In this context, it is useful to di

In this context, it is useful to distinguish between attributions of responsibility
for the problem and attributions of responsibility for the solution
to the problem (Brickman et al., 1982). Attribution theory assumes
that people often engage in self-serving attributions. Consequently, exspouses
are unlikely to see themselves as being solely responsible for the
problems that led to the breakdown of the marriage. On the other hand, because
feelings of control help people to cope with difficult events, exspouses
may see themselves as having taken the initiative in seeking the
divorce (that is, as having accepted responsibility for the solution to the
problem). In general, although attributing the cause of the divorce to internal
factors should be associated with poorer adjustment, wanting the divorce
more than the spouse should be associated with better adjustment,
and individuals who attribute the cause of the divorce to their former
spouses and the initiation of the divorce to themselves should have the
most positive adjustment of all.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในบริบทนี้ มันมีประโยชน์ในการแยกระหว่าง attributions ความรับผิดชอบสำหรับปัญหาและ attributions ความรับผิดชอบในการแก้ปัญหาปัญหา (Brickman และ al., 1982) แสดงทฤษฎีสันนิษฐานคนที่มักจะมีส่วนร่วมใน attributions serving ด้วยตนเอง ดังนั้น exspousesไม่น่าจะเห็นตัวเองเป็นผู้รับผิดชอบในการปัญหาที่นำไปสู่การแบ่งสมรส ในทางกลับกัน เนื่องจากความรู้สึกควบคุมช่วยคนเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่ยาก exspousesอาจเห็นตัวเองเป็นมีความคิดริเริ่มในการหาที่มาหย่าร้าง (นั่นคือ เป็นไม่ยอมรับความรับผิดชอบในการแก้ปัญหาการปัญหา) ทั่วไป แม้ว่า attributing ของศาลภายในปัจจัยที่ควรเกี่ยวข้องกับปรับปรุงย่อม ต้องการหย่ามากกว่าคู่สมรสควรจะเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงที่ดีขึ้นและบุคคลที่กำหนดสาเหตุของการหย่าร้างกับอดีตของพวกเขาเริ่มต้นการหย่าเพื่อตัวเองและคู่สมรสควรมีการปรับปรุงค่าบวกมากที่สุดของทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในบริบทนี้จะเป็นประโยชน์ที่จะแยกแยะระหว่างการอ้างเหตุผลของความรับผิดชอบสำหรับปัญหาและการอ้างเหตุผลของความรับผิดชอบสำหรับการแก้ปัญหาในการแก้ไขปัญหา(Brickman et al., 1982) ทฤษฎีการแสดงที่ถือว่าที่คนมักจะมีส่วนร่วมในการอ้างเหตุผลให้บริการด้วยตนเอง ดังนั้น exspouses ไม่น่าจะเห็นตัวเองในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบสำหรับปัญหาที่นำไปสู่การล่มสลายของการแต่งงาน ในทางกลับกันเพราะความรู้สึกของคนที่ควบคุมความช่วยเหลือในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ยาก exspouses อาจจะเห็นตัวเองว่ามีความคิดริเริ่มในการแสวงหาการหย่าร้าง(นั่นคือว่ามีการยอมรับความรับผิดชอบสำหรับการแก้ปัญหาให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น) โดยทั่วไปแม้ว่าเจตนารมณ์สาเหตุของการหย่าร้างการภายในปัจจัยที่ควรจะเกี่ยวข้องกับการปรับยากจนที่ต้องการหย่าร้างมากกว่าคู่สมรสที่ควรจะเกี่ยวข้องกับการปรับตัวดีขึ้นและบุคคลที่แสดงที่มาสาเหตุของการหย่าร้างกับอดีตของพวกเขาคู่สมรสและการเริ่มต้นของการหย่าร้างกับตัวเองควรจะมีการปรับตัวในเชิงบวกมากที่สุดของทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในบริบทนี้มันเป็นประโยชน์ที่จะแยกแยะระหว่างการอนุมานสาเหตุความรับผิดชอบ
สำหรับปัญหาและการรับผิดชอบสำหรับโซลูชั่น
กับปัญหา ( บริคแมน et al . , 1982 ) ทฤษฎีถือว่า
ที่คนมักจะมีส่วนร่วมในการให้การด้วยตนเอง . จากนั้น exspouses
ไม่น่าจะเห็นตัวเองเป็นผู้รับผิดชอบ แต่เพียงผู้เดียวสำหรับ
ปัญหาที่นำไปสู่การสลายของการแต่งงาน บนมืออื่น ๆเนื่องจาก
ความรู้สึกของคน ช่วยควบคุม เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ยาก exspouses
อาจเห็นตัวเองกำลังเอาความคิดริเริ่มในการแสวงหา
หย่า ( นั่นคือ มีการยอมรับความรับผิดชอบสำหรับโซลูชัน
ปัญหา ) โดยทั่วไปแม้ว่าและสาเหตุของการหย่าร้างภายใน
ปัจจัยที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการปรับตัว จน อยากหย่า
มากกว่าคู่สมรสควรจะเกี่ยวข้องกับดีกว่าปรับ
และบุคคลที่แอตทริบิวต์สาเหตุของการหย่าร้างของอดีต
คู่สมรสและจุดเริ่มต้นของการหย่าร้างที่ตัวเองควรมีการปรับตัว
บวกมากที่สุดของทั้งหมด