The larger particles resulted in a

The larger particles resulted in a positive effect on biomass production
(Fig. 1a). According to previous studies (Membrillo et al.,
2011, 2008; Valera et al., 2005), substrate particle size can provide
two types of opposite effects on solid-state fermentation. Substrates
with smaller particles provide a larger contact area between
the fungus and the substrate, favoring its growth whereas very
small particles are more susceptible to compaction and the formation
of agglomerates, resulting in decreased oxygen transfer, affecting
respiration and fungal development. The larger particles in the
current study had a higher porosity than the smaller particles (Table
3); however, in contrast to findings by others (Membrillo et al.,
2011; Valera et al., 2005), particles with a larger diameter also presented
a higher surface area (Table 3). Despite the larger surface
area and pore volume, 0.39 mmparticles had pores that did not exceed
7 nm. Since, the diameter of the hyphae Rizhopus is usually
greater than 10 nm (Alexopoulos et al., 1996), the fungus would
likely grow on the outside of the particles.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อนุภาคขนาดใหญ่ทำให้เกิดผลดีต่อการผลิตชีวมวล(Fig. 1a) ตามการศึกษาก่อนหน้านี้ (Membrillo et al.,2011, 2008 Valera et al., 2005) พื้นผิวขนาดอนุภาคสามารถให้สองชนิดตรงกันข้ามผลหมักโซลิดสเตต พื้นผิวด้วยอนุภาคขนาดเล็กให้มีขนาดใหญ่พื้นที่ระหว่างเชื้อรานี้และพื้นผิว นความเจริญเติบโตของในขณะที่มากอนุภาคขนาดเล็กที่มีการก่อตัวและกระชับข้อมูลของ agglomerates เกิดขึ้นในการโอนย้ายของออกซิเจนลดลง ส่งผลกระทบต่อการหายใจและพัฒนาเชื้อรา อนุภาคขนาดใหญ่ในการการศึกษาปัจจุบันมี porosity สูงกว่าอนุภาคขนาดเล็ก (ตาราง3); อย่างไรก็ตาม ตรงข้ามพบผู้อื่น (Membrillo et al.,2011 Valera et al., 2005), อนุภาค มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่ยัง มีการนำเสนอความสูงพื้นที่ (ตาราง 3) แม้ มีพื้นที่ขนาดใหญ่ไดรฟ์ข้อมูลพื้นที่และรูขุมขน 0.39 mmparticles มีรูขุมขนที่ไม่เกิน7 nm ตั้งแต่ เส้นผ่าศูนย์กลางของ hyphae Rizhopus มักจะเป็นมากกว่า 10 nm (Alexopoulos et al., 1996), เชื้อราจะมีแนวโน้มเติบโตด้านนอกของอนุภาค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อนุภาคขนาดใหญ่ส่งผลให้ผลบวกต่อการผลิตชีวมวล
(รูป. 1a) อ้างอิงจากการศึกษาก่อนหน้านี้ (Membrillo, et al.
2011, 2008;. วาเลร่า, et al, 2005) ขนาดอนุภาคสารตั้งต้นที่สามารถให้
ทั้งสองประเภทของผลกระทบตรงข้ามในการหมักแบบ solid-state พื้นผิว
ที่มีอนุภาคขนาดเล็กมีพื้นที่ติดต่อขนาดใหญ่ระหว่าง
เชื้อราและสารตั้งต้นที่นิยมในขณะที่การเติบโตของ บริษัท มาก
อนุภาคขนาดเล็กจะอ่อนแอมากขึ้นการบดอัดและการก่อตัว
ของก้อนส่งผลในการถ่ายโอนออกซิเจนลดลงส่งผลกระทบต่อ
การหายใจและการพัฒนาของเชื้อรา อนุภาคขนาดใหญ่ใน
การศึกษาในปัจจุบันมีความพรุนสูงกว่าอนุภาคขนาดเล็ก (ตารางที่
3) แต่ในทางตรงกันข้ามกับผลการวิจัยของผู้อื่น (Membrillo, et al.
2011;. วาเลร่า, et al, 2005), อนุภาคที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่ยังนำเสนอ
พื้นที่ผิวที่สูงขึ้น (ตารางที่ 3) แม้จะมีพื้นผิวขนาดใหญ่
ในพื้นที่และปริมาณรูขุมขน, 0.39 mmparticles มีรูขุมขนที่ไม่เกิน
7 นาโนเมตร เนื่องจากขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นใย Rizhopus มักจะ
สูงกว่า 10 นาโนเมตร (Alexopoulos et al., 1996), เชื้อราจะ
มีแนวโน้มเติบโตที่ด้านนอกของอนุภาค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อนุภาคที่มีขนาดใหญ่ก่อให้เกิดผลในทางบวก
การผลิตชีวมวล ( รูปที่ 1A ) จากการศึกษาก่อนหน้านี้ ( membrillo et al . ,
2011 , 2008 ; วาเลร่า et al . , 2005 ) , ขนาดอนุภาคพื้นผิวสามารถให้
สองชนิดของผลตรงกันข้ามกับของการหมัก พื้นผิว
กับอนุภาคขนาดเล็กให้มีขนาดใหญ่พื้นที่สัมผัสระหว่าง
เชื้อราและพื้นผิวของการเจริญเติบโตในขณะที่มาก
, นิยมอนุภาคขนาดเล็กจะอ่อนแอมากขึ้นเพื่อการบดอัดและการก่อตัว
ของ agglomerates เป็นผลในการถ่ายเทออกซิเจนลดลง มีผลกระทบต่อการหายใจและพัฒนา
รา ขนาดใหญ่ในระบบการศึกษาปัจจุบันมีความพรุน
สูงกว่าอนุภาคขนาดเล็ก ( โต๊ะ
3 ) แต่ในทางตรงกันข้ามจะพบโดยคนอื่น ๆ ( membrillo et al . ,
2011 ; วาเลร่า et al . , 2005 )อนุภาคที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ยังนำเสนอ
พื้นที่ผิวสูงกว่า ( ตารางที่ 3 ) แม้จะมีขนาดใหญ่พื้นที่ผิวและปริมาตรรูพรุน
0.39 mmparticles มีรูขุมขนที่ไม่เกิน
7 นาโนเมตร ตั้งแต่ เส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นใย rizhopus มัก
มากกว่า 10 nm ( แอลิกซอเปอลิส et al . , 1996 ) , เชื้อราจะ
อาจเติบโตด้านนอกของอนุภาค