Since the introduction of biogas te

Since the introduction of biogas technology into Kenya in the mid 1950s, only a small percentage of farmers have adopted the technology. In addition, the functional status and sustainability of the constructed biogas plants remain unknown. The objective of this study, therefore, was to investigate and assess the factors that affect the adoption and sustainability of the technology by dairy cattle farmers. The study employed the ex-post-facto social survey research design. The target population was the 9466 farmers in Nakuru and Nakuru North districts. Selection of the two hundred farmers was through stratified proportionate random sampling procedure in order to represent the various plant designs and farmer populations in the respective administrative divisions. Data collection was through a pre-tested interview schedule, two types of questionnaires and a personal observation schedule while analysis was through descriptive and inferential statistics (Chi-square) by use of SPSS software. The results of the analysis revealed that while a farmer's socio-economic status significantly influenced the decision to adopt the technology, it did not influence the sustainability of the constructed plants. The research concluded that while the potential of the technology to flourish in the study area is high, its promotion is necessary. However due to the multifaceted nature of the problem, remedial action calls for a multi-disciplinary approach by all stakeholders that include governmental and non-governmental organizations, technology experts, farmers as well as research and training institutions. The promotion exercise should take into consideration the adoption constraints that include awareness creation, land tenure security, financial capital, livestock improvement and research and policy review.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตั้งแต่การแนะนำเทคโนโลยีก๊าซชีวภาพในประเทศเคนยาในช่วงกลางทศวรรษ 1950 เพียงเล็กน้อยของเกษตรกรได้นำเทคโนโลยี นอกจากนี้ สถานะการทำงานและความยั่งยืนของพืชก๊าซชีวภาพสร้างยังคงไม่ทราบ วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ ดังนั้น คือการ ตรวจสอบ และประเมินปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับและความยั่งยืนของเทคโนโลยีโดยเกษตรกรโคนม การศึกษางานการออกแบบการวิจัยแบบสำรวจสังคมอดีตไปรษณีย์ดีแฟ็คโต ประชากรเป้าหมายคือ เกษตรกรใน Nakuru และเหนือ Nakuru 9466 เลือกของเกษตรกรสองร้อยไม่ผ่านขั้นตอนการสุ่มตัวอย่างแบบสุ่มตาม stratified เพื่อแสดงการออกแบบโรงงานและประชากรชาวนาในปกครองที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ รวบรวมข้อมูลได้ผ่านกำหนดการทดสอบก่อนสัมภาษณ์ สองชนิดของแบบสอบถามและการสังเกตส่วนบุคคลเวลาขณะวิเคราะห์โดยใช้สถิติอธิบาย และเพียงน้อยนิด (Chi-square) โดยใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ ผลของการวิเคราะห์เปิดเผยว่า ในขณะที่สถานะทางเศรษฐกิจสังคมของเกษตรกรมากมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเพื่อนำมาใช้เทคโนโลยี มันไม่ได้มีผลต่อความยั่งยืนของพืชสร้าง การวิจัยสรุปว่า ในขณะที่ศักยภาพของเทคโนโลยีรุ่งเรืองในพื้นที่ศึกษามีสูง เสริมความจำเป็น แต่เนื่องจากแผนของปัญหา การดำเนินการเยียวยาเรียกสำหรับวิธีการแบบอเนกประสงค์โดยทุกกลุ่มซึ่งรวมถึงองค์กรภาครัฐ และเอกชน ผู้เชี่ยวชาญของเทคโนโลยี เกษตรกรตลอดจนสถาบันวิจัยและฝึกอบรม การส่งเสริมการออกกำลังกายควรพิจารณายอมรับข้อจำกัดที่สร้างความตระหนัก