วงศ์นกพิราบและนกเขา (อังกฤษ: Dove,

วงศ์นกพิราบและนกเขา (อังกฤษ: Dove, Pigeon) เป็นวงศ์ของนกที่อยู่ในอันดับ Columbiformes ซึ่งมีอยู่เพียงวงศ์เดียว คือ Columbidae

เป็นนกที่มีขนาดตั้งแต่เล็กมากจนถึงใหญ่ (15-120 เซนติเมตร) มีลักษณะโดยทั่วไป คือ อ้วนกลม คอสั้น ปากเรียวมีปุ่มเนื้อเหนือปาก ปากเล็ก สันปากบนโค้งเล็กน้อย รูจมูกไม่ทะลุถึงกันเพราะมีผนังกั้น หางยาวปานกลาง ปลายหางมนกลมหรือแหลม ขนหางมี 12-20 เส้น ปีกยาวปานกลาง ขนปลายปีกมี 11 เส้น (10 เส้นทำหน้าที่ในการบิน) ขนกลางปีกมี 11-15 เส้น และมักไม่มีขนกลางปีกเส้นที่ 5 ขาสั้น หน้าแข้งเป็นเกล็ดแบบซ้อน บริเวณอื่นเป็นเกล็ดแบบร่างแห

ตัวเต็มวัยไม่มีขนอุย ขนไม่มีแกนขนรองหรือมีแต่เล็กมาก ต่อมน้ำมันไม่มีขนปกคลุมหรือไม่มีต่อมน้ำมัน ผิวหนังบอบบาง

เป็นนกที่กินพืชเป็นอาหาร โดยเฉพาะ เมล็ดพืชและธัญพืช สร้างรังจากกิ่งไม้ บนต้นไม้ เชิงผา หรือบนพื้นดินขึ้นกับชนิด วางไข่ 1-2 ใบ พ่อและแม่ช่วยกันเลี้ยงลูก ลูกอ่อนยังเดินไม่ได้ มีระยะเวลาออกจากรัง 7-28 วัน โดยพ่อแม่นกจะเลี้ยงลูกด้วยการสำรอกอาหารที่เป็นของเหลวออกจากกระเพาะพักป้อนให้ลูก ที่มีลักษณะคล้ายน้ำนม มีโครงสร้างทางและองค์ประกอบเคมีคล้ายน้ำนมของกระต่าย ซึ่งมีด้วยกันทั้งสองเพศ[1] [2]

นกในวงศ์และอันดับนี้ มีอยู่ประมาณ 40 สกุล 310 สปีชีส์ พบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลก ในประเทศไทยพบราว 28 สปีชีส์ ใน 9 สกุล[2] โดยมีสปีชีส์หนึ่งที่สูญพันธุ์ไปนานกว่า 350 ปีแล้วและเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี คือ นกโดโด[3]

เป็นนกที่มนุษย์คุ้นเคยเป็นอย่างดี และสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง อาทิ ในการสื่อสารในสมัยโบราณ ที่ใช้นกพิราบสื่อสาร ที่จะบินกลับถิ่นฐานที่เป็นที่จากมาแม้ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน ด้วยสนามแม่เหล็กโลก[4] หรือใช้สำหรับแข่งขันกันในการบิน[5] หรือใช้เลี้ยงเป็นอาหาร, เป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม หรือฟังเสียงร้อง ที่สามารถต่อยอดแตกเป็นอาชีพต่าง ๆ ได้[6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วงศ์นกพิราบและนกเขา (อังกฤษ: นกพิราบ นกพิราบ) เป็นวงศ์ของนกที่อยู่ในอันดับ Columbiformes ซึ่งมีอยู่เพียงวงศ์เดียวคือ Columbidae

เป็นนกที่มีขนาดตั้งแต่เล็กมากจนถึงใหญ่ (15-120 เซนติเมตร) มีลักษณะโดยทั่วไปคืออ้วนกลมคอสั้นปากเรียวมีปุ่มเนื้อเหนือปากปากเล็กสันปากบนโค้งเล็กน้อยรูจมูกไม่ทะลุถึงกันเพราะมีผนังกั้นหางยาวปานกลาง ขนหางมี 12-20 เส้นปีกยาวปานกลางขนปลายปีกมี 11 เส้น (10 เส้นทำหน้าที่ในการบิน) ขนกลางปีกมี 11-15 เส้นและมักไม่มีขนกลางปีกเส้นที่ 5 ขาสั้นหน้าแข้งเป็นเกล็ดแบบซ้อนบริเวณอื่นเป็นเกล็ดแบบร่างแห

ตัวเต็มวัยไม่มีขนอุยขนไม่มีแกนขนรองหรือมีแต่เล็กมากต่อมน้ำมันไม่มีขนปกคลุมหรือไม่มีต่อมน้ำมันผิวหนังบอบบาง

เป็นนกที่กินพืชเป็นอาหารโดยเฉพาะเมล็ดพืชและธัญพืชสร้างรังจากกิ่งไม้บนต้นไม้เชิงผาหรือบนพื้นดินขึ้นกับชนิดวางไข่ 1-2 ใบพ่อและแม่ช่วยกันเลี้ยงลูกลูกอ่อนยังเดินไม่ได้มีระยะเวลาออกจากรัง 7-28 วัน ที่มีลักษณะคล้ายน้ำนมมีโครงสร้างทางและองค์ประกอบเคมีคล้ายน้ำนมของกระต่ายซึ่งมีด้วยกันทั้งสองเพศ [1] [2]

นกในวงศ์และอันดับนี้มีอยู่ประมาณ 40 สกุล 310 สปีชีส์พบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลกในประเทศไทยพบราว 28 สปีชีส์ใน 9 สกุล [2] โดยมีสปีชีส์หนึ่งที่สูญพันธุ์ไปนานกว่า 350 ปีแล้วและเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือนกโดโด [3]

เป็นนกที่มนุษย์คุ้นเคยเป็นอย่างดีและสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างอาทิในการสื่อสารในสมัยโบราณที่ใช้นกพิราบสื่อสารที่จะบินกลับถิ่นฐานที่เป็นที่จากมาแม้ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนด้วยสนามแม่เหล็กโลก [4] หรือใช้เลี้ยงเป็นอาหาร เป็นสัตว์เลี้ยงสวยงามหรือฟังเสียงร้องที่สามารถต่อยอดแตกเป็นอาชีพต่างๆ ได้ [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วงศ์นกพิราบและนกเขา(อังกฤษ:นกเขา,นกพิราบ)เป็นวงศ์ของนกที่อยู่ในอันดับ columbiformes ซึ่งมีอยู่เพียงวงศ์เดียวคือพิ ราบ

เป็นนกที่มีขนาดตั้งแต่เล็กมากจนถึงใหญ่( 15-120 เซนติเมตร)มีลักษณะโดยทั่วไปคืออ้วนกลมคอสั้นปากเรียวมีปุ่มเนื้อเหนือปากปากเล็กสันปากบนโค้งเล็กน้อยรูจมูกไม่ทะลุถึงกันเพราะมีผนังกั้นหางยาวปานกลางขนหางมี 12-20 12-20 12-20 เส้นปีกยาวปานกลางขนปลายปีกมี 11 เส้น( 10 เส้นทำหน้าที่ในการบิน)ขนกลางปีกมี 11-15 11-15 11-15 เส้นและมักไม่มีขนกลางปีกเส้นที่ 5 ขาสั้นหน้าแข้งเป็นเกล็ดแบบซ้อนบริเวณอื่นเป็นเกล็ดแบบร่างแห

ตัวเต็มวัยไม่มีขนอุยขนไม่มีแกนขนรองหรือมีแต่เล็กมากต่อมน้ำมันไม่มีขนปกคลุมหรือไม่มีต่อมน้ำมัน ผิวหนังบอบบาง

เป็นนกที่กินพืชเป็นอาหารโดยเฉพาะเมล็ดพืชและธัญพืชสร้างรังจากกิ่งไม้บนต้นไม้เชิงผาหรือบนพื้นดินขึ้นกับชนิดวางไข่ 1-2 1-2 พ่อและแม่ช่วยกันเลี้ยงลูกใบลูกอ่อนยังเดินไม่ได้มีระยะเวลาออกจากรัง 7-28 ท่องเที่ยวเพื่อรับฟังเรื่องราวของที่มีลักษณะคล้ายน้ำนมมีโครงสร้างทางและองค์ประกอบเคมีคล้ายน้ำนมขซึ่งมีด้วยกันทั้งสองเพศ[ 1 ][ 2 ]

นกในวงศ์และอันดับนี้มีอยู่ประมาณ 40 สกุล 310 สปีชีส์พบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลกในประเทศไทยพบราว 28 สปีชีส์ใน 9 สกุล[ 2 ]โดยมีสปีชีส์หนึ่งที่สูญพันธุ์ไปนานกว่า 350 ปีแล้วและเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือนกโดโด[ 3 ]

เป็นนกที่มนุษย์คุ้นเคยเป็นอย่างดีและสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างอาทิในการสื่อสารในสมัยโบราณที่ใช้นกพิราบสื่อสารที่จะบินกลับถิ่นฐานที่เป็นที่จากมาแม้ว่าจะด้วยสนามแม่เหล็กโลก[ 4 ]หรือใช้เลี้ยงเป็นอาหารเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงามหรือฟังเสียงร้องที่สามารถต่อยอดแตกเป็นอาชีพต่างๆได้[ 6 ]