จากที่เห็นว่าคุณเจ๊อยู่เกาหลีมานานหลายปี รวมๆแล้วก็สองปีกว่าๆ แต่ประสบ การแปล - จากที่เห็นว่าคุณเจ๊อยู่เกาหลีมานานหลายปี รวมๆแล้วก็สองปีกว่าๆ แต่ประสบ ไทย วิธีการพูด

จากที่เห็นว่าคุณเจ๊อยู่เกาหลีมานานห

จากที่เห็นว่าคุณเจ๊อยู่เกาหลีมานานหลายปี รวมๆแล้วก็สองปีกว่าๆ แต่ประสบการณ์ในการคบหากับหนุ่มเกาหลีแบบจริงๆจังๆนี่น้อยมาก มีแต่กิ๊กกั๊กไปเรื่อยๆ ไม่ได้จริงจังอะไร แต่ตอนนี้ได้เข้ามาคลุกคลีวงในแล้วพบว่าความแตกต่างมันมีมากจริงๆ แต่โดยรวมแล้วไม่ถึงกับทำให้เข้ากันไม่ได้

1. ผู้ชายเกาหลีค่อนข้างเซ้นซิทีฟ แล้วก็โรแมนติกนะคะ

ดูจากละครแล้วอาจจะงง เพราะในละครผู้ชายเกาหลีค่อนข้างเถือนใช่ไหมคะ เจ้าน้ำตาด้วย แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เจ้าน้ำตาอะไรนะ หนุ่มเกาหลีก็ไม่ร้องให้พร่ำเพรื่อแบบในละคร และค่อนข้างเซ้นซิทีฟ อย่างเช่น ถ้าคุณทาครีมให้เขาอยู่ทุกวันแล้ววันหนึ่งคุณไม่ทาให้ เขาจะน้อยใจมาก อะไรที่คุณเคยทำแล้วจู่ๆวันนึงลืมไปหรือไม่ทำให้ เขาก็จะโกรธประมาณเนี้ย หรืออย่างในกรณีที่เขาไปส่งคุณถึงที่หน้าบ้าน แต่คุณกลับไม่ส่งเมสเซจถามเขาว่า"เขาถึงบ้านหรือยัง" เขาก็จะงอนมากกกกกก~~~~~~

โดยส่วนตัวไม่ใช่สาวโรแมนติกอะไรนะคะ แต่ก็ไม่ถึงกับถึกอะไร เคยมีประสบการณ์คบกับหนุ่มไทยมานาน เหตูการณ์แบบนี้ทำให้อึ้งไปเหมือนกันค่ะ ไม่คิดว่าตัวเองจะไม่ละเอียดอ่อนขนาดนี้ หนุ่มไทยไม่เห็นค่อยเป็นแบบนี้เลย หนุ่มเกาหลีใจน้อยง่ายมาก แต่ไม่ร้องไห้แบบในละครนะ

อย่างในละครจะเห็นว่าหนุ่มเกาหลีเถื่อน ตบตีอะไรประมาณนี้ แต่ของจริงนี่ไม่เลยนะ ออกจะอยู่ในโอวาท แล้วก็เทคแคร์ดีมาก กระเป๋านี่ก็ถือให้ตลอด อย่างไปซูเปอร์มาเก็ตเนี่ย ตระกร้าหรือรถเข็นจะเห็นได้ว่าผู้ชายเข็นตลอด หนุ่มเกาหลีที่ปล่อยให้ผู้หญิงเข็นรถเข็นนี่ถือว่า เจี้ยมากค่ะ แล้วเอาเข้าจริงๆหนุ่มเกาหลีค่อนข้างเป็นพ่อบ้านพ่อเรือนค่ะ นี่เห็นมาจริงๆไม่ใช่แค่แฟนเจ๊นะคะ แต่เห็นคนรอบข้างด้วย หนุ่มเกาหลีค่อนข้างกลัวเมียทีเดียว เพราะสาวเกาหลีมันน่ากลัวค่ะ~~~~ฮ่าๆ

2. เทศกาลวาเลนไทน์ ไวท์เดย์ และแบล๊กเดย์

เมืองไทยมีแค่วาเลนไทน์ใช่ไหมค่ะ คือ14 กุมภาพันธ์ แต่เกาหลีมีวาเลนไทน์ ไวท์เดย์ (14มีนาคม) และแบล๊กเดย์ ที่เมืองไทยวันวาเลนไทน์คือผู้ชายจะให้ดอกไม้กับแฟนใช่ไหมคะ แต่เกาหลีเนี่ย ผู้หญิงจะให้ดอกไม้หรือช๊อกโกแลตกับคนที่ชอบหรือแฟน เพราะถือเป็นวันสารภาพรักค่ะ ส่วนหนุ่มเกาหลีจะให้ของขวัญตอบแทนความรู้สึกในวันไวท์เดย์ ส่วนหนุ่มสาวที่ไม่ได้ของขวัญในวันวาเลนไทน์และไวท์เดย์ก็จะพากันไปกินจาจังมยอนค่ะ (บะหมี่ซอสดำ) ถือเป็นการแก้เคล็ดอะจ้ะ

ถึงคุณเจ๊จะอยู่มานานแต่เพิ่งรู้ว่ามันเป็นแบบนี้เอาปีนี้เองจ้ะ เพราะทำพลาด เมื่อต้นปีจริงๆแล้วคบกับแฟนเก่าอยู่ แต่ตอนวาเลนไทน์เจ๊ไม่ได้ให้อะไรเขาอะ เพราะนอนรอโทรศัพท์อยู่ว่าทำไมมันไม่โทรมา แอบนั่งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียวว่ามันคงไปเดทกับสาวอื่น ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นแฟนก็โทรมาแล้วถามว่าทำไมไม่โทรหาเขาเมื่อวาน เราก็โมโห เลยทะเลาะกัน เลิกกันไปค่ะ ตลกมาก มารู้ทีหลังจากเพื่อนว่าเขาเป็นกันแบบนี้นะ ก็เลยถึงบางอ้อ..แต่จะให้ไปง้อก็อีโก้มันค้ำคออะค่ะ ปีที่ผ่านมาเจ๊เลยต้องไปกินจาจังมยอน ฮิๆ

3. คำพูดบางประโยคที่พูดเหมือนกัน แต่ความหมายต่างกันเหลือเกิน

เช่น เวลาอยูด้วยกันกับแฟน เขาจะชอบถามว่า "한말 있어?" แปลได้ว่า มีไรจะบอก/พูดไหม? ประสาเราคนไทย ก็นึกว่ามันชวนทะเลาะค่ะ ถามแบบนี้เหมือนชวนทะเลาะไหมละคะ มีไรจะพูดไหม เหมือนเราทำผิดแล้วมีไรจะสารภาพหรือเปล่า หรือว่าเธอปกปิดไรชั้นหรือเปล่า ประมาณนี้เลยค่ะ

เจ๊ละเคื้องเคืองตอนแรก ก็ได้แต่ตอบไปว่า"ไม่มีอะไรจะพูด" มันก็เงียบๆไปละ อารมณ์งอน มารู้เอาทีหลังตอนที่แฟนทนไม่ได้แล้ว เขาเลยบอกว่ารู้เปล่าว่าคนเกาหลีเวลาถามแบบนี้คือ เขาจะให้เราตอบว่า "사랑해~~" หรือ "ฉันรักเธอ" อย่างน้ำเน่าเลยค่ะ แฟนบอกว่าหนุ่มเกาหลีชอบถามแบบนี้มากๆ มีใครเคยโดนถามแบบนี้บ้างเป่า ฮ่าๆ

4. หนุ่มเกาหลีพูดคำว่ารักฟุ่มเฟือย

พูดคำว่า "사랑해" บ่อยมากกกกกๆๆๆๆๆ เป็นคำที่ต้องได้ยินทุกวัน สามเวลาหลังอาหาร ถ้าวันไหนคุณไม่ได้ยินละก็เตรียมใจไว้ได้เลยว่าเขาเปี้ยนไป๊

ตอนแรกก็ไม่ชินค่ะ เลยต้องปรัปตัวให้พูดเลี่ยนๆทุกวันไปด้วยค่ะ เพราะถ้าไม่ทำเจองอนแน่ๆค่ะ อย่างคนไทยนี่การพูดคำว่ารักทุกวันมันเลี่ยนใช่ไหมคะ ถ้ามีหนุ่มคนไหนพูดคำนี้ง่ายๆก็จะโดนมองว่าเจ้าชู้แน่นอน อย่างตอนคบกับแฟนเก่าที่เป็นคนไทย คบกันสี่ปีเคยได้ยินคำนี้แค่ครั้งเดียวในโอกาศพิเศษเท่านั้นเอง

ตอนแรกเนี่ยทะเลาะกับแฟนเลยค่ะ เพราะเขาก็งงว่าทำไมเราไม่พูดคำว่ารักตอบ หรือว่าเราไม่รักเขาประมาณเนี้ย เลยต้องนั่งอธิบายความแตกต่างของวัฒนธรรมไทยกับเกาหลีให้เขาฟัง เขาก็บ่นๆว่าวัฒนธรรมเราแปลกจัง ก็อยากให้เราเปลี่ยนมาเป็นแบบเขาประมาณเนี้ย หลังจากทำไปทุกวันตอนนี้ชินแล้วเลยเริ่มพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
จากที่เห็นว่าคุณเจ๊อยู่เกาหลีมานานหลายปีรวมๆแล้วก็สองปีกว่า ๆ แต่ประสบการณ์ในการคบหากับหนุ่มเกาหลีแบบจริงๆจังๆนี่น้อยมากมีแต่กิ๊กกั๊กไปเรื่อย ๆ ไม่ได้จริงจังอะไรแต่ตอนนี้ได้เข้ามาคลุกคลีวงในแล้วพบว่าความแตกต่างมันมีมากจริง ๆ แต่โดยรวมแล้วไม่ถึงกับทำให้เข้ากันไม่ได้ 1. ผู้ชายเกาหลีค่อนข้างเซ้นซิทีฟแล้วก็โรแมนติกนะคะ ดูจากละครแล้วอาจจะงงเพราะในละครผู้ชายเกาหลีค่อนข้างเถือนใช่ไหมคะเจ้าน้ำตาด้วยแต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เจ้าน้ำตาอะไรนะหนุ่มเกาหลีก็ไม่ร้องให้พร่ำเพรื่อแบบในละครและค่อนข้างเซ้นซิทีฟอย่างเช่นถ้าคุณทาครีมให้เขาอยู่ทุกวันแล้ววันหนึ่งคุณไม่ทาให้เขาจะน้อยใจมากอะไรที่คุณเคยทำแล้วจู่ๆวันนึงลืมไปหรือไม่ทำให้เขาก็จะโกรธประมาณเนี้ยหรืออย่างในกรณีที่เขาไปส่งคุณถึงที่หน้าบ้านแต่คุณกลับไม่ส่งเมสเซจถามเขาว่า "เขาถึงบ้านหรือยัง" เขาก็จะงอนมากกกกกก ~ ~ ~ โดยส่วนตัวไม่ใช่สาวโรแมนติกอะไรนะคะแต่ก็ไม่ถึงกับถึกอะไรเคยมีประสบการณ์คบกับหนุ่มไทยมานานเหตูการณ์แบบนี้ทำให้อึ้งไปเหมือนกันค่ะไม่คิดว่าตัวเองจะไม่ละเอียดอ่อนขนาดนี้หนุ่มไทยไม่เห็นค่อยเป็นแบบนี้เลยหนุ่มเกาหลีใจน้อยง่ายมากแต่ไม่ร้องไห้แบบในละครนะ อย่างในละครจะเห็นว่าหนุ่มเกาหลีเถื่อนตบตีอะไรประมาณนี้แต่ของจริงนี่ไม่เลยนะออกจะอยู่ในโอวาทแล้วก็เทคแคร์ดีมากกระเป๋านี่ก็ถือให้ตลอดอย่างไปซูเปอร์มาเก็ตเนี่ยตระกร้าหรือรถเข็นจะเห็นได้ว่าผู้ชายเข็นตลอดหนุ่มเกาหลีที่ปล่อยให้ผู้หญิงเข็นรถเข็นนี่ถือว่าเจี้ยมากค่ะแล้วเอาเข้าจริงๆหนุ่มเกาหลีค่อนข้างเป็นพ่อบ้านพ่อเรือนค่ะนี่เห็นมาจริงๆไม่ใช่แค่แฟนเจ๊นะคะแต่เห็นคนรอบข้างด้วยหนุ่มเกาหลีค่อนข้างกลัวเมียทีเดียวเพราะสาวเกาหลีมันน่ากลัวค่ะ ~ ~ ~ ฮ่า ๆ 2. เทศกาลวาเลนไทน์ไวท์เดย์และแบล๊กเดย์ เมืองไทยมีแค่วาเลนไทน์ใช่ไหมค่ะ คือ14 กุมภาพันธ์แต่เกาหลีมีวาเลนไทน์ (14มีนาคม) ไวท์เดย์และแบล๊กเดย์ที่เมืองไทยวันวาเลนไทน์คือผู้ชายจะให้ดอกไม้กับแฟนใช่ไหมคะแต่เกาหลีเนี่ยผู้หญิงจะให้ดอกไม้หรือช๊อกโกแลตกับคนที่ชอบหรือแฟนเพราะถือเป็นวันสารภาพรักค่ะส่วนหนุ่มเกาหลีจะให้ของขวัญตอบแทนความรู้สึกในวันไวท์เดย์ส่วนหนุ่มสาวที่ไม่ได้ของขวัญในวันวาเลนไทน์และไวท์เดย์ก็จะพากันไปกินจาจังมยอนค่ะ (บะหมี่ซอสดำ) ถือเป็นการแก้เคล็ดอะจ้ะ ถึงคุณเจ๊จะอยู่มานานแต่เพิ่งรู้ว่ามันเป็นแบบนี้เอาปีนี้เองจ้ะเพราะทำพลาดเมื่อต้นปีจริงๆแล้วคบกับแฟนเก่าอยู่แต่ตอนวาเลนไทน์เจ๊ไม่ได้ให้อะไรเขาอะเพราะนอนรอโทรศัพท์อยู่ว่าทำไมมันไม่โทรมาแอบนั่งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียวว่ามันคงไปเดทกับสาวอื่นปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นแฟนก็โทรมาแล้วถามว่าทำไมไม่โทรหาเขาเมื่อวานเราก็โมโหเลยทะเลาะกันเลิกกันไปค่ะตลกมากมารู้ทีหลังจากเพื่อนว่าเขาเป็นกันแบบนี้นะก็เลยถึงบางอ้อ... แต่จะให้ไปง้อก็อีโก้มันค้ำคออะค่ะปีที่ผ่านมาเจ๊เลยต้องไปกินจาจังมยอนฮิ ๆ 3. คำพูดบางประโยคที่พูดเหมือนกันแต่ความหมายต่างกันเหลือเกิน เช่นเวลาอยูด้วยกันกับแฟนเขาจะชอบถามว่า "한말있어" แปลได้ว่ามีไรจะบอก/พูดไหม ประสาเราคนไทยก็นึกว่ามันชวนทะเลาะค่ะถามแบบนี้เหมือนชวนทะเลาะไหมละคะมีไรจะพูดไหมเหมือนเราทำผิดแล้วมีไรจะสารภาพหรือเปล่าหรือว่าเธอปกปิดไรชั้นหรือเปล่าประมาณนี้เลยค่ะ เจ๊ละเคื้องเคืองตอนแรกก็ได้แต่ตอบไปว่า "ไม่มีอะไรจะพูด" มันก็เงียบๆไปละอารมณ์งอนมารู้เอาทีหลังตอนที่แฟนทนไม่ได้แล้วเขาเลยบอกว่ารู้เปล่าว่าคนเกาหลีเวลาถามแบบนี้คือเขาจะให้เราตอบว่า "사랑해 ~ ~ " หรือ "ฉันรักเธอ" อย่างน้ำเน่าเลยค่ะแฟนบอกว่าหนุ่มเกาหลีชอบถามแบบนี้มาก ๆ มีใครเคยโดนถามแบบนี้บ้างเป่าฮ่า ๆ 4. หนุ่มเกาหลีพูดคำว่ารักฟุ่มเฟือย พูดคำว่า "사랑해" บ่อยมากกกกกๆๆๆๆ ๆ เป็นคำที่ต้องได้ยินทุกวันสามเวลาหลังอาหารถ้าวันไหนคุณไม่ได้ยินละก็เตรียมใจไว้ได้เลยว่าเขาเปี้ยนไป๊ ตอนแรกก็ไม่ชินค่ะเลยต้องปรัปตัวให้พูดเลี่ยนๆทุกวันไปด้วยค่ะเพราะถ้าไม่ทำเจองอนแน่ๆค่ะอย่างคนไทยนี่การพูดคำว่ารักทุกวันมันเลี่ยนใช่ไหมคะถ้ามีหนุ่มคนไหนพูดคำนี้ง่ายๆก็จะโดนมองว่าเจ้าชู้แน่นอนอย่างตอนคบกับแฟนเก่าที่เป็นคนไทยคบกันสี่ปีเคยได้ยินคำนี้แค่ครั้งเดียวในโอกาศพิเศษเท่านั้นเอง ตอนแรกเนี่ยทะเลาะกับแฟนเลยค่ะเพราะเขาก็งงว่าทำไมเราไม่พูดคำว่ารักตอบหรือว่าเราไม่รักเขาประมาณเนี้ยเลยต้องนั่งอธิบายความแตกต่างของวัฒนธรรมไทยกับเกาหลีให้เขาฟังเขาก็บ่นๆว่าวัฒนธรรมเราแปลกจังก็อยากให้เราเปลี่ยนมาเป็นแบบเขาประมาณเนี้ยหลังจากทำไปทุกวันตอนนี้ชินแล้วเลยเริ่มพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
รวม ๆ แล้วก็สองปีกว่า ๆ มี แต่กิ๊กกั๊กไปเรื่อย ๆ ไม่ได้จริงจังอะไร ผู้ชายเกาหลีค่อนข้างเซ้นซิทีฟ เจ้าน้ำตาด้วย และค่อนข้างเซ้นซิทีฟอย่างเช่น เขาจะน้อยใจมาก เขาก็จะโกรธประมาณเนี้ย แต่ก็ไม่ถึงกับถึกอะไรเคยมีประสบการณ์คบกับหนุ่มไทยมานาน หนุ่มไทยไม่เห็นค่อยเป็นแบบนี้เลยหนุ่มเกาหลีใจน้อยง่ายมาก ตบตีอะไรประมาณนี้ แต่ของจริงนี่ไม่เลยนะออกจะอยู่ในโอวาทแล้วก็เทคแคร์ดีมากกระเป๋านี่ก็ถือให้ตลอดอย่างไปซูเปอร์มาเก็ตเนี่ย เจี้ยมากค่ะ นี่เห็นมาจริงๆไม่ใช่แค่แฟนเจ๊นะคะ แต่เห็นคนรอบข้างด้วย เพราะสาวเกาหลีมันน่ากลัวค่ะ ~~~~ ฮ่า ๆ2 เทศกาลวาเลนไทน์ไวท์เดย์ คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ แต่เกาหลีมีวาเลนไทน์ไวท์เดย์ (14 มีนาคม) และแบล๊กเดย์ แต่เกาหลีเนี่ย เพราะถือเป็นวันสารภาพรักค่ะ (บะหมี่ซอสดำ) เพราะทำพลาด เราก็โมโหเลยทะเลาะกันเลิกกันไปค่ะตลกมาก ฮิ ๆ3 คำพูดบางประโยคที่พูดเหมือนกัน แต่ความหมายต่างกันเหลือเกินเช่นเวลาอยูด้วยกันกับแฟนเขาจะชอบถามว่าได้ " 한 말 있 어 ?" แปลได้ว่ามีไรจะบอก / พูดไหม? ประสาเราคนไทยก็นึกว่ามันชวนทะเลาะค่ะถามแบบนี้เหมือนชวนทะเลาะไหมละคะมีไรจะพูดไหม หรือว่าเธอปกปิดไรชั้นหรือเปล่า ก็ได้ แต่ตอบไปว่า "ไม่มีอะไรจะพูด" มันก็เงียบ ๆ ไปละอารมณ์งอน เขาจะให้เราตอบว่า " 사 랑 해 ~~" หรือ "ฉันรักเธอ" อย่างน้ำเน่าเลยค่ะ มีใครเคยโดนถามแบบนี้บ้างเป่าฮ่า ๆ4 " 사 랑 해 " บ่อยมากกกกก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เป็นคำที่ต้องได้ยินทุกวันสามเวลาหลังอาหาร เพราะถ้าไม่ทำเจองอนแน่ ๆ ค่ะ อย่างตอนคบกับแฟนเก่าที่เป็นคนไทย หรือว่าเราไม่รักเขาประมาณเนี้ย เขาก็บ่น ๆ ว่าวัฒนธรรมเราแปลกจัง




























การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
จากที่เห็นว่าคุณเจ๊อยู่เกาหลีมานานหลายปีรวมๆแล้วก็สองปีกว่าๆแต่ประสบการณ์ในการคบหากับหนุ่มเกาหลีแบบจริงๆจังๆนี่น้อยมากมีแต่กิ๊กกั๊กไปเรื่อยๆไม่ได้จริงจังอะไรแต่โดยรวมแล้วไม่ถึงกับทำให้เข้ากันไม่ได้

1 ผู้ชายเกาหลีค่อนข้างเซ้นซิทีฟแล้วก็โรแมนติกนะคะ

ดูจากละครแล้วอาจจะงงเพราะในละครผู้ชายเกาหลีค่อนข้างเถือนใช่ไหมคะเจ้าน้ำตาด้วยแต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เจ้าน้ำตาอะไรนะหนุ่มเกาหลีก็ไม่ร้องให้พร่ำเพรื่อแบบในละครและค่อนข้างเซ้นซิทีฟอย่างเช่นเขาจะน้อยใจมากอะไรที่คุณเคยทำแล้วจู่ๆวันนึงลืมไปหรือไม่ทำให้เขาก็จะโกรธประมาณเนี้ยหรืออย่างในกรณีที่เขาไปส่งคุณถึงที่หน้าบ้านแต่คุณกลับไม่ส่งเมสเซจถามเขาว่า " เขาถึงบ้านหรือยัง " เขาก็จะงอนมากกกกกก ~~~~~~

โดยส่วนตัวไม่ใช่สาวโรแมนติกอะไรนะคะแต่ก็ไม่ถึงกับถึกอะไรเคยมีประสบการณ์คบกับหนุ่มไทยมานานเหตูการณ์แบบนี้ทำให้อึ้งไปเหมือนกันค่ะไม่คิดว่าตัวเองจะไม่ละเอียดอ่อนขนาดนี้หนุ่มเกาหลีใจน้อยง่ายมากแต่ไม่ร้องไห้แบบในละครนะ

อย่างในละครจะเห็นว่าหนุ่มเกาหลีเถื่อนตบตีอะไรประมาณนี้แต่ของจริงนี่ไม่เลยนะออกจะอยู่ในโอวาทแล้วก็เทคแคร์ดีมากกระเป๋านี่ก็ถือให้ตลอดอย่างไปซูเปอร์มาเก็ตเนี่ยหนุ่มเกาหลีที่ปล่อยให้ผู้หญิงเข็นรถเข็นนี่ถือว่าเจี้ยมากค่ะแล้วเอาเข้าจริงๆหนุ่มเกาหลีค่อนข้างเป็นพ่อบ้านพ่อเรือนค่ะนี่เห็นมาจริงๆไม่ใช่แค่แฟนเจ๊นะคะแต่เห็นคนรอบข้างด้วยเพราะสาวเกาหลีมันน่ากลัวค่ะ ~ ~ ~ ~ ~ ฮ่าๆ