ที่ดินอายุงานรักษาความปลอดภัย เงินทุน พัฒนาปศุสัตว์ และทบทวนงานวิจัยและนโยบาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตั้งแต่การแนะนำของเทคโนโลยีก๊าซชีวภาพในประเทศเคนยาในปี 1950 กลางเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของเกษตรกรได้นำเทคโนโลยี นอกจากนี้ภาวะการทำหน้าที่และความยั่งยืนของการสร้างโรงงานก๊าซชีวภาพยังไม่ทราบ วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและประเมินปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเทคโนโลยีโดยเกษตรกรวัวนม การศึกษาที่ใช้การออกแบบการวิจัยเชิงสำรวจทางสังคมอดีตโพสต์จริง ประชากรกลุ่มเป้าหมายเป็น 9466 เกษตรกรใน Nakuru และอำเภอ Nakuru เหนือ ตัวเลือกของสองร้อยเกษตรกรก็ผ่านขั้นตอนการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นตามสัดส่วนการสุ่มเพื่อเป็นตัวแทนของการออกแบบอาคารต่างๆและประชากรของเกษตรกรในเขตการปกครองที่เกี่ยวข้อง เก็บรวบรวมข้อมูลเป็นผ่านสัมภาษณ์ก่อนการทดสอบสองประเภทของแบบสอบถามและตารางเวลาการสังเกตส่วนบุคคลในขณะที่การวิเคราะห์ก็ผ่านสถิติเชิงพรรณนาและเชิงอนุมาน (Chi-เมตร) โดยใช้ซอฟต์แวร์โปรแกรม SPSS ผลการวิเคราะห์พบว่าในขณะที่เศรษฐกิจและสังคมสถานะของเกษตรกรอย่างมีนัยสำคัญมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจที่จะนำเทคโนโลยีมันไม่ได้มีผลต่อความยั่งยืนของพืชที่สร้าง การวิจัยได้ข้อสรุปว่าในขณะที่ศักยภาพของเทคโนโลยีที่จะเจริญเติบโตในพื้นที่ศึกษาสูงการส่งเสริมการขายเป็นสิ่งที่จำเป็น อย่างไรก็ตามเนื่องจากธรรมชาติหลายแง่มุมของปัญหาการดำเนินการแก้ไขเรียกร้องให้มีวิธีการหลายทางวินัยโดยผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดที่มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่เกษตรกรรวมทั้งการวิจัยและการฝึกอบรมจากสถาบัน การออกกำลังกายโปรโมชั่นควรคำนึงถึงข้อ จำกัด การยอมรับว่ารวมถึงการสร้างความตระหนักในการรักษาความปลอดภัยการครอบครองที่ดินซึ่งเป็นเมืองหลวงทางการเงินการพัฒนาปศุสัตว์และการวิจัยและการทบทวนนโยบาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นับตั้งแต่การเปิดตัวของเทคโนโลยีก๊าซชีวภาพในเคนยาในกลาง 1950S เพียงร้อยละขนาดเล็กของเกษตรกรที่ได้นำเทคโนโลยี นอกจากนี้ สถานะการทำงาน และความยั่งยืนของการสร้างก๊าซชีวภาพพืชยังคงไม่ทราบ วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและประเมินปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีและความยั่งยืนของการเลี้ยงโคนมเกษตรกร การศึกษาใช้ Ex Post facto การสำรวจทางสังคมการวิจัยการออกแบบ ประชากรที่ศึกษาคือ 9466 เกษตรกรใน Nakuru Nakuru และเหนือเขตการเลือกของสองร้อยเกษตรกรผ่านขั้นตอนและสุ่มแบบสัดส่วนเพื่อที่จะแสดงงานออกแบบต่าง ๆพืชและเกษตรกร ประชากรในแต่ละเขตการปกครอง . การรวบรวมข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์ก่อนการทดสอบ ,สองชนิดของแบบสอบถามและตารางสังเกตส่วนบุคคลในขณะที่ผ่านการวิเคราะห์เชิงบรรยาย และสถิติอ้างอิง ( Chi square ) โดยใช้โปรแกรม SPSS ผลจากการวิเคราะห์พบว่า ในขณะที่ชาวนาสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยี มันไม่มีผลต่อความยั่งยืนของการสร้างพืชผลการวิจัยสรุปได้ว่า ศักยภาพของเทคโนโลยีงอกงามในพื้นที่การศึกษาสูง การส่งเสริมการขายเป็นสิ่งจำเป็น แต่เนื่องจากลักษณะที่ multifaceted ของปัญหา , แก้ไขการโทรสำหรับวิธีการหลายทางวินัย โดยผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมถึงองค์กร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของรัฐและเอกชน ,เกษตรกร รวมทั้งสถาบันวิจัยและฝึกอบรม ส่งเสริมการออกกำลังกาย ควรพิจารณาการยอมรับข้อจำกัด ได้แก่ การสร้างความตระหนัก การถือครองที่ดินการรักษาความปลอดภัยเงินทุน การพัฒนาปศุสัตว์ และการวิจัย และทบทวนนโยบาย