In the end, NAFTA, as a product of

In the end, NAFTA, as a product of the Washington dealt Consensus, has with peasant farmers by displacing them. It has been estimated that NAFTA has displaced roughly 15 million Mexican peasants(Bello 2009). "Freed" from sub sistence agriculture, small-scale Mexican farmers have been encouraged to grow nontraditional commodities for export, like certain fruits, vegetables, and cut flowers. But these recommendations lack sufficient understanding of sociological conditions on the ground. First, there is the issue of finance: farms need access to credit if they are to switch over and grow an entirely different commodity(not to mention a different skill set, expertise, etc.). While corn requires an investment of approximately US$210 per hectare, nontraditional commodities typically come with a considerably higher per hectare investment: melons, US$500-700; cauliflower, US$971; broccoli, US$1,096; and snow peas, US$3,145(Bello 2009: 49). Yet, as part of trade liberalization policies, government credit in developing countries has evaporated. This makes the financing of such ventures impossible for the rural poor

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในสุด นาฟต้า ตามมติ จัดการผลิตภัณฑ์ของวอชิงตันมีกับเกษตรกรชาวนา โดยแทนที่พวกเขา ประมาณกันว่า นาฟต้าได้พลัดถิ่นประมาณ 15 ล้านเม็กซิกันชาวนา (Bello 2009) "โล่ง" ย่อย sistence เกษตร เกษตรกรเม็กซิกันมีกำลังใจเติบโต nontraditional สินค้าสำหรับส่งออก เช่นผลไม้บาง ผัก และไม้ตัดดอก แต่คำแนะนำเหล่านี้ขาดความเข้าใจที่เพียงพอของสภาพสังคมวิทยาภาคพื้นดิน ครั้งแรก มีปัญหาทางการเงิน: ฟาร์มต้องการเข้าถึงเครดิตถ้าจะสลับไป และเติบโตเป็นสินค้าที่แตกต่าง (ไม่ต้องพูดถึงแตกต่างกันทักษะ ความชำนาญ ฯลฯ) ในขณะที่ข้าวโพดต้องการลงทุนประมาณสหรัฐอเมริกา $210 ต่อตารางเมตร nontraditional สินค้าโภคภัณฑ์โดยทั่วไปมีสูงขึ้นอย่างมากต่อการลงทุนพื้นที่: สหรัฐอเมริกา $500-700 แตง ดอกกะหล่ำ สหรัฐอเมริกา $971 บรอกโคลี สหรัฐอเมริกา $1,096 และถั่ว ลันเตา สหรัฐอเมริกา $3,145(Bello 2009: 49) ยัง เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการเปิดเสรีทางการค้า หนี้รัฐบาลในประเทศกำลังพัฒนามีระเหย ทำให้ทุนของกิจการดังกล่าวเป็นไปไม่ได้สำหรับคนจนชนบท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในท้ายที่สุด NAFTA เป็นผลิตภัณฑ์ของวอชิงตันจัดการ Consensus มีกับเกษตรกรชาวนาโดยการแทนที่พวกเขา มันได้รับการคาดกันว่า NAFTA ได้ย้ายประมาณ 15 ล้านชาวนาเม็กซิกัน (2009 Bello) "รอด" จากย่อย sistence การเกษตรขนาดเล็กเกษตรกรเม็กซิกันได้รับการสนับสนุนที่จะเติบโตสินค้าในรูปแบบใหม่สำหรับการส่งออกผลไม้บางอย่างเช่นผักและไม้ตัดดอก แต่คำแนะนำเหล่านี้ขาดความเข้าใจที่เพียงพอของสภาพสังคมวิทยาบนพื้นดิน แรกมีปัญหาของเงินทุน: ฟาร์มต้องเข้าถึงสินเชื่อถ้าพวกเขาจะเปลี่ยนไปและการเติบโตของสินค้าโภคภัณฑ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง (ไม่พูดถึงชุดทักษะที่แตกต่างกัน, ความเชี่ยวชาญ ฯลฯ ) ในขณะที่ข้าวโพดต้องใช้เงินลงทุนประมาณ $ 210 ต่อเฮกตาร์สหรัฐสินค้าโภคภัณฑ์ในรูปแบบใหม่มักจะมาพร้อมกับมากสูงต่อการลงทุนเฮกตาร์: แตงโม US $ 500-700; กะหล่ำ, US $ 971; บรอกโคลี, US $ 1,096; และถั่วหิมะ, US $ 3,145 (Bello 2009: 49) แต่เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการเปิดเสรีการค้าเครดิตของรัฐบาลในประเทศกำลังพัฒนาได้ระเหย นี้จะทำให้การจัดหาเงินทุนของกิจการดังกล่าวเป็นไปไม่ได้สำหรับคนยากจนในชนบท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในที่สุดนาฟตาเป็นผลิตภัณฑ์ ของ วอชิงตัน ได้รับฉันทามติกับชาวนาเกษตรกรโดยแทนที่พวกเขา มีการประมาณการว่านาฟตามีผู้พลัดถิ่นประมาณ 15 ล้านเม็กซิกันชาวนา ( Bello 2009 ) การปลดปล่อย " จากการเกษตร sistence ซบ เกษตรกรรายย่อยเม็กซิกันได้รับการส่งเสริมให้ปลูกสินค้าใหม่เพื่อการส่งออก เช่น ผลไม้ , ผักบางอย่าง , และตัดดอกไม้ แต่คำแนะนำเหล่านี้ไม่มีความเข้าใจเพียงพอสภาพทางสังคมวิทยาบนพื้นดิน แรกมีปัญหาการเงิน : ฟาร์มต้องการเข้าถึงสินเชื่อ ถ้าพวกเขาจะสลับและการเติบโตของสินค้าที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ( ไม่ต้องพูดถึงเรื่องต่าง ๆ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ ฯลฯ ) ในขณะที่ข้าวโพดต้องมีการลงทุนประมาณ US $ 210 ต่อเฮกตาร์ ทีสินค้ามักจะมาพร้อมกับสูงมากต่อการลงทุนเฮกตาร์ : แตง , US $ 500-700 ; กะหล่ำดอก , US $ 971 ; ผักชนิดหนึ่ง , US $ 957 , ถั่วหิมะ , US $ 3145 ( Bello 2009 : 49 ) ยังเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการเปิดเสรีทางการค้า รัฐบาลสินเชื่อในประเทศกำลังพัฒนาที่ระเหยได้ นี้จะทำให้การจัดหาเงินทุนของกิจการในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคนจนในชนบท