to their beliefs to produce a desir

to their beliefs to produce a desired outcome. Other studies
have examined the perceptions of veterinarians’
[11]. [11] showed how veterinarians’ motivations and
decisions about medical treatment affected the quality of
data recorded from the herd. Veterinarians’ focus on
specific problems influenced their motivation to collect
data and this may have introduced variation and bias
into the data.
Other studies have—more explicitly—combined the
managerial and the biological perspective. [12] focused
on farmers’ time planning and structure of everyday
activities as keys to understanding and solving problems
related to calf disease and mortality. Whether the manager
had a basic belief that calf mortality was a permanent
crisis that had to be expected to be present on a
dairy farm affected calf mortality in the herd. Previous
experience in solving disease and mortality problems in
calves had a strong positive influence on this belief.
Furthermore, [13] reported that farmers’ normative
frame of reference about mastitis explain variation in
herd level somatic cell count and their perceptions of
the control of mastitis. Thus, farmers’ perceptions about
mastitis control explained the variation in clinical mastitis.
The study concludes that farmers’ self-reported
behaviour explain and predict differences in mastitis
incidence between farms. Consequently, future research
should take into account not only farmers’ behaviour
but also farmers’ attitudes and how these may direct
their perceptions and actions.
Some studies also point to the importance of combining
various methodological approaches (e.g., [14]). [14]
proposed that research in health management using
solely a quantitative approach may present major challenges
to the interpretation of the results, because the
humans involved may respond to their observations
based on previous experiences and their own beliefs.
They concluded that drawing conclusions from quantitative
studies that show associations between specific
herd health management routines and disease outcome
may benefit greatly by adding a qualitative perspective
to the quantitative approach to reduce response bias.
Results from an on-going project seem to support the
importance of using different methods as advocated by
[14]. Preliminary analysis from this project shows a positive
effect of the farmer being proactive in their problem
solving and herd fertility. Proactive problem solving
implies a preference to look for problems and to keep
control of the situation, instead of giving up control and
wait for problems to emerge on their own [15]. However,
what strikes us as important from the latter project
is not only the value of combining the managerial
(proactive problem solving) and biological (herd fertility)
perspectives, but the power of the methodological
approach. The use of a semi-structured interview could

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความเชื่อของพวกเขาเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ต้องการ การศึกษาอื่น ๆได้ตรวจสอบภาพลักษณ์ของสัตวแพทย์[11] . [11] พบว่าโต่งของสัตวแพทย์ และตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลได้รับผลกระทบคุณภาพของข้อมูลที่บันทึกจากฝูง ความของสัตวแพทย์ปัญหาเฉพาะที่มีผลต่อแรงจูงใจของพวกเขาเพื่อรวบรวมข้อมูลและนี้อาจมีการแนะนำการเปลี่ยนแปลงและความโน้มเอียงถามข้อมูลศึกษาอื่น ๆ มี — อย่างชัดเจนขึ้นซึ่งรวมการบริหาร และมุมมองทางชีวภาพ [12] เน้นเกษตรกรวางแผนเวลาและโครงสร้างของทุกวันกิจกรรมเป็นแป้นเพื่อทำความเข้าใจ และแก้ปัญหาเกี่ยวข้องกับโรคของลูกและการตาย ว่าผู้จัดการมีความเชื่อพื้นฐานที่ว่า การตายของลูกวัวที่ถาวรวิกฤตที่มีการให้ปรากฏในการฟาร์มเลี้ยงโคนมได้รับผลกระทบตายลูกวัวในฝูง ก่อนหน้านี้ปัญหาในการแก้ปัญหาโรคและตายในวัวมีอิทธิพลที่เข้มแข็งในความเชื่อนี้นอกจากนี้, [13] รายงานว่า เกษตรกร normativeกรอบอ้างอิงเกี่ยวกับ mastitis อธิบายความผันแปรในต้อนระดับมาติกเซลล์และการรับรู้ของการควบคุม mastitis ดังนั้น เกษตรกรเข้าใจเกี่ยวกับควบคุม mastitis อธิบายความผันแปรในทางคลินิก mastitisการศึกษาสรุปว่า เกษตรกรเองรายงานพฤติกรรมอธิบาย และทำนายความแตกต่างใน mastitisอุบัติการณ์ระหว่างฟาร์ม ดังนั้น วิจัยในอนาคตควรคำนึงถึงไม่เพียงแต่พฤติกรรมของเกษตรกรแต่ยังเกษตรกรทัศนคติและวิธีเหล่านี้อาจโดยตรงการรับรู้และการดำเนินการบางการศึกษายังชี้ถึงความสำคัญของการรวมวิธีการ methodological ต่าง ๆ (เช่น, [14]) [14]นำเสนอการวิจัยในการจัดการสุขภาพเพียงวิธีการเชิงปริมาณอาจนำเสนอความท้าทายที่สำคัญการตีความผล เนื่องจากการมนุษย์เกี่ยวข้องอาจตอบสนองต่อการสังเกตของพวกเขาตามประสบการณ์ก่อนหน้าและความเชื่อของตนเองพวกเขาสรุปว่า วาดบทสรุปจากเชิงปริมาณศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเฉพาะคำสั่งการจัดการสุขภาพของฝูงและผลของโรคอาจได้รับประโยชน์อย่างมาก โดยการเพิ่มมุมมองเชิงคุณภาพกับวิธีการเชิงปริมาณเพื่อลดความโน้มเอียงในการตอบสนองผลลัพธ์จากโครงการกำลังดูเหมือนจะ สนับสนุนการความสำคัญของการใช้วิธีการต่าง ๆ เป็น advocated โดย[14] การวิเคราะห์เบื้องต้นจากโครงการนี้แสดงเป็นค่าบวกผลของชาวนาที่เป็นเชิงรุกในปัญหาของพวกเขาความอุดมสมบูรณ์แก้ไขและฝูง การแก้ปัญหาเชิงรุกหมายถึงการกำหนดลักษณะ การค้นหาปัญหา และให้ควบคุมสถานการณ์ แทนการให้ค่าการควบคุม และรอให้ปัญหาเกิดเอง [15] อย่างไรก็ตามอะไรนัดเราเป็นสำคัญจากโครงการหลังไม่เฉพาะค่าการรวมการบริหารจัดการ(แก้ปัญหาเชิงรุก) และชีวภาพ (ความอุดมสมบูรณ์ของฝูง)มุมมอง แต่พลังของการ methodologicalแนวทางการ สามารถใช้การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กับความเชื่อของพวกเขาในการผลิตผลลัพธ์ที่ต้องการ การศึกษาอื่น ๆ
มีการตรวจสอบการรับรู้ของสัตวแพทย์ '
[11] [11] แสดงให้เห็นว่าแรงจูงใจของสัตวแพทย์และ
การตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลมีผลต่อคุณภาพของ
ข้อมูลที่บันทึกไว้จากฝูง โฟกัสสัตวแพทย์เกี่ยวกับ
ปัญหาเฉพาะอิทธิพลแรงจูงใจของพวกเขาในการเก็บรวบรวม
ข้อมูลและอาจได้นำรูปแบบและอคติ
เป็นข้อมูล.
ศึกษาอื่น ๆ ได้มากขึ้นอย่างชัดเจนรวม
การบริหารจัดการและมุมมองทางชีวภาพ [12] ที่มุ่งเน้น
ในการวางแผนเวลาของเกษตรกรและโครงสร้างของชีวิตประจำวัน
กิจกรรมเป็นกุญแจไปสู่ความเข้าใจและการแก้ปัญหา
ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคและการเสียชีวิตลูกวัว ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการ
มีความเชื่อพื้นฐานที่อัตราการตายลูกวัวเป็นถาวร
วิกฤตที่จะต้องคาดว่าจะนำเสนอใน
ฟาร์มโคนมได้รับผลกระทบการตายลูกวัวในฝูง ก่อนหน้า
ประสบการณ์ในการแก้ปัญหาการเกิดโรคและการเสียชีวิตใน
น่องมีอิทธิพลในเชิงบวกอย่างมากต่อความเชื่อนี้.
นอกจากนี้ [13] รายงานว่าเกษตรกรกฎเกณฑ์
กรอบของการอ้างอิงเกี่ยวกับโรคเต้านมอักเสบอธิบายการเปลี่ยนแปลงใน
การนับเซลล์ร่างกายระดับฝูงและการรับรู้ของพวกเขาใน
การควบคุมของโรคเต้านมอักเสบ . ดังนั้นเกษตรกรรับรู้เกี่ยวกับ
การควบคุมโรคเต้านมอักเสบอธิบายการเปลี่ยนแปลงในทางคลินิกโรคเต้านมอักเสบ.
ผลการศึกษาสรุปได้ว่าเกษตรกรที่ตนเองรายงาน
พฤติกรรมอธิบายและคาดการณ์ความแตกต่างในเต้านมอักเสบ
อุบัติการณ์ระหว่างฟาร์ม ดังนั้นการวิจัยในอนาคต
ควรคำนึงถึงไม่เพียง แต่พฤติกรรมของเกษตรกร
แต่ยังเกษตรกรทัศนคติและวิธีการเหล่านี้อาจโดยตรง
การรับรู้และการกระทำของพวกเขา.
บางการศึกษายังชี้ถึงความสำคัญของการรวม
วิธีการวิธีการที่แตกต่างกัน (เช่น [14]) [14]
เสนอว่าการวิจัยในการจัดการสุขภาพโดยใช้
แต่เพียงผู้เดียวเป็นวิธีการเชิงปริมาณอาจนำเสนอความท้าทายที่สำคัญ
ในการแปลผลเพราะ
มนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้องอาจจะตอบสนองต่อการสังเกตของพวกเขา
ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ก่อนหน้านี้และความเชื่อของตัวเอง.
พวกเขาสรุปว่าข้อสรุปจากการวาดภาพเชิงปริมาณ
การศึกษาที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างเฉพาะ
ฝูงประจำการจัดการสุขภาพและผลการเกิดโรค
อาจได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเพิ่มมุมมองเชิงคุณภาพ
เพื่อการวิจัยเชิงปริมาณเพื่อลดอคติการตอบสนอง.
ผลลัพธ์ที่ได้จากโครงการที่กำลังดูเหมือนจะสนับสนุน
ความสำคัญของการใช้วิธีการที่แตกต่างกันสนับสนุนโดย
[ 14] การวิเคราะห์เบื้องต้นจากโครงการนี้แสดงให้เห็นในเชิงบวก
ผลกระทบของเกษตรกรเป็นเชิงรุกในปัญหาของพวกเขา
แก้ปัญหาและความอุดมสมบูรณ์ฝูง การแก้ปัญหาเชิงรุก
หมายถึงการตั้งค่าที่จะมองหาปัญหาและเพื่อให้
การควบคุมสถานการณ์แทนการให้ขึ้นการควบคุมและ
รอให้ปัญหาที่เกิดของตัวเอง [15] แต่
สิ่งที่เราเป็นนัดที่สำคัญจากโครงการหลัง
ไม่ได้เป็นเพียงค่าของการรวมการบริหารจัดการ
(การแก้ปัญหาเชิงรุก) และชีวภาพ (ความอุดมสมบูรณ์ของฝูง)
มุมมอง แต่พลังของวิธีการ
วิธีการ ใช้การสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างทำได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเชื่อของพวกเขาในการผลิตผลลัพธ์ที่ต้องการ
การศึกษาอื่น ๆมีการตรวจสอบความคิดเห็นของสัตวแพทย์
[ 11 ] [ 11 ] พบว่าสัตวแพทย์แรงจูงใจและการตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลต่อ