2 . เทศกาลวาเลนไทน์ไวท์เดย์และแบล๊กเดย์

เมืองไทยมีแค่วาเลนไทน์ใช่ไหมค่ะความ 14 กุมภาพันธ์แต่เกาหลีมีวาเลนไทน์ไวท์เดย์ ( 14 มีนาคม ) และแบล๊กเดย์ที่เมืองไทยวันวาเลนไทน์คือผู้ชายจะให้ดอกไม้กับแฟนใช่ไหมคะแต่เกาหลีเนี่ยเพราะถือเป็นวันสารภาพรักค่ะส่วนหนุ่มเกาหลีจะให้ของขวัญตอบแทนความรู้สึกในวันไวท์เดย์ส่วนหนุ่มสาวที่ไม่ได้ของขวัญในวันวาเลนไทน์และไวท์เดย์ก็จะพากันไปกินจาจังมยอนค่ะ ( บะหมี่ซอสดำ ) ถือเป็นการแก้เคล็ดอะจ้ะ
ถึงคุณเจ๊จะอยู่มานานแต่เพิ่งรู้ว่ามันเป็นแบบนี้เอาปีนี้เองจ้ะเพราะทำพลาดเมื่อต้นปีจริงๆแล้วคบกับแฟนเก่าอยู่แต่ตอนวาเลนไทน์เจ๊ไม่ได้ให้อะไรเขาอะเพราะนอนรอโทรศัพท์อยู่ว่าทำไมมันไม่โทรมาปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นแฟนก็โทรมาแล้วถามว่าทำไมไม่โทรหาเขาเมื่อวานเราก็โมโหเลยทะเลาะกันเลิกกันไปค่ะตลกมากมารู้ทีหลังจากเพื่อนว่าเขาเป็นกันแบบนี้นะก็เลยถึงบางอ้อ .. แต่จะให้ไปง้อก็อีโก้มันค้ำคออะค่ะปีที่ผ่านมาเจ๊เลยต้องไปกินจาจังมยอนฮิๆ

3 คำพูดบางประโยคที่พูดเหมือนกันแต่ความหมายต่างกันเหลือเกิน

เช่นเวลาอยูด้วยกันกับแฟนเขาจะชอบถามว่า " 한말있어 ?" แปลได้ว่ามีไรจะบอก / พูดไหม ? ประสาเราคนไทยก็นึกว่ามันชวนทะเลาะค่ะถามแบบนี้เหมือนชวนทะเลาะไหมละคะมีไรจะพูดไหมเหมือนเราทำผิดแล้วมีไรจะสารภาพหรือเปล่าหรือว่าเธอปกปิดไรชั้นหรือเปล่าประมาณนี้เลยค่ะ

เจ๊ละเคื้องเคืองตอนแรกก็ได้แต่ตอบไปว่า " ไม่มีอะไรจะพูด " มันก็เงียบๆไปละอารมณ์งอนมารู้เอาทีหลังตอนที่แฟนทนไม่ได้แล้วเขาเลยบอกว่ารู้เปล่าว่าคนเกาหลีเวลาถามแบบนี้คือเขาจะให้เราตอบว่า " 사랑해 ~ ~ " ค็อคอย่างน้ำเน่าเลยค่ะแฟนบอกว่าหนุ่มเกาหลีชอบถามแบบนี้มากๆมีใครเคยโดนถามแบบนี้บ้างเป่าฮ่าๆ

4 หนุ่มเกาหลีพูดคำว่ารักฟุ่มเฟือย

พูดคำว่า " 사랑해 " บ่อยมากกกกกๆๆๆๆๆเป็นคำที่ต้องได้ยินทุกวันสามเวลาหลังอาหารถ้าวันไหนคุณไม่ได้ยินละก็เตรียมใจไว้ได้เลยว่าเขาเปี้ยนไป๊

ตอนแรกก็ไม่ชินค่ะเลยต้องปรัปตัวให้พูดเลี่ยนๆทุกวันไปด้วยค่ะเพราะถ้าไม่ทำเจองอนแน่ๆค่ะอย่างคนไทยนี่การพูดคำว่ารักทุกวันมันเลี่ยนใช่ไหมคะถ้ามีหนุ่มคนไหนพูดคำนี้ง่ายๆก็จะโดนมองว่าเจ้าชู้แน่นอนคบกันสี่ปีเคยได้ยินคำนี้แค่ครั้งเดียวในโอกาศพิเศษเท่านั้นเอง

ตอนแรกเนี่ยทะเลาะกับแฟนเลยค่ะเพราะเขาก็งงว่าทำไมเราไม่พูดคำว่ารักตอบหรือว่าเราไม่รักเขาประมาณเนี้ยเลยต้องนั่งอธิบายความแตกต่างของวัฒนธรรมไทยกับเกาหลีให้เขาฟังเขาก็บ่นๆว่าวัฒนธรรมเราแปลกจังหลังจากทำไปทุกวันตอนนี้ชินแล้วเลยเริ่มพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: