Post-consumer cushioning packaging

Post-consumer cushioning packaging waste made from expanded polystyrene or other conventional
polymers is rarely recycled because of technical and economic constraints. Expanded packaging can also
be made from renewable and biodegradable raw materials. In this case, the use of a renewable feedstock,
such as starch, can reduce the oil dependence and biodegradability can enable the organic recycling of
the final product. In this study, a life cycle assessment was performed on a prototype (a port-hole spacer
for washing machines) developed in a research project by applying a biodegradable plastic expanded by
means of microwave technology. Port-hole spacers for washing machines are mainly made from
expanded polystyrene. Life cycle assessment results indicate that the prototype is characterized by a
lower consumption of non-renewable energy resources (
50%) and lower greenhouse gas emissions
(
60%) compared to the benchmark (expanded polystyrene packaging). This was mainly due to the use
of a renewable feedstock (starch). The photochemical ozone creation potential resulted significantly
lower (
90%) thanks to the abolition of the expanding agent (i.e. pentane) used in the polystyrene
expansion process. The robustness of the results was assessed through data quality checks and a Monte
Carlo simulation. A sensitivity analysis showed that the environmental profile of the prototype is mainly
affected by the Land Use Change for global warming potential and by the type of starch used for
eutrophication and acidification. The type of electricity used (i.e. fossil-based or renewable) for the
microwave expansion process also affects the results. The use of biodegradable packaging makes it
possible to increase the level of recovery by means of organic recycling. Considering the organic recycling
rate in the countries where the washing machines are supplied it has been estimated that the cushioning
packaging waste that goes to landfill would go from 52% (current scenario with expanded polystyrene
packaging) to 37%, whereas recycling would go from 0.5% (mechanical recycling of expanded polystyrene)
to 40% (organic recycling of the prototype). This paper shows that the use of a packaging system
potentially suitable for inclusion in the industrial composting process opens new routes for waste
treatment, thus increasing diversion from landfill. It can be argued that the combination of the use of
renewable resources, and the possibility to get a compostable packaging product give rise to interesting
future outlook. On one site a reduction of oil dependence can be achieved and, on the other side, the
diffusion of packaging products not easy to recycle as post-consume waste and characterized by a very
long persistence in the environment is reduced. This paper contributes to the current discussion on the
benefits of bio-based and bio-degradable materials, whose production volumes are steadily increasing.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขยะบรรจุภัณฑ์กันกระแทกหลังทำจากโฟมหรืออื่น ๆ ทั่วไปเป็นโพลิเมอร์ไม่ค่อยรีไซเคิลเนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิค และเศรษฐกิจ ยังสามารถขยายการบรรจุภัณฑ์ทำจากวัตถุดิบทดแทน และสามารถย่อยสลาย ในกรณีนี้ การใช้วัตถุดิบทดแทนเช่นแป้ง สามารถลดการพึ่งพาน้ำมัน และย่อยสลายทางชีวภาพสามารถเปิดใช้งานรีไซเคิลอินทรีย์ของผลิตภัณฑ์สุดท้าย ในการศึกษานี้ มีการประเมินวงจรชีวิตทำการตามต้นแบบ (พอร์ตหลุม spacerสำหรับเครื่องซักผ้า) ในโครงการวิจัยที่พัฒนา โดยการใช้พลาสติกย่อยสลายได้โดยหมายถึงเทคโนโลยีไมโครเวฟ พอร์ตหลุมอวกาศสำหรับเครื่องซักผ้าเป็นส่วนใหญ่ทำจากโฟมพลาสติก การประเมินวัฏจักรชีวิตผลลัพธ์บ่งชี้ว่า เป็นลักษณะต้นแบบของการลดปริมาณการใช้ทรัพยากรพลังงานหมุนเวียน (50%) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก(60%) เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน (บรรจุภัณฑ์สไตขยาย) ส่วนใหญ่มาจากการใช้วัตถุดิบทดแทน (แป้ง) การสร้างโอโซน photochemical อาจเกิดผลอย่างมีนัยสำคัญลด (90%) จากการเลิกตัวแทนขยาย (เช่น pentane) ใช้ในสไตรีนกระบวนการขยายตัว เสถียรภาพของผลได้รับการประเมินผ่านการตรวจสอบคุณภาพข้อมูลและมอนการจำลอง Carlo การวิเคราะห์ความไวแสดงให้เห็นว่า ประวัติสิ่งแวดล้อมของต้นแบบเป็นส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ จากการเปลี่ยน แปลงการใช้ที่ดินสำหรับศักยภาพภาวะโลก และ ตามชนิดของแป้งที่ใช้สำหรับผลกระทบต่อและกรด ชนิดของไฟฟ้าที่ใช้ (เช่น ตามซากดึกดำบรรพ์ หรือหมุนเวียน) สำหรับการกระบวนการขยายตัวไมโครเวฟยังมีผลต่อผลลัพธ์ การใช้บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ทำให้มันไปเพิ่มระดับของการกู้คืนโดยใช้วิธีการรีไซเคิลอินทรีย์ พิจารณาการรีไซเคิลอินทรีย์ราคาในประเทศที่จะมาพร้อมเครื่องซักผ้า ประมาณที่กันกระแทกขยะบรรจุภัณฑ์ที่ไปฝังกลบจะไป 52% (สถานการณ์ปัจจุบันกับสไตบรรจุภัณฑ์) ไป 37% ในขณะที่การรีไซเคิลจะไปจาก 0.5% (รีไซเคิลกลของสไต)40% (อินทรีย์รีไซเคิลของต้นแบบ) เอกสารนี้แสดงให้เห็นว่าการใช้ระบบการบรรจุภัณฑ์อาจเหมาะสำหรับการรวมในอุตสาหกรรมการหมักกระบวนการเปิดเส้นทางใหม่สำหรับขยะรักษา เพิ่มผันจากฝังกลบ มันสามารถจะแย้งที่ผสมผสานการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน และโอกาสที่จะได้รับผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ก่อให้เกิดสนใจแนวโน้มในอนาคต เว็บไซต์หนึ่งที่สามารถทำได้ในการลดการพึ่งพาน้ำมัน และ ด้านอื่น ๆ การการกระจายของผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลตามหลังกินเสียง่าย และโดยไม่มีมากคงทนยาวนานในสิ่งแวดล้อมจะลดลง กระดาษนี้ก่อให้เกิดการสนทนาปัจจุบันในการประโยชน์ของวัสดุชีวภาพ และย่อยสลาย ได้ทางชีวภาพ ปริมาณการผลิตที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องเพิ่ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Post-Consumer เสียจากบรรจุภัณฑ์กันกระแทกทำจากสไตรีนที่ขยายหรืออื่น ๆ ทั่วไป
โพลิเมอร์ไม่ค่อยรีไซเคิลเนื่องจากข้อ จำกัด ทางเทคนิคและเศรษฐกิจ บรรจุภัณฑ์การขยายตัวยังสามารถ
จะทำจากวัตถุดิบทดแทนและย่อยสลายได้ ในกรณีนี้การใช้วัตถุดิบทดแทน
เช่นแป้งสามารถลดการพึ่งพาน้ำมันและย่อยสลายทางชีวภาพสามารถเปิดใช้งานรีไซเคิลอินทรีย์ของ
ผลิตภัณฑ์สุดท้าย ในการศึกษานี้การประเมินวงจรชีวิตได้รับการดำเนินการเกี่ยวกับต้นแบบ (ก spacer พอร์ตหลุม
สำหรับเครื่องซักผ้า) การพัฒนาในโครงการวิจัยโดยการใช้พลาสติกที่ย่อยสลายได้ขยายได้โดย
วิธีการของเทคโนโลยีไมโครเวฟ spacers Port-หลุมสำหรับเครื่องซักผ้าส่วนใหญ่จะทำจาก
สไตรีนที่ขยาย ผลการประเมินวงจรชีวิตระบุว่าต้นแบบที่โดดเด่นด้วย
การบริโภคที่ลดลงของทรัพยากรสิ้นเปลืองพลังงาน (50%) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลง
(60%) เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน (บรรจุภัณฑ์ polystyrene ขยาย) เดอะ นี้เป็นส่วนใหญ่เนื่องจากการใช้งาน
ของวัตถุดิบทดแทน (แป้ง) แสงที่มีศักยภาพในการสร้างโอโซนส่งผลอย่างมีนัยสำคัญ
ที่ต่ำกว่า (90%) ต้องขอบคุณการยกเลิกของตัวแทนขยาย (เช่นเพนเทน) ที่ใช้ในสไตรีน
กระบวนการขยายตัว ทนทานของผลที่ได้รับการประเมินผ่านการตรวจสอบคุณภาพของข้อมูลและ Monte
จำลองติคาร์โล การวิเคราะห์ความไวแสดงให้เห็นว่ารายละเอียดด้านสิ่งแวดล้อมของต้นแบบส่วนใหญ่จะ
ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินที่มีศักยภาพภาวะโลกร้อนและตามประเภทของแป้งที่ใช้สำหรับ
eutrophication และกรด ประเภทของการผลิตไฟฟ้าที่ใช้ (เช่นฟอสซิลหรือพลังงานทดแทน) สำหรับ
กระบวนการขยายตัวไมโครเวฟยังมีผลต่อผล การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ทำให้มันเป็น
ไปได้ที่จะเพิ่มระดับของการกู้คืนโดยวิธีการของการรีไซเคิลอินทรีย์ เมื่อพิจารณาจากการรีไซเคิลอินทรีย์
อัตราในประเทศที่เครื่องซักผ้าที่จัดมาจะได้รับการคาดการณ์ว่ากระแทก
เสียจากบรรจุภัณฑ์ที่จะไปฝังกลบจะไปจาก 52% (สถานการณ์ปัจจุบันกับ polystyrene ขยายตัว
บรรจุภัณฑ์) ถึง 37% ในขณะที่การรีไซเคิลจะไปจากที่ 0.5 % (รีไซเคิลเชิงกลของสไตรีนที่ขยาย)
ถึง 40% (รีไซเคิลอินทรีย์ต้นแบบ) กระดาษนี้จะแสดงให้เห็นว่าการใช้ระบบบรรจุภัณฑ์
ที่อาจเกิดขึ้นเหมาะสำหรับการรวมอยู่ในขั้นตอนการทำปุ๋ยหมักอุตสาหกรรมเปิดเส้นทางใหม่เสีย
การรักษาซึ่งจะเป็นการเพิ่มการเบี่ยงเบนจากการฝังกลบ มันสามารถจะแย้งว่าการรวมกันของการใช้งานของ
ทรัพยากรหมุนเวียนและความเป็นไปได้ที่จะได้รับสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ก่อให้เกิดความน่าสนใจ
แนวโน้มในอนาคต บนเว็บไซต์การลดลงของการพึ่งพาน้ำมันสามารถทำได้และในด้านอื่น ๆ ที่
แพร่กระจายของผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำมาโพสต์บริโภคเสียและโดดเด่นด้วยมาก
ติดตายาวในสภาพแวดล้อมจะลดลง กระดาษนี้จะก่อให้เกิดการอภิปรายในปัจจุบันเกี่ยวกับ
ผลประโยชน์ของวัสดุชีวภาพที่ใช้และการย่อยสลายทางชีวภาพที่มีปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้บริโภคโพสต์กระแทกวัสดุบรรจุภัณฑ์ทำจากโฟมขยายหรือปกติอื่น ๆพอลิเมอร์ไม่ค่อยรีไซเคิลเพราะข้อจำกัดทางเทคนิคและทางเศรษฐกิจ บรรจุภัณฑ์ขยายยังสามารถาจากพลังงานทดแทนและย่อยสลายวัสดุดิบ ในกรณีนี้ใช้เป็นวัตถุดิบทดแทนเช่น แป้ง สามารถลดการพึ่งพาน้ำมันและย่อยสลายทางชีวภาพสามารถใช้อินทรีย์ การรีไซเคิลผลิตภัณฑ์สุดท้าย ในการศึกษาครั้งนี้ ได้ดำเนินการในการประเมินวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ( พอร์ตหลุมสเปเซอร์สำหรับเครื่องซักผ้า ) พัฒนาในโครงการวิจัย โดยการใช้พลาสติกย่อยสลายทางชีวภาพที่ได้ขยายโดยความหมายของเทคโนโลยีไมโครเวฟ . พอร์ตหลุม spacers สำหรับเครื่องซักผ้า ส่วนใหญ่ทำจากโฟมขยายตัว ผลการประเมินวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ พบว่า เป็นลักษณะของต้นแบบลดการบริโภคที่ไม่ใช่พลังงานทดแทน RESOURCES ( 50% ) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก( 60 % ) เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ( ขยายบรรจุภัณฑ์พอลิสไตรีน ) นี้เป็นหลักเนื่องจากการใช้เป็นวัตถุดิบทดแทน ( แป้ง ) การสร้างศักยภาพทางเคมีก่อให้เกิดโอโซนล่าง ( 90% ) ต้องขอบคุณ การขยายตัวแทน ( เช่นเพนเทน ) ใช้ในพอลิสไตรีนกระบวนการของการ เสถียรภาพของผลและผ่านการตรวจสอบคุณภาพของข้อมูล และมอนติคาร์โล การวิเคราะห์ความอ่อนไหว พบว่า ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมของต้นแบบเป็น ส่วนใหญ่ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน ศักยภาพโลกร้อนและตามชนิดของแป้งที่ใช้สำหรับยูโทรฟิเคชันและการสร้าง . ชนิดของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ ( เช่น ฟอสซิล ตาม หรือทดแทน ) สำหรับกระบวนการขยายไมโครเวฟยังมีผลต่อผลลัพธ์ การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ ทำให้มันสามารถเพิ่มระดับของการกู้คืนโดยใช้วิธีการอินทรีย์รีไซเคิล พิจารณารีไซเคิลอินทรีย์อัตราในประเทศที่เป็น เครื่องซักผ้า ให้มีการประเมินที่ห่อหุ้มของเสียประเภทบรรจุภัณฑ์ที่ไปฝังกลบไปจาก 52% ( ปัจจุบันสถานการณ์กับโฟมขยายบรรจุภัณฑ์ ) ถึง 37 เปอร์เซ็นต์ และรีไซเคิล จะไปจาก 0.5% ( รีไซเคิลเชิงกลของโฟมขยาย )40% ( รีไซเคิลอินทรีย์ของต้นแบบ ) บทความนี้แสดงให้เห็นว่าการใช้ระบบบรรจุภัณฑ์อาจเหมาะสำหรับการรวมในกระบวนการทำปุ๋ยหมักอุตสาหกรรมเปิดเส้นทางใหม่สำหรับเสียการรักษาจึงผันจากการฝังกลบ มันสามารถจะแย้งว่า การใช้ทรัพยากรพลังงานทดแทน และเป็นไปได้ที่จะได้รับผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ให้สูงขึ้นเพื่อที่น่าสนใจOutlook ในอนาคต ในเว็บไซต์หนึ่งเพื่อลดการพึ่งพาน้ำมัน สามารถเกิดขึ้นได้ และในด้านอื่น ๆการแพร่กระจายของผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ไม่ง่ายที่จะรีไซเคิลเป็นกระทู้กินของเสียและลักษณะ โดยมากยาวคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมลดลง กระดาษนี้ก่อให้เกิดการอภิปรายในประโยชน์ของไบโอชีวภาพย่อยสลายได้และใช้วัสดุที่มีปริมาณการผลิตจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง .