This chapter (9) has not attempted

This chapter (9) has not attempted to give a full theory of moral psychology, but has pointed to some of the key factors such as mirror neurons and emotional consciousness that are relevant to an understanding of the nature of ethical judgments in the brain.

The revolution that recognizes minds as brains requires us to abandon familiar and valued concepts such as immortality and free will. But ethical ideas about right, wrong, and moral responsibility can survive in altered forms. We can even maintain the old idea of conscience, as long as it is understood as a brain process rather than as a communication from God to soul.

Judgments about right and wrong are instances of emotional consciousness, produced by interactions among multiple brain areas that combine cognitive appraisal with bodily perception. Such moral intuitions might appear to us as direct perceptions of right and wrong, but they are actually very complex brain processes arising from past experiences, both personal and educational.

Moral intuitions by themselves are not evidence that something is right or wrong, and must be evaluated as to whether they reflect objective moral concerns or merely previous biased experience or coercive and arbitrary inculcation by bogus moral authorities. The idea of sin as a free act against a divine being must be abandoned as based on false assumptions about souls and gods. But social emotions such as guilt and shame and the consonant idea of moral responsibility can still be appropriate, if they contribute to the vital needs of all those concerned. Consideration of vital psychological needs such as competence, relatedness, and autonomy provides an explanation and justification for the proposition that the meaning of life is love, work, and play.

According to neural naturalism, moral objectivity does not rest on theological prescriptions, a priori truths, moral universal grammar, or reflective equilibrium. The basis for morality is that people have objective vital needs without which they would be harmed in their ability to function as human beings. Actions have consequences that affect the needs of people; an action is right to the extent that it furthers those needs, and wrong to the extent that it damages them. Moral judgments are inherently emotional in that we feel approval toward what we take to be right and disapproval toward what we take to be wrong. Like emotional experience in general, moral judgments have an element of cognitive appraisal that should include assessment of the consequences of an action for the needs of the people involved. The assessment is not just a cold calculation of costs and benefits, but should include an element of caring about those who are affected. Such caring enlists the physiological aspects of emotions and the functioning of mirror neurons.

Neuroscience is just beginning to use brain scans and other technologies to acquire evidence concerning how brains make ethical judgments: the relevant research dates back only to 2000. A fuller account of ethical brains will have to take into account such fascinating findings as these:

1. Patients with damage to the prefrontal cortex can become flagrantly immoral.

2. Brain scans of people given moral dilemmas to solve reveal different kinds of neural activity that correspond to different moral intuitions depending on whether they engage in personal or impersonal judgments.

3. People can be induced to trust others by nasal sprays of the hormone oxytocin, which affects the brain to increase feelings of affiliation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

(9) บทนี้ได้พยายามที่จะให้ทฤษฎีเต็มของคุณธรรมจิตวิทยา แต่ได้ชี้ปัจจัยสำคัญเช่นกระจก neurons และสติอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของการตัดสินจริยธรรมในสมอง บางการปฏิวัติที่รับรู้จิตใจเป็นสมองให้เราต้องละทิ้งความคุ้นเคย และบริษัทแนวคิดความเป็นอมตะและจะ แต่ความคิดจริยธรรมเกี่ยวกับความรับผิดชอบที่เหมาะสม ถูกต้อง และคุณธรรมสามารถอยู่รอดในรูปแบบที่เปลี่ยนแปลง เราสามารถรักษาความคิดเก่าของสามัญสำนึก แม้ตราบเท่าที่มันจะเข้าใจ เป็นกระบวนการสมองไม่ ใช่ เป็นการสื่อสารจากพระเจ้าเพื่อจิตใจคำพิพากษาเกี่ยวกับและเกรงกำลังของสติอารมณ์ ผลิต โดยระหว่างหลายพื้นที่สมองที่รวมการประเมินรับรู้ ด้วยร่างกายรับรู้ Intuitions คิดคุณธรรมดังกล่าวอาจปรากฏให้เราเป็นแนวตรงไม่ถูกต้อง และเหมาะสม แต่จะเกิดจากประสบการณ์ผ่านมา ส่วนบุคคล และศึกษากระบวนสมองจริงซับซ้อนมากIntuitions คิดคุณธรรม โดยตัวเองไม่ได้ว่า อะไรถูก หรือผิด และต้องประเมินเพื่อว่าจะสะท้อนกังวลประสงค์คุณธรรม หรือประสบการณ์เพียงก่อนหน้า biased หรือ inculcation coercive และกำหนด โดยหน่วยงานคุณธรรมปลอมหลักฐาน ความคิดของบาปเป็นบัญญัติฟรีกับพระเจ้าถูกต้องถูกทอดทิ้งเป็นตามสมมติฐานเท็จเกี่ยวกับวิญญาณและเทพเจ้า แต่อารมณ์สังคมเช่นผิด และละอายใจ และความคิดความรับผิดชอบทางศีลธรรมในพยัญชนะยังคงสามารถที่เหมาะสม ถ้าเกี่ยวข้องกับความต้องการที่สำคัญทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง พิจารณาสำคัญจิตใจต้องการเช่นความสามารถ relatedness และอิสระให้การชี้แจงและเหตุผลสำหรับข้อเสนอที่ว่าความหมายของชีวิตรัก ทำงาน และเล่นตาม naturalism ประสาท ปรวิสัยคุณธรรมไม่วางตัวบนสถานีตำรวจศาสนศาสตร์ priori มีสัจธรรม ไวยากรณ์สากลคุณธรรม หรือสมดุลสะท้อนแสง พื้นฐานของจริยธรรมคือ คนมีความสำคัญวัตถุประสงค์ โดยที่พวกเขาจะถูกทำลายความสามารถในการเป็นมนุษย์ การดำเนินการมีผลกระทบที่ส่งผลต่อความต้องการของคน การดำเนินการถูกต้องที่มัน furthers ความต้องการเหล่านั้น และไม่ถูกต้องเท่าที่มันเสียหาย คำพิพากษาทางศีลธรรมมีความอารมณ์ที่เรารู้สึกว่าอนุมัติต่อสิ่งที่เราใช้ให้เหมาะสมและความผิดหวังต่อสิ่งที่เราไปไม่ถูกต้อง เช่นประสบการณ์ทางอารมณ์ ทั่วไป คำพิพากษาทางศีลธรรมได้องค์ประกอบของการประเมินการรับรู้ที่ควรมีการประเมินผลกระทบของการดำเนินการสำหรับความต้องการของผู้เกี่ยวข้อง การประเมินไม่เพียงเย็นคำนวณต้นทุนและผลประโยชน์ แต่ควรรวมองค์ประกอบของการดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบ เช่นดูแลคนด้านสรีรวิทยาของอารมณ์และการทำงานของกระจก neuronsประสาทวิทยาศาสตร์เป็นเพียงเริ่มใช้สแกนสมองและเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อรับหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับวิธีที่สมองทำให้ตัดสินจริยธรรม: การวิจัยที่เกี่ยวข้องวันกลับเท่ากับ 2000 บัญชีฟูลเลอร์ของสมองจริยธรรมจะต้องคำนึงถึงเช่นสถานพบเป็นเหล่านี้:1. ผู้ป่วยที่ มีความเสียหายของคอร์เทกซ์ prefrontal สามารถเป็น flagrantly immoral2. สแกนสมองคนรับ dilemmas คุณธรรมแก้เปิดเผยต่าง ๆ กิจกรรมประสาทที่สอดคล้องกับ intuitions คิดคุณธรรมแตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีส่วนร่วมในการตัดสินส่วนบุคคล หรือไม้มี3. คนสามารถจะเกิดจากเชื่อผู้อื่น โดยสเปรย์โพรงจมูกของ oxytocin ฮอร์โมน ซึ่งมีผลต่อสมองเพื่อเพิ่มความรู้สึกของสังกัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนี้ (9) ยังไม่ได้พยายามที่จะให้ทฤษฎีเต็มรูปแบบของจิตวิทยาทางศีลธรรม แต่ได้ชี้ให้เห็นบางส่วนของปัจจัยสำคัญเช่นเซลล์ประสาทกระจกและมีจิตสำนึกทางอารมณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับความเข้าใจในธรรมชาติของการตัดสินทางจริยธรรมในสมอง. การปฏิวัติที่ตระหนักถึงจิตใจที่เป็นสมองของเราต้องละทิ้งแนวคิดที่คุ้นเคยและมีมูลค่าเช่นความเป็นอมตะและเป็นอิสระที่จะ แต่ความคิดที่เกี่ยวกับจริยธรรมที่ถูกต้องผิดและความรับผิดชอบทางศีลธรรมสามารถอยู่รอดได้ในรูปแบบที่เปลี่ยนแปลง เรายังสามารถรักษาความคิดเก่ามโนธรรมตราบเท่าที่มันเป็นที่เข้าใจกันว่าเป็นกระบวนการของสมองมากกว่าการสื่อสารจากพระเจ้าจิตวิญญาณ. ตัดสินเกี่ยวกับสิทธิและผิดกรณีของสติอารมณ์ที่ผลิตโดยการมีปฏิสัมพันธ์ในพื้นที่สมองหลายที่รวม การประเมินความรู้ความเข้าใจกับการรับรู้ของร่างกาย สัญชาติญาณทางศีลธรรมดังกล่าวอาจจะปรากฏให้เราเป็นรับรู้โดยตรงของถูกและผิด แต่พวกเขาเป็นจริงที่ซับซ้อนมากกระบวนการสมองที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งในส่วนบุคคลและการศึกษา. สัญชาติญาณคุณธรรมโดยตัวเองไม่ได้มีหลักฐานบางอย่างที่ถูกหรือผิดและต้องเป็น การประเมินเป็นไปได้ว่าพวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลทางศีลธรรมวัตถุประสงค์หรือเป็นเพียงประสบการณ์ลำเอียงก่อนหน้านี้หรือบีบบังคับและย้ำโดยพลการโดยหน่วยงานทางศีลธรรมปลอม ความคิดของบาปเป็นกระทำฟรีกับเทพยเจ้าต้องถูกยกเลิกไปเป็นตามสมมติฐานเท็จเกี่ยวกับจิตวิญญาณและเทพเจ้า แต่อารมณ์สังคมเช่นความผิดและความอับอายและความคิดพยัญชนะของความรับผิดชอบทางศีลธรรมยังคงสามารถที่เหมาะสมถ้าพวกเขานำไปสู่ความต้องการที่สำคัญของทุกคนที่เกี่ยวข้อง การพิจารณาความต้องการทางจิตวิทยาที่สำคัญเช่นความสามารถ, ความสัมพันธ์และความเป็นอิสระให้คำอธิบายและเหตุผลสำหรับเรื่องที่ความหมายของชีวิตคือความรักการทำงานและเล่น. ตามธรรมชาติประสาทความเป็นกลางทางศีลธรรมไม่ได้พักผ่อนในใบสั่งยาศาสนศาสตร์เบื้องต้น ความจริงไวยากรณ์สากลศีลธรรมหรือสมดุลแสงสะท้อน พื้นฐานสำหรับการมีคุณธรรมคือการที่ผู้คนมีความต้องการที่สำคัญวัตถุประสงค์โดยที่พวกเขาจะได้รับอันตรายในความสามารถในการทำงานเป็นมนุษย์ การดำเนินการมีผลกระทบที่มีผลต่อความต้องการของประชาชน; การดำเนินการที่เหมาะสมที่จะมีขอบเขตที่จะผลักดันความต้องการเหล่านั้นและไม่ถูกต้องเท่าที่มันเกิดความเสียหายพวกเขา คำตัดสินทางศีลธรรมมีอารมณ์โดยเนื้อแท้ในการที่เรารู้สึกว่าได้รับการอนุมัติที่มีต่อสิ่งที่เราใช้เวลาในการได้รับสิทธิและความไม่พอใจต่อสิ่งที่เราใช้เวลาในการจะผิด เช่นเดียวกับประสบการณ์ทางอารมณ์โดยทั่วไปคำตัดสินทางศีลธรรมมีองค์ประกอบของการประเมินความรู้ความเข้าใจที่ควรรวมถึงการประเมินผลกระทบของการดำเนินการความต้องการของคนที่เกี่ยวข้องได้ที่ การประเมินไม่ได้เป็นเพียงการคำนวณเย็นของค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ แต่ควรจะรวมถึงองค์ประกอบของการดูแลเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ การดูแลดังกล่าว enlists ด้านสรีรวิทยาของอารมณ์ความรู้สึกและการทำงานของเซลล์ประสาทกระจก. ประสาทเป็นเพียงการเริ่มต้นที่จะใช้สแกนสมองและเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่จะได้รับหลักฐานเกี่ยวกับวิธีการที่สมองให้คำตัดสินจริยธรรม: วันที่วิจัยที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่จะกลับมาปี 2000 บัญชีฟูลเลอร์ของจริยธรรม สมองจะต้องคำนึงถึงผลการวิจัยที่น่าสนใจเช่นนี้: 1 ผู้ป่วยที่มีความเสียหายให้กับ prefrontal นอกจะกลายเป็นผิดศีลธรรมโจ๋งครึ่ม. 2 สแกนสมองของคนที่ได้รับวิกฤติทางศีลธรรมที่จะแก้ปัญหาที่แตกต่างกันเปิดเผยของกิจกรรมประสาทที่สอดคล้องกับสัญชาติญาณทางศีลธรรมที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีส่วนร่วมในการตัดสินส่วนบุคคลหรือตัวตน. 3 คนสามารถชักนำให้ความไว้วางใจผู้อื่นโดยการสเปรย์จมูกของอุ้งฮอร์โมนที่มีผลต่อสมองเพื่อเพิ่มความรู้สึกของความร่วมมือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนี้ ( 9 ) ได้พยายามที่จะให้ทฤษฎีเต็มจิตวิทยาศีลธรรม แต่ได้ชี้ให้บางส่วนของปัจจัยที่สำคัญ เช่น เซลล์ประสาทกระจกเงา และอารมณ์จิตที่เกี่ยวข้องกับความเข้าใจในธรรมชาติของการตัดสินทางจริยธรรมในสมอง