คุณภาพของข้อมูลที่บันทึกได้จากฝูง โฟกัสสัตวแพทย์ '
ปัญหาเฉพาะอิทธิพลแรงจูงใจของพวกเขาเพื่อรวบรวมข้อมูลและนี้อาจจะแนะนำ

ความอคติในการศึกษาอื่น ๆได้เพิ่มเติมข้อมูล .

โดยรวมการจัดการและมุมมองทางชีวภาพ [ 12 ] เน้น
เมื่อเกษตรกรเวลาวางแผนและโครงสร้างของกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
เป็นคีย์เพื่อความเข้าใจ และการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรค
น่องและอัตราการตาย ไม่ว่าผู้จัดการ
มีความเชื่อพื้นฐานว่า ลูกวัวตายถาวร
วิกฤตที่ต้องถูกคาดว่าจะนำเสนอบน
ฟาร์มโคนมได้รับผลกระทบจากวัวในฝูง ประสบการณ์ก่อนหน้า
ในการแก้ปัญหาโรคและอัตราการตายใน
น่องได้มีอิทธิพลในเชิงบวกต่อความเชื่อนี้ .
นอกจากนี้ [ 13 ] รายงานว่า เกษตรกรอ้างอิง
กรอบอ้างอิงเรื่องเต้านมอักเสบ อธิบายการเปลี่ยนแปลงในระดับเซลล์โซมาฝูง

และการรับรู้การควบคุมของเต้านมอักเสบ ดังนั้น เกษตรกร การรับรู้เกี่ยวกับ
การควบคุมโรคเต้านมอักเสบอธิบายการเปลี่ยนแปลงในเต้านมทางคลินิก ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกร

อธิบายและทำนายพฤติกรรม self-reported ความแตกต่างในเต้านมอักเสบ
อุบัติการณ์ระหว่างฟาร์ม โดย
การวิจัยในอนาคตควรพิจารณาไม่เพียง แต่ยังมีเกษตรกรชาวนาพฤติกรรม
ทัศนคติและวิธีการเหล่านี้อาจจะตรง

ของการรับรู้และการกระทำ