าร้อยชั้น กลายเป็นกองเดินเรือที่ใช้งานไม่ได้ เพิ่มเติมกับฉากขนาดใหญ่ ภาพส่วนใหญ่แสดงเรื่อง หลักส่วนใหญ่ ในที่มืด มีเพียงส่วนเล็ก ๆ จ้า ( ดูรูปที่ 1 ) การค้นหารูปภาพมีประโยชน์ในสแต็ค , การตั้งค่าความเข้มของญาติ และการผสมผสานเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าใจเป็นอย่างมาก งานที่ท้าทายที่ต้องมีการถ่ายภาพขั้นสูงและทักษะการแก้ไขภาพ