การปฏิวัติที่ตระหนักถึงจิตใจและสมองของเราต้องคุ้นเคย และทิ้ง คุณค่าแนวคิดเช่นอมตะและจะฟรีแต่ความคิดเรื่องจริยธรรม ถูก ผิด และความรับผิดชอบทางศีลธรรมสามารถอยู่รอดได้ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ เราสามารถรักษาความคิดเก่าของมโนธรรม ตราบใดที่มันเป็นสมอง เข้าใจกระบวนการ มากกว่าการสื่อสารจากพระเจ้า วิญญาณ

ตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิด มีอินสแตนซ์ของ สติ อารมณ์ผลิตโดยปฏิสัมพันธ์ระหว่างหลายสมองพื้นที่รวมการประเมินทางปัญญากับร่างกายรับรู้ สัญชาตญาณจริยธรรมดังกล่าวอาจปรากฏแก่เราโดยตรง การรับรู้ของถูกและผิด แต่พวกเขาจริงสมองที่ซับซ้อนมากกระบวนการที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์การศึกษา ทั้งส่วนตัวและ

มีสัญชาตญาณโดยตัวเองไม่ได้หลักฐานอะไรถูกหรือผิดและจะต้องถูกประเมินว่าพวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงวัตถุประสงค์เกี่ยวกับศีลธรรมหรือเพียงก่อนประสบการณ์หรือลำเอียงบังคับการปลูกฝังจริยธรรมโดยพลการโดยเจ้าหน้าที่ปลอม ความคิดของบาปเป็นกฎหมายฟรีกับการ divine ต้องทิ้งตามสมมติฐานที่เป็นเท็จเกี่ยวกับวิญญาณและเทพเจ้าแต่อารมณ์ทางสังคม เช่น ความรู้สึกผิดและละอายกับความคิดมากของความรับผิดชอบทางศีลธรรมยังสามารถที่เหมาะสมถ้าพวกเขามีส่วนร่วมกับความต้องการที่สำคัญของทุกคนที่เกี่ยวข้อง การพิจารณาความต้องการทางจิตวิทยาที่สำคัญ เช่น ความสามารถ แบ่งงานกันทำ และความมีคำอธิบายและเหตุผลสำหรับข้อเสนอว่า ความหมายของชีวิตคือ ความรัก การงาน และเล่น

ตามแบบธรรมชาติ เป้าหมายทางจริยธรรมไม่ได้พักผ่อนในเทววิทยาเกี่ยว ระหว่างความจริง ไวยากรณ์สากล มีคุณธรรม หรือ สมดุล สะท้อนแสง พื้นฐานของศีลธรรมที่ผู้คนมีวัตถุประสงค์สำคัญต้องการโดยที่พวกเขาจะได้รับอันตรายในความสามารถของการทำงานในฐานะที่เป็นมนุษย์ การกระทำที่มีผลกระทบต่อความต้องการของประชาชนการกระทำที่ถูกต้องในขอบเขตที่ / ความต้องการเหล่านั้น และผิดจนมันเสียหายได้ การตัดสินทางจริยธรรมเป็นอย่างโดยเนื้อแท้ อารมณ์ที่เรารู้สึกต่อสิ่งที่เราใช้เวลาอนุมัติจะถูกและความไม่พอใจต่อสิ่งที่เราทำจะผิด เป็นประสบการณ์ทางอารมณ์โดยทั่วไปการตัดสินทางจริยธรรม มีองค์ประกอบของการประเมินทางปัญญาที่ควรมีการประเมิน ผลของการกระทำเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่เกี่ยวข้อง การประเมิน คือ ไม่ใช่แค่เย็น คำนวณต้นทุนและประโยชน์ แต่ควรมีองค์ประกอบของการดูแลเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ การดูแลเช่น enlists สรีรวิทยาด้านอารมณ์และการทำงานของเซลล์ประสาทกระจก .

สมองเป็นเพียงการเริ่มต้นที่จะใช้สแกนสมอง และ เทคโนโลยีอื่น ๆที่จะได้รับหลักฐานเกี่ยวกับวิธีสมองตัดสินจริยธรรม : งานวิจัยวันที่กลับเพียง 2000 บัญชีฟุลเลอร์มันสมองจริยธรรม จะต้องคำนึงถึง เช่น ข้อมูลที่น่าสนใจเหล่านี้ :

1 ผู้ป่วยที่มีความเสียหายกับเปลือกสมองส่วนหน้าจะกลายเป็นอนาจารโจ๋งครึ่ม .

2สแกนสมองของคนที่ได้รับการแก้ไขประเด็นขัดแย้งทางจริยธรรมเปิดเผยชนิดของกิจกรรมที่สอดคล้องกับจริยธรรม ประสาทที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะใช้สัญชาตญาณในการตัดสินส่วนบุคคลหรือ impersonal

3 ผู้คนสามารถชักนำให้เชื่อคนอื่นโดย sprays ช่องจมูกของฮอร์โมนออกซิโตซิน ซึ่งมีผลต่อสมอง เพื่อเพิ่มความรู้สึกของการเป็นสมาชิก